บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

เมื่อต้นข้าวเดินเข้ามาในออฟฟิตพร้อมกับหลงแล้ว เขาก็เดินไปนั่งที่โซฟาที่อยู่ไม่ไกล หลงเองก็ตามมานั่งพร้อมกับเล่นโทรศัพท์ด้วยท่าทีปกติ พร้อมกับวางมือพาดไปทางด้านหลังต้นข้าว เหมือนกับว่าร่างสูงกับโอบไหล่เล็กของต้นข้าวอยู่ ต้นข้าวหน้าแดง นั่งตัวแข็งทื่อทันที จนหลงเริ่มสังเกตเห็นเพราะอีกฝ่ายเอาแต่นั่งหลังตรงไม่ขยับเลย

“เป็นอะไรวะ นั่งเกร็งเชียว” หลงถามด้วยความสงสัย

“เอ่อ..เปล่าครับเปล่า” ต้นข้าวปฎิเสธ หลงขมวดคิ้วมองต้นข้าวด้วยความสงสัย

“เปล่าอะไรของมึง ก็กูเห็นมึงนั่งเกร็งอยู่เนี้ย เป็นอะไรวะ หรือว่า..เกร็งกู?” หลงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ต้นข้าวเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายพูดในสิ่งที่เขาคิดออกมา

“ก็..ไม่เชิงครับ” ต้นข้าวบอกเสียงอ้อมแอ้ม

หลงมองใบหน้าหวานที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้ามองเขาเลยแม้แต่น้อย มุมปากของเขามีรอยยิ้มผุดขึ้นมา

“เกร็งทำไมวะหื้ม?” หลงแกล้งเอาแขนไปโอบไหล่เล็กพร้อมกับดันต้นข้าวให้ขยับเข้ามาแนบชิดกับเขามากขึ้น พร้อมกับเอียงหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของต้นข้าวเบาๆ

“กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า”

ต้นข้าวเบิกตากว้างพร้อมกับขนลุกซู่ด้วยความตื่นเต้น ลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่ายกำลังเป่ารดใบหูของเขา

“หึหึหึ ฮ่าๆๆๆ” หลงระเบิดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตื่นๆของต้นข้าว ร่างสูงค่อยๆถอยห่างออกมาอยู่ที่เดิมพร้อมกับขยี้ผมของร่างบางด้วยความเอ็นดู

“กูล้อเล่นน่า เลิกเกร็งได้แล้ว เพราะคืนนี้มึงต้องนอนกับกูในห้องสองคน รีบหายเกร็งกูได้ละ แม่งจะพากูเกร็งตามไปด้วยแล้วเนี้ย” หลงพูดยิ้มๆ ต้นข้าวเหลือบตามองหลงนิดๆแล้วพยักหน้าตอบกลับไป หลงมองต้นข้าวยิ้มๆแล้วลูบหัวเล็กของต้นข้าวอีกครั้ง

“เออดีแล้ว มึงมาอยู่ที่นี่ก็ทำตัวปกตินั่นแหละ ยังไงก็เป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้น กูเองก็ไม่ได้โหดอะไรมากมายขนาดนั้น ไม่ต้องกลัว” หลงพูดเสียงนุ่ม ต้นข้าวเม้มปากนิดๆแล้วพยักหน้า

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้หลงเอามือออกจากเรือนผมนุ่มของต้นข้าวทันที ยินเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับข้าวสองกล่อง

“มาแล้วเฮียย ข้าวผัดกุนเชียงสองกล่องกับน้ำส้มและน้ำเปล่าอย่างละขวด” ยินชูถุงข้าวให้หลงกับต้นข้าวได้ดู

“แล้วมึงกินอะไรยัง” หลงถาม พร้อมกับรับถุงข้าวจากมือยิน

“เดี๋ยวออกไปกินกับพวกไอชีพเอาเฮีย พวกมันรออยู่ที่หลังร้านละ” ยินบอกหลงยิ้มๆ

“เออๆๆ แล้วอย่าเข้าสายนะพวกมึงอ่ะ ถ้ารอบนี้เข้าสายเกินครึ่งชั่วโมงนะ กูจะหักนาทีละร้อย” หลงชี้หน้ายินอย่างคาดโทษ ยินยิ้มกว้างใส่หลงอย่างเอาใจ

“ไม่มีสายแน่นอนเฮีย รับรองเลยว่ามาตรงเวลาเป๊ะ!”

“ให้แน่นะพวกมึงอ่ะ ถ้ากูจับได้ว่าเอาเวลากินข้าวไปแทงสนุ๊กที่โต๊ะเสี่ยช้างอีกละก็..ครั้งนี้กูไม่ตามไปจ่ายให้นะเว้ย” หลงพูดขู่ เพราะไอลูกน้องตัวดีของเขามันชอบแอบไปแทงสนุ๊กกันอยู่เรื่อย ซึ่งสถานที่ของร้านสนุ๊กมันก็อยู่ไม่ห่างจากร้านของเขามากนักหรอก แต่ไอพวกนี้น่ะสิมันชอบติดลม เล่นมากจนเกือบลืมเข้างาน

“ครับบบบบ” ยินรับปาก ก่อนที่จะเดินออกไป ต้นข้าวเองก็ได้แต่มองทั้งคู่ยิ้มๆโดยไม่ได้พูดอะไร จนหลงหันไปมองต้นข้าวนิ่งๆ

“ครับ?” ต้นข้าวกะพริบตาปริบๆมองหน้าหลงด้วยความสงสัย

“เวลามึงยิ้ม..” หลงชะงักประโยคต่อไปที่จะพูด นั่นมันเลยทำให้ต้นข้าวขยับเข้าไปหาหลงเพื่อที่จะฟังว่าเฮียของเขานั้นจะพูดอะไร

“กูจะบอกว่า..เวลามึงยิ้มมันน่ารักดี ยิ้มบ่อยๆดิ..กูชอบ”

!!!!

ต้นข้าวนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยิน คำพูดนิ่งๆกับแววตาที่จริงจังของหลง มันทำให้ต้นข้าวไม่อยากที่จะละสายตาไปไหนเลยแม้แต่วินาทีเดียว จนนิ้วเรียวของหลงดีดเข้าที่หน้าผผากของเขา

เพียะ

“กินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวก็เย็นหมดหรอกมึง” หลงยิ้มมุมปากนิดๆแล้วหันไปหยิบข้าวออกมาจากถุงแล้ววางไว้ตรงหน้าต้นข้าว พร้อมกับน้ำส้ม ส่วนของเขาก็มีข้าวกล่องและน้ำเปล่า

ต้นข้าวที่พึ่งได้สติก็รีบหันไปมองกล่องข้าวของตัวเองอย่างรนๆ

“บ้าหน่า! เราอย่าทำให้เขาจับได้สิข้าว ว่าเรา..แอบคิดอะไรกับเฮียเขาน่ะ” ต้นข้าวกัดปากตัวเองเพื่อข่มอารมณ์ที่ขวยเขิน

เขารู้ว่าสิ่งที่เขารู้สึกมันอาจจะเร็วไป แต่จะให้ทำยังไงได้ละ ก็เฮียหลงของเขาดูอบอุ่นแล้วก็ขี้เล่นต่อหัวใจของเขาแบบนี้นี่ จะให้เขาวิ่งหนีหัวใจตัวเองแล้วปฎิเสธออกไป เขาทำไมได้หรอกนะ แต่ถ้าจะให้เขาบอกออกไปตรงๆทั้งๆที่พึ่งเจอกันแค่วันเดียว เขาเองก็ทำไม่ได้เหมือนกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้นข้าวเก็บความในใจของตัวเองเอาไว้ก่อน

หลังจากที่ทั้งสองคนกินข้าวจนหมดแล้ว ต้นข้าวก็อาสาที่จะเอากล่องข้าวไปทิ้งให้ ซึ่งหลงเองก็ไม่ได้ว่าอะไร

