บท
ตั้งค่า

๑.๔ ไผ่ต้องลม

“กูไม่ฆ่าน้องมึงหรอก ถึงมึงจะเคยเชี่ยกับกู จนกูอยากจะฆ่ามึงก็ตาม” นภัทรแทรกขึ้นอย่างรำคาญและหงุดหงิดกับความอ้อยส้อยของสองพี่น้อง แต่ลึกๆ ก็สะใจเมื่อได้เห็นสีหน้าอันแสนเจ็บปวดของอดีตเพื่อนรักอย่างกวิน

“เรื่องเลวๆ ที่กูทำไม่เกี่ยวกับน้องกู ไผ่เป็นเด็กดี กูขอร้องละไนท์ มึงอย่าทำอะไรรุนแรงกับน้องกูเลย...” เสียงของกวินอ่อนลงคล้ายคนยอมจำนนต่อสถานการณ์

“กูจำเป็นต้องรับปากมึงมั้ย ในเมื่อน้องมึงเสนอตัวเอง แถมยังบอกว่าจะอดทนทุกอย่าง เอาเป็นว่ากูให้เวลามึงกับน้องมึงตกลงกันอีกห้านาที ไปตกลงกันข้างนอก เพราะกูจะทำงาน ได้คำตอบยังไงก็มาบอกกู แล้วก็จำใส่หัวมึงไว้ด้วย ว่านี่ เป็นโอกาสเดียวที่กูจะยังเหลือให้มึง”

กวินไม่ต่อล้อต่อเถียง แต่จับมือน้องน้อยพาเดินออกมานอกห้องอย่างรวดเร็ว ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกัน แค่มองหน้ากันและกัน สายตาของคนเป็นพี่เจ็บปวด น้ำตาคลอเบ้า เมื่อเห็นดวงหน้าอันหวานใสบริสุทธิ์ของน้องสาว มือใหญ่ยกขึ้นลูบแก้มนวลอย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอดไว้แน่นอย่างหวงแหนสุดหัวใจ มันช่างยากยิ่งนักกับการต้องปล่อยให้น้องน้อยไปเผชิญหน้ากับความเลวร้ายที่ตัวเองเป็นคนก่อ แต่ตอนนี้เขาเหมือนหมาจนตรอก เหมือนคนที่ถูกบีบทุกทาง แล้วเขาจะมีสักกี่ทางเลือกให้ต้องเดิน นอกจากปล่อยให้น้องสาวที่เขาเฝ้าทะนุถนอมปกป้องมาตั้งแต่เด็กไปอยู่ในกำมือของคนที่เต็มไปด้วยไฟแค้นอย่างนภัทร

ร่างบางในชุดนักศึกษายืนตัวลีบอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเจ้าของห้องตามลำพัง หลังจากพี่ชายกลับไปแล้ว กลิ่นจันทร์สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้มหน้างุด เมื่อร่างสูงเดินอ้อมโต๊ะมาหา แล้วใช้นิ้วเชยคางมนของเธอขึ้นเพื่อให้สบประสานสายตากับเขา ซึ่งนั่นยิ่งทำให้กลิ่นจันทร์ตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม

“กลัวเหรอ?” เสียงหล่อทุ้มสมตัวถามอย่างเย็นชา เช่นเดียวกับแววตาที่กำลังมองเธอ

“ค่ะ”

“ถ้ากลัวแล้วจะเสนอตัวทำไม”

“หนูสงสารพี่ป้อง หนูอยากช่วย”

‘หนู’ อย่างนั้นเหรอ เธอแทนตัวเองว่าหนูเวลาพูดกับเขา ให้ตายสิ! มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังจะรังแกเด็กไม่มีทางสู้ยังไงยังงั้น แต่ไม่มีทางหรอกที่เขาจะสงสารหรือเห็นใจกับอีแค่เรื่องเท่านี้ ในเมื่อเด็กนี่มันเป็นน้องสาวของไอ้เพื่อนทรยศ

“เธอมันอวดดี เอ๊ะ...หรือว่าจริงๆ ไม่ได้อวดดี แต่แอบร้ายลึกเหมือนพี่ชายของเธอ เห็นฉันหล่อรวยก็เลยอยากได้เป็นผัวใช่มั้ย งานนี้สบายทั้งขึ้นทั้งล่อง ได้ไถ่บาปให้พี่ชาย เผลอๆ ถ้าทำให้ฉันรักฉันหลงได้ เธอก็สบายไปทั้งชาติ แต่ไม่มีทางหรอกนะอย่าได้ฝันหวาน คนอย่างฉันนอกจากจะไม่ให้โอกาสคนพร่ำเพรื่อแล้ว ฉันยังไม่คิดจะโง่ซ้ำซากด้วย เธอจะไม่มีวันได้รับความรู้สึกดีๆ หรือสิ่งดีๆ จากฉัน สิ่งเดียวที่เธอจะได้รับก็คือการระบายความแค้นเท่านั้น จำใส่หัวเธอไว้ด้วย”

“ค่ะ หนูจะไม่ลืม” หนูน้อยในกำมือราชสีห์ตอบอย่างใสซื่อ สายตาที่มองเขาก็เช่นกัน

“เลิกแทนตัวเองว่าหนูได้แล้ว มันน่ารำคาญ” แถมคำคำนั้นอาจจะทำให้เขาใจอ่อนเข้าสักวันก็เป็นได้ เขาเลยต้องทำท่าหงุดหงิดใส่แบบที่ทำอยู่ตอนนี้ไงล่ะ

“ขอโทษค่ะ”

“พูดกับฉันเหมือนเวลาที่เธอพูดกับคนอื่น แต่ห้ามเรียกฉันว่าพี่ไนท์ เธอต้องเรียกฉันว่าคุณไนท์ เพราะตอนนี้เธออยู่ในฐานะ ‘นางบำเรอ’ ของฉัน”

“ไผ่ต้องทำอะไรบ้างคะ”

“ก็นอนถ่างขาให้ฉันเอาไง!” ประโยคนั้นดังเกือบเป็นตะคอก ทำเอาร่างบางสะดุ้งโหยง แต่ใบหน้าแดงซ่านด้วยความกระดากอาย

“คือไผ่หมายถึงเรื่องอื่นค่ะ คุณอยากให้ไผ่ทำอะไรให้บ้างคะ”

“ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ทำตัวเชื่องๆ ก็พอ แล้วก็อย่าคิดทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉัน เพราะเธอไม่มีสิทธิ์” เขาย้ำถึงสถานะของเธออีกรอบ ทำให้กลิ่นจันทร์ต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงไว้ในอกอย่างรวดเร็ว

“ไผ่รู้ค่ะว่าไผ่ไม่มีสิทธิ์อะไร ไผ่อยากรู้ว่าคุณอยากให้ไผ่ลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วมาอยู่กับคุณหรือเปล่า”

“ไม่ต้อง จะลาออกมาทำไม เป็นภาระฉันเปล่าๆ เธอคิดจะมานอนอยู่บ้านสบายๆ อย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอกลับไปเรียนหนังสือเหมือนเดิม เวลาฉัน ‘อยาก’ ฉันจะโทร.ไปบอกให้เธอมาหาเอง ที่สำคัญหายาคุมกินให้เรียบร้อยซะ เพราะถ้าเธอปล่อยให้ตัวเองท้องเมื่อไหร่ ฉันจะถีบหัวเธอส่งทันที และอย่าหวังว่าฉันจะชายตาแลมารหัวขนนั้นด้วย”

“ค่ะ” เสียงหวานรับคำสั้นๆ แววตาฉายความหวาดหวั่นและหมองหม่นออกมาพร้อมกัน ทำให้นภัทรต้องรีบเมินหน้าหนีแล้วเอ่ยปากไล่

“กลับไปซะ แล้วฉันจะโทร.หา”

กลิ่นจันทร์ไม่ได้พูดหรือถามอะไรต่ออีก เธอทำแค่หมุนตัวกลับ แล้วเดินไปเปิดประตูออกจากห้อง จากนั้นก็นั่งรถเมล์ไปยังมหาวิทยาลัยด้วยความรู้สึกที่ทั้งสับสนและหวาดหวั่นกับอนาคตของตัวเอง…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel