๒.๑ รักทรยศ
๒
รักทรยศ
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กับการต้องเดินเข้ามาในร้านยาที่ตั้งอยู่ย่านมหาวิทยาลัย แล้วบอกกับเภสัชกรว่าต้องการซื้อยาคุมกำเนิด แต่ไม่ว่ายากแค่ไหน กลิ่นจันทร์ก็จำต้องบอกความต้องการของตัวเองออกไป ก่อนที่จะมีคนเข้ามาในร้าน ซึ่งนั่นยิ่งจะทำให้เธออับอายมากกว่าเดิม
“หนูอยากได้ยาคุมค่ะ” บอกเสร็จก็เสมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาคนขาย
“เอายี่ห้ออะไรดีครับ”
“ยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ”
“ไม่ต้องอายนะครับน้อง ป้องกันไว้น่ะดีแล้ว ดีกว่ามีปัญหาตามมาทีหลัง” เภสัชกรเหมือนจะรู้ว่ากลิ่นจันทร์กำลังรู้สึกอย่างไร จึงบอกเพื่อให้สาวน้อยคลายความกังวล ขณะส่งกล่องยาให้เธอ
“คือหนูไม่เคยกิน ต้องกินยังไงคะ” กลิ่นจันทร์ข่มความอายถามออกไป พลางภาวนาว่าขออย่าเพิ่งให้คนอื่นเข้ามาในร้านตอนนี้เลย
“ง่ายๆ ครับ ไม่ต้องกังวลนะ ยาตัวนี้เป็นยาชนิด 21 เม็ด น้องทานตามวันที่ระบุบนแผงเลย เช่นวันนี้วันอังคารก็ให้น้องแกะเม็ดของวันอังคาร กินวันละเม็ดตามลูกศรไปเรื่อยๆ พอยาหมดก็ให้เว้นเจ็ดวัน แล้วค่อยเริ่มแผงใหม่”
“แล้วมันมีผลข้างเคียงหรือเปล่าคะ”
“ก็มีบ้างนะ เช่นวิงเวียนศีรษะ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีหรอก ถ้าน้องกลัวก็ให้กินก่อนนอนทุกวัน อ้อ…บางคนกินแล้วอาจดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ หุ่นบางๆ อย่างน้องพี่ว่าน่าจะสวยและน่ามองขึ้นกว่าเดิมเลยละ เอาไปเผื่อเลยมั้ย”
“ถ้าหมดแล้วหนูค่อยมาซื้อใหม่ดีกว่าค่ะ”
“ครับ แล้วแต่สะดวก”
“ขอบคุณนะคะ” กลิ่นจันทร์ยื่นเงินค่ายาแล้วรีบเก็บกล่องยาใส่กระเป๋าขณะรอเงินทอน และตอนนั้นเองกลิ่นจันทร์ก็เห็นอิงดาวเดินเข้ามาในร้าน ทำเอาเธอต้องแอบระบายลมหายใจอย่างโล่งอก ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้จะตอบคำถามของอิงดาวว่ายังไง
“อ้าวไผ่ กลับมาแล้วเหรอ มาซื้อยาอะไรน่ะ”
“เรามาซื้อยาอมแก้เจ็บคอน่ะ แล้วอิงล่ะ” กลิ่นจันทร์จำต้องโกหกเพื่อน พร้อมกันนั้นก็นึกเกลียดตัวเอง ที่เหมือนจะกลายเป็นคนขี้โกหกไปแล้ว แต่เรื่องนี้เธอบอกความจริงไม่ได้จริงๆ
“มาซื้อยาแก้ปวดท้องประจำเดือน เจอแกก็ดีแล้ว แกช่วยลารุ่นพี่ให้หน่อยนะ วันนี้เราจะไม่เข้าเชียร์ บอกพี่เค้าว่าเราปวดท้องประจำเดือน”
“ปวดมากมั้ยอิง แล้วจะไปเรียนไหวหรือเปล่า” กลิ่นจันทร์ถามอย่างเป็นห่วง และลืมเรื่องความกังวลของตัวเองไปเสียสนิทในทันที
“ก็มากอยู่ แต่คิดว่ากินยาแล้วนอนพักก็คงหายแหละ บ่ายนี้เราคงไม่เข้าทั้งเรียนทั้งเชียร์นั่นแหละ”
“งั้นเดี๋ยวเราจดเลกเชอร์เผื่อนะ เรียนเสร็จจะถ่ายเอกสารไว้ให้”