“มึงจะออกไปเดินดูรอบๆก่อนก็ได้ วันนี้ยังไม่มีงานอะไรให้มึงทำมากหรอก มึงพึ่งมากูยังไม่อยากใช้งานเท่าไหร่ เอาไว้มึงปรับตัวที่จะอยู่ที่นี่ได้แล้ว กูค่อยสอนงานอื่นๆ” หลงบอกด้วยท่าทีสบายๆ

“แล้วเฮียจะไปไหนหรอครับ” ต้นข้าวเดินเข้าไปนั่งข้างๆหลงตามเดิมแล้วถามด้วยความอยากรู้

“นั่งทำเอกสารอยู่ในห้องนี่แหละ งานใช้แรงก็ให้พวกมันทำไปก่อน เดี๋ยวตอนเย็นๆกูเข้าไปดูอีกที” หลงบอก เพราะงานเอกสารมันเกี่ยวกับพวกตัวเลขซึ่งเขาไม่สามารถที่จะให้ใครทำแทนได้

“งั้น..เฮียให้ผมอยู่เป็นเพื่อนมั้ยครับ” ต้นข้าวถามขึ้น พร้อมกับเม้มปากตัวเองอย่าลุ้นๆ หลงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ประจำที่ของตัวเองพร้อมกับเปิดคอมพิวเตอร์และเอกสารควบคู่ไปด้วย

“มึงจะอยู่ก็อยู่ได้ กูไม่ได้ว่าอะไร” หลงพูดโดยไม่ได้หันหน้าไปมองต้นข้าวเลยแม้แต่น้อย เพราะเขากำลังดูเอกสารของตัวเองที่ทำค้างเอาไว้อยู่ ต้นข้าวที่ได้ยินคำตอบที่หลงบอกมาก็อมยิ้มด้วยความดีใจ เพราะอย่างน้อยๆเขาจะได้อยู่ใกล้ๆกับหลงอีกนิดๆ

เวลาผ่านไปสองชั่วโมง หลงเอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมกับกุมขมับตัวเองนิดๆแล้วค่อยๆคลึงขมับตัวเองเบาๆ เพราะตัวเลขที่อยู่ในหน้าจอกับกระดาษ มันทำให้เขารู้สึกปวดหัวไม่น้อย หลงหลับตาแล้วพยายามผ่อนคลายตัวเองให้ได้มากที่สุด สายตาของเขาเหลือบไปเห็นร่างของต้นข้าวที่นอนหลับอยู่ หลงขมวดคิ้วนิดๆแล้วค่อยๆระบายยิ้มออกมา

“บอกจะอยู่เป็นเพื่อนกู ไหงไปอยู่เป็นเพื่อนพระอินทร์ได้ละเนี้ย” หลงหัวเราะในลำคออย่างขำๆแล้วเดินไปหยิบเสื้อสำรองของตัวเองที่อยู่ในตู้ด้านใน และเดินเข้าไปหาต้นข้าวที่หลับอยู่ พร้อมกับคลุมให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ

“มาวันแรกก็ใช้กูเลยนะมึง” หลงพูดด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไร เพราะเขาเองก็รู้สึกเอ็นดูต้นข้าวอยู่ไม่น้อย ส่วนเหตุผลที่ทำให้เขาเอ็นดูต้นข้าวมากขนาดนี้นั่นก็เพราะ ลูกน้องของเขามันมีแต่พวกห่ามๆกร้านโลก ไม่มีใครเลยที่ดูน่าถนุถนอมสักคน ซึ่งเขาเองก็เป็นคนที่ชอบอะไรที่มันดูนุ่มนิ่มอยู่แล้วด้วย พอมาเจอกับต้นข้าว มันเลยทำให้เขาเอ็นดูอีกฝ่ายไม่น้อย แม้จะเจอกันเพียงแค่หนึ่งวันก็ตาม

หลงลูบหัวเล็กของต้นข้าวเบาๆ แล้วเดินออกไปข้างนอกเพื่อตรวจดูงานที่ลูกน้องได้ทำเอาไว้ โดยปล่อยให้ต้นข้าวนอนอยู่ในห้องต่อไปแบบสบายๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel