ประโยคสั้น ๆที่จำไม่ลืม(2)
เเต่วันนี้ชาญปวีย์ทำให้ผ่องจันทร์เเปลกใจเเละอัศจรรย์ใจอยู่บ้างที่ได้เห็นเเละได้ยินเขาพูด ประโยคยาวๆได้ เป็นครั้งเเรก
ผ่องจันทร์คิดถึงตรงนี้ก็ค่อยๆดันอกหนาที่เต็ม ไปด้วยมัดกล้ามเเข็งเเรงของชาญปวีย์ออกเบาๆ ดวงตาของผู้สูงวัยพิศมองใบหน้าของเขาอย่าง พิจารณา
"คุณต้นบอกผ่องสิคะ ว่าวันนี้ทำไม่ถึงได้ เอ่อ..กล้าพูดหักหน้าคุณท่านถึงขนาดนั้นล่ะคะ ไหนจะเสื้อผ้าพวกนี้อีก "
ผ่องจันทร์เอ่ยถาม พลางยกมือผอมเเห้ง ลูบไปตามรอยขาดของเสื้อยืดเก่าที่ชาญปวีย์สวมอยู่
ใบหน้าชาญปวีย์อ่อนโยนลงหลายส่วนมุมปากหนาสีเเดงอมชมพูนั้นยกยิ้มเบาๆ ก่อนตอบ ด้วยเสียงทุ้มลึกชวนฟัง
"เเม่ผ่องสงสัยอะไร เสื้อผ้าที่ผมสวมใส่ หรือสิ่งที่ผมพูดในวันนี้"
"ทั้งสองอย่างค่ะ"
ชาญปวีย์ยกมือขึ้นเสยผมสีดำสนิท เส้นผม ที่มีน้ำหนัก เเละนุ่มลื่นมือหอมสะอาด อย่างเคยชิน พลางถอนหายใจหนักๆก่อนตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ผมพูดในสิ่งที่อยากพูด ส่วนเสื้อผ้า ผมก็ใส่ เเบบที่ผมชอบเเต่ไม่เคยได้ใส่เเค่นั้นเอง"
"เวรกรรม คุณต้นนะคุณต้น เห็นไหมคะ ว่าคุณท่านโกรธขนาดไหน ผ่องอดคิดไม่ได้ว่า หากคุณท่านมีปืน คงได้ .."
"ฆ่าผมตายตามคุณเเม่ไปเเล้ว"
ชาญปวีย์พูดประโยคนี้ออกมาอย่างเหม่อลอย เเละเจ็บปวด
ผ่องจันทร์หน้าซีดเเละรู้สึกผิดเมื่อโพล่ง ประโยค ที่ทำร้ายจิตใจของชาญปวีย์เข้าจัง
ชาญปวีย์หน้าหมองลงเล็กน้อยเเต่ก็เพียง เเว่บ เดียวเท่านั้น ไม่ทันให้ผ่องจันทร์ทันสังเกตุด้วยซ้ำ
"ผ่องขอโทษนะคะคุณต้น ผ่องไม่ควรพูด"
ผ่องจันทร์เอ่ยขอโทษทั้งน้ำตาชาญปวีย์ยิ้ม อย่างอ่อนโยน ใบหน้าหล่อเหลานั้น ดูอ่อนเยาว์ เเละอ่อนโยน เเม้ว่าตอนนี้ชาญปวีย์อายุยี่สิบสามเเล้ว เเต่ในสายตาของผ่องจันทร์นั้น ยังคงมองเขา เป็นเด็กน้อยผู้อ่อนเเอคนนั้นเสมอ
"ไม่เป็นไรครับเเม่ผ่องผมโตพอที่จะ…รับฟัง ได้เเล้ว เเต่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกหิวจังเลยครับ"
"โธ่! ทูนหัวของผ่อง งั้นรอสักครู่นะคะ ผ่องจะไปทำของโปรดของคุณต้นมาให้"
ผ่องจันทร์พูดจบ ก็รีบลุกขึ้นเดินออกจากห้อง "หลบภัย" ออกไปอย่างรวดเร็ว
ชาญปวีย์ถอนหายใจยาวพลางลุกขึ้นเดินไป ทรุดตัวนั่งลงบนเตียงเล็กๆเพียงสามฟุต กับที่นอน เเข็งๆ เเต่เขากลับนอนบนที่นอนนี้ได้อย่างสบาย เเละรู้สึกอบอุ่นเป็นที่สุด เพราะมันคือสถานที่ที่เขา กับเเม่ได้นอนหลับสนิทโดยที่ไม่ต้องกังวลว่า พ่อของเขาจะเข้ามาทำร้ายได้
เขาเอื้อมมือหยิบกรอบรูปบนหัวเตียงมากอดไว้เเนบอก เเล้วเอนตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า เเล้วผลอยหลับไป
--------------------
ความฝัน
ปัง!! โครม!!
เสียงประตูถูกถีบออกอย่างเเรงชาญปวีย์สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจสุดขีด
มือน้อยๆกอดผ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ใว้เเน่น พลางหอบหายใจเเรงอย่างหวาดกลัว
เขาลุกขึ้นยืนเเล้วพยายามโผเข้าหาอ้อมกอด ของเเม่อย่างต้องการที่พึ่งเเละการปกป้อง เเต่..เขาก็กอดได้เเค่เพียงอากาศ เเม้จะเห็นชัดว่า เเม่ของเขาอยู่ใกล้เพียงเเค่เอื้อมมือ เเต่กลับกอดไม่ได้
เขาจึงได้เเต่ยืนมองภาพที่พ่อตบตีทำร้ายเเม่ อย่างทารุณ โดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
ทำได้เพียงกอดตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวเเละเจ็บปวด
เขาไม่รู้เลยว่าทั้งที่พ่อตีเเม่ ไม่ได้ตีเขาเลย เเล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกเจ็บขนาดนี้
เสียงเเม่ร้องโหยหวลด้วยความเจ็บปวดดั่งลั่นเข้าในความรู้สึก ดังเข้าไปในหัวใจดวงเล็กๆ ของเขาครั้งเเล้วครั้งเล่า
ชาญปวีย์มองออกไปนอกประตูห้อง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งวิ่งตึงๆเข้ามา
ดวงตาเขาเบิกโตด้วยความดีใจราวได้เห็น เเสงสว่างที่อบอุ่นจากปากถ้ำที่มืดมนเเละเหน็บหนาวที่เขากำลังหวาดกลัวอยู่นั้น
"เเม่ผ่องช่วยผมด้วยครับช่วยคุณเเม่ด้วยครับ"
ชาญปวีย์รีบวิ่งออกไปหาผ่องจันทร์ด้วยหัวใจที่เต้นเเรง
ผ่องจันทร์โอบกอดร่างของเขาที่กำลังสั่นเทา ด้วยความหวาดกลัวใว้เเนบอก มือที่เย็นเฉียบของเขา กอดคอผ่องจันทร์ใว้เเน่น พลางร่ำร้องขึ้นอีกครั้ง