“ขอบใจนะไผ่ แกเป็นเพื่อนที่ดีเสมอเลย” อิงดาวบอกอย่างซาบซึ้ง แล้วก็ยืนรอเหมือนกับอึดอัดใจที่จะซื้อยาต่อหน้าคนเป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงขอตัวกลับหอเพื่อเตรียมตัวไปเรียนในช่วงบ่าย
เมื่อกลับถึงหอพัก กลิ่นจันทร์ก็อาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาชุดใหม่ โดยไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อเชียร์สีขาวกับกางเกงวอร์มสีดำใส่ในกระเป๋าเป้ไปด้วย เธอลงมาข้างล่างแล้วโบกมอเตอร์ไซค์วินให้ไปส่งที่ตึกคณะ จากนั้นก็เข้าเรียนพร้อมกับเพื่อนๆ ตามปกติ หลายคนถามหาอิงดาวเพราะนับตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่ เธอกับอิงดาวก็เหมือนเงาของกันและกัน พออิงดาวหายไป ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ใครๆ จะถามหาอิงดาวจากเธอ
ตลอดเวลาที่นั่งเรียน กลิ่นจันทร์พยายามตั้งใจและจดจ่ออยู่กับการสอนของอาจารย์มากที่สุด แต่เธอแทบจะเรียนไม่รู้เรื่อง เพราะความคิดมักจะประหวัดไปถึงหน้าหล่อๆ เหี้ยมๆ ของผู้ชายคนนั้น คนที่เคยเป็นอดีตเพื่อนรักของพี่กวิน(พี่ป้อง) คนที่ครั้งหนึ่งเคยทักทายเธออย่างเป็นกันเอง แต่ตอนนี้เธอกลายไปเป็นคนใต้อาณัติของเขาเสียแล้ว เขาไม่ได้เป็นพี่ชายใจดีเหมือนเคย แต่เป็นคนที่เต็มไปด้วยเพลิงแค้น คนคนนั้นก็สั่งให้เธอซื้อยาคุมกำเนิดมากิน แล้ววันไหนกันเล่าที่เขาจะอยากได้เธอ มันจะน่ากลัวและน่าอายมากแค่ไหน ในยามที่ต้องทำหน้าที่เป็น ‘นางบำเรอ’ ของเขาจริงๆ
หลังจากเลิกเรียน กลิ่นจันทร์ก็เข้าร่วมกิจกรรมเชียร์ของคณะ เธอชอบกิจกรรมนี้เพราะมันเป็นกิจกรรมที่แทบจะไม่มีเวลาว่างให้คิดถึงใครเลย ร่างบางในชุดเสื้อเชียร์สีขาวยัดชายเข้าไปในกางเกงวอร์ม เดินตรงเข้าไปหาชุด(กลุ่ม)สตาฟฟ์รุ่นพี่ที่ใส่เสื้อสีดำแล้วมองหาประธานเชียร์
“มองหาใครอยู่เหรอครับน้องไผ่” เวธัสรุ่นพี่ปีสามซึ่งเป็นรองประธานเชียร์เอ่ยปากถาม เมื่อเห็นว่าสาวรุ่นน้องคล้ายกับกำลังมองหาใครบางคนอยู่
“หนูมาหาพี่พีน่ะค่ะ”
“หาไอ้พี? มีธุระอะไรหรือเปล่า วันนี้ไอ้พีมันลาน่ะ เห็นว่ามีธุระด่วน น้องมีอะไรฝากพี่ไว้ได้นะ”
“หนูมาลาให้เพื่อนหนู ชื่ออิงดาวค่ะ วันนี้เพื่อนหนูเข้ากิจกรรมเชียร์ไม่ได้เพราะว่าปวดท้องประจำเดือน เลยฝากหนูมาลาพี่ๆ ให้ค่ะ”
“โอเค ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่รับเรื่องไว้ให้นะ”
“ขอบคุณค่ะ”
กลิ่นจันทร์เอ่ยขอบคุณแล้วกลับไปเข้าแถวกับเพื่อนๆ อย่างค่อนข้างสบายใจ อย่างน้อยรุ่นพี่ที่นี่ก็มีเหตุผล ถึงแม้กิจกรรมเชียร์จะค่อนข้างตึงเครียดและจริงจังไม่ต่างจากคณะหรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ เหมือนที่เธอเคยได้ยินมาก็ตาม
สี่ทุ่มกว่าๆ กิจกรรมการประชุมเชียร์จึงจบลง กลิ่นจันทร์ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย เลยเปิดขวดน้ำที่รุ่นพี่แจกแล้วยกขึ้นดื่มอึกๆ ในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มทยอยแยกย้ายกลับกันแล้ว
“น้องไผ่กลับยังไง” คนที่ถามคือเวธัสนั่นเอง กลิ่นจันทร์กำลังคิดว่าจะขอติดรถเพื่อนกลับ เพราะปกติเธอกลับกับอิงดาว เนื่องจากเพื่อนสาวมีรถและหอพักอยู่ใกล้ๆ กัน แต่วันนี้อิงดาวไม่มา เธอจึงต้องหาทางกลับเอง
“ว่าจะขอติดรถเพื่อนกลับน่ะค่ะ”
“งั้นกลับกับพี่ หอพี่ก็อยู่ที่เดียวกับเรานั่นแหละ”
“หอพักวรรณภาเหรอ พี่อยู่ตึกไหนคะ” กลิ่นจันทร์ถามเช่นนั้นเพราะหอที่เธอพักอยู่มีหลายตึก เธอพักอยู่ตึกสอง ส่วนอิงดาวอยู่ตึกสาม
“พี่อยู่ตึกห้าน่ะ”
“แล้วพี่รู้ได้ไงคะว่าหนูพักอยู่หอเดียวกับพี่”
“พี่เคยเห็นเราเวลาที่พี่ขับรถผ่านตอนเช้าน่ะ เราชอบไปยืนรอเพื่อนอยู่หน้าหอพักใช่ไหม”
“ค่ะ หนูรออิงน่ะค่ะ”
“ตกลงว่ากลับกับพี่นะ”
กลิ่นจันทร์ชะเง้อมองหาเพื่อนที่พอจะให้ติดรถกลับได้ แต่เพราะเธอมัวแต่คุยกับเวธัส เพื่อนของเธอจึงกลับหมดแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องตอบรับคำชวนของรุ่นพี่ และทำให้เธอต้องเข้ามานั่งอยู่ในรถเขาดังเช่นตอนนี้
เวธัสชวนคุยอย่างเป็นกันเอง ทำให้กลิ่นจันทร์ไม่อึดอัด เธอบอกกับเวธัสว่าจะลงที่หน้าตึกสาม เพราะอยากแวะไปดูอาการและจะเอาเลกเชอร์ของวันนี้ไปให้อิงดาวด้วย
“พี่ขอไลน์ได้หรือเปล่าครับน้องไผ่” เวธัสเอ่ยอย่างสุภาพหลังจากจอดรถที่หน้าตึกสามของหอพักวรรณภาเรียบร้อยแล้ว
“คะ?” คิ้วเรียวได้รูปของกลิ่นจันทร์ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
“เผื่อมีธุระหรืออะไรพี่จะได้ไลน์หา พี่รับรองว่าจะไม่จีบ สบายใจได้” เวธัสรีบเอ่ยขึ้นดักคอและยิ้มให้แบบเปิดเผยความจริงใจ
“ถ้าไผ่อ่านช้าหรือว่าไม่ตอบพี่อย่าว่านะคะ พอดีไผ่ไม่ค่อยได้เล่นไลน์ ส่วนใหญ่ก็อ่านไลน์กลุ่มของเพื่อนๆ เท่านั้น” การนั่งรถมาด้วยกันและได้พูดคุยกัน ทำให้กลิ่นจันทร์รู้สึกสนิทใจกับเวธัสพอสมควร เธอจึงไม่กล้าจะปฏิเสธไมตรีของเขาออกไปตรงๆ
“พี่ไม่ว่าหรอก และสัญญาว่าจะไลน์หาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น” เวธัสบอกให้สบายใจอีกรอบ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้สาวน้อยแอดไลน์ แล้วจึงปล่อยให้กลิ่นจันทร์ลงจากรถ
มือบางยื่นไปกดเรียกลิฟต์ ยืนรออยู่ครู่หนึ่งลิฟต์ก็มา เธอก้าวเข้าไปในนั้นเพียงลำพังแล้วกดชั้นห้าซึ่งเป็นชั้นที่อิงดาวพักอยู่ จากนั้นลิฟต์ก็พาเธอขึ้นไปชั้นบนโดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