บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

ต้นข้าวที่ได้ยินในสิ่งที่ยินพูดก็รู้สึกช็อค จนกระทั่งยินเดินออกไป เขาเองยังไม่สามารถที่จะเลิกรู้สึกนี้ได้เลย ต้นข้าวเดินเข้าไปเรื่อยๆเขาก็พบกับห้องห้องนึง เขาเองก็เดาว่าน่าจะเป็นห้องของร่างสูง ต้นข้าวจับไปที่ลุกบิดแล้วเปิดมันออก

“โหห” ต้นข้าวเบิกตากว้างเมื่อเห็นกำแพงห้องที่ทาสีชมพูพาสเทลผสมกับสีฟ้าพาสเทลที่มันตัดกัน เขาหันไปมองบนเตียงก็พบกับตุ๊กตาลูกหมามากมายที่อยู่บนนั้น แถมพรหมในห้องก็มีลายคิดตี้สีชมพูขาวอีกต่างหาก ซึ่งรวมๆแล้วห้องๆนี้มันคือห้องของผู้หญิงชัดๆ ต้นข้าวได้แต่มองรอบๆห้องด้วยความอึ้ง

“นะ..นี่มันห้องในฝันของเราชัดๆ” ต้นข้าวยิ้มออกมา เพราะเขาเองก็ชอบสีแบบนี้และสไตล์การแต่งห้องแบบนี้มากแต่เขาแค่ไม่มีโอกาสได้ทำ เพราะไม่มีเงินมากพอ

ต้นข้าวเอากระเป๋าไปวางข้างๆแล้วเดินสำรวจบริเวณรอบๆด้วยความสนใจ พื้นหลังของสีพาสเทลกลับมีลายตุ๊กตาโดราเอม่อนจางๆติดอยู่ที่ผนัง

“ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ หน้าตาดูโหดๆแบบนั้นแต่กลับมีมุมน่ารักๆกับเขาด้วย” ต้นขาวพูดขึ้นยิ้มๆ

หลังจากต้นข้าวได้เดินดูบริเวณรอบๆแล้ว เขาก็เอากระเป๋าไปวางไว้ข้างตู้เสื้อผ้า พร้อมกับเปิดตู้ออกเพื่อค้นหาผ้าห่มกับที่นอนสำรอง เมื่อเจอแล้วต้นขาวก็เอามันนำมาปูที่ข้างๆเตียงทันที

“ที่นอนก็เรียบร้อยละ อืม..ต้องออกไปช่วยเฮียเขารึเปล่านะ” ต้นข้างนิ่งคิด

“ไปช่วยหน่อยแล้วกัน” ต้นข้าวเดินออกไปข้างนอกทันทีเมื่อตัดสินใจได้แล้ว

เมื่อต้นข้าวเดินออกจากบ้านแล้ว เขาก็เดินไปเรื่อยๆเพื่อที่จะกลับไปที่ร้านเหมือนเดิม อยู่ดีดีเขาก็เจอเข้ากับชายแปลกหน้าสามคนกำลังยืนสูบบุหรี่และพูดคุยกันอยู่ ซึ่งทางที่ทั้งสามยืนเป็นทางที่เขาต้องผ่านเพื่อที่จะเข้าไปด้านในร้าน พอเขาเดินเข้าไปใกล้ทั้งสามคนก็หยุดชะงักและหันมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว

“แม่งขาวจังวะ” เสียงของชายคนแรกหันไปกระซิบกับเพื่อนเบาๆ แต่เขาเองก็ได้ยินอยู่ดี

“นั่นดิแม่ง ถ้าไอยินไม่บอกว่าเป็นผู้ชายกูนึกว่าผู้หญิงละนะ” เสียงของชายคนที่สองพูดพร้อมกับสูบบุหรี่ที่ถืออยู่เข้าปอด

“เห้ย เด็กใหม่หรอมึงอ่ะ” เสียงของชายคนที่สามเรียกต้นข้าวเอาไว้ ก่อนที่ต้นข้าวจะเดินผ่านไป

ขาเรียวทั้งสองข้างหยุดชะงักทันที แล้วค่อยๆหันไปมองทั้งสามคนอย่างกล้าๆกลัวๆ

“เอ่อ..ครับ” ต้นข้าวพยักหน้าน้อยๆ

“ชื่อไรวะ” ชายคนที่สองถามขึ้น

“ต้นข้าวครับ” ต้นข้าวตอบ พร้อมกับก้มหน้าลงนิดๆ เพราะเขารู้สึกกลัวทั้งสามคนไม่น้อย

“ชื่อน่ารักดีนี่หว่า” ชายคนแรกเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีปกติ

“แล้วนี่มึงจะเดินไปไหน”

“ไปหาเฮียครับ” ต้นข้าวบอก ทั้งสามหันมองหน้ากันนิดๆ แล้วพยักหน้าออกมาพร้อมกัน

“เออลืมไป กูชื่อเล็กนะ” ชายคนแรกแนะนำตัว

“กูชีพ” คนที่สองก็พูดต่อและตามด้วยคนที่สาม

“กูเอส”

“ครับพี่ สวัสดีครับ” ต้นข้าวยกมือไหว้ทั้งสามอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ร่างสูงทั้งสามที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ยกมือไหวตอบกลับไปด้วยท่าทีเงอะๆงะๆ

“เชี้ยยไหว้สวยสัส” ชีพพูดขึ้นยิ้มๆ

“เออว่ะ มึงเรียนมารยาทมาปะเนี้ย” เล็กใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองอย่างกวนๆ

“เปล่านะครับ” ต้นข้าวส่ายหน้าเป็นพันลวัน

“ไปๆๆไปหาเฮียได้ละ ขืนไปช้าเดี๋ยวเฮียก็จับแดกหัวเอาหรอก” เอสพูดขึ้นพร้อมกับโบกมือไล่ต้นข้าวเพื่อให้ออกไปจากตรงนี้ ต้นข้าวเองก็ยิ้มให้ทั้งสามเป็นครั้งสุดท้ายแล้วค่อยๆเดินออกมา

เมื่อมาถึงที่ร้าน เขาเองก็เห็นว่าที่ร้านมีลูกค้าบางส่วนที่มารอรับรถ เพราะเขามองจากการแต่งตัวของแต่ละคน

“ขอโทษนะครับลูกค้า ถ้าจะมาสอบถามเชิญด้านในนะครับ ตรงนี้จะเป็นโซนของแผนกซ่อมของร้านเรานะครับลูกค้า” ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า ดูสะอาดตาเอ่ยขึ้นกับต้นข้าวยิ้มๆ

“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้เป็นลูกค้าครับ” ต้นข้าวโบกมือปฎิเสธ ชายตรงหน้าขมวดคิ้วมองต้นข้าวเล็กน้อย

“ไอแม็ก ไอนี่มันไม่ได้เป็นลูกค้า แต่เป็นเด็กฝึกงานใหม่ ที่กูเล่าให้ฟัง” เสียงของหลงพูดขึ้น ต้นข้าวจึงหันไปมองทางด้านหลังของคนชื่อแม็กทันที และพบร่างสูงใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงยีนส์เดินถือค้อนออกมา

“อ๋อออ เราชื่อต้นข้าวใช่มั้ย พี่ชื่อแม็กนะ” แม็กยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อที่จะทักทาย ต้นข้าวเองก็ยื่นมือออกไปทักทายเช่นกัน

“ใช่ครับ ผมชื่อต้นข้าว” ต้นข้าวแนะนำชื่อตัวเองกลับไป

“หน้าตาน่ารักนะเราอ่ะ” แม็กพูดชมยิ้มๆ หลงเดินเข้าไปหาต้นข้าวพร้อมกับกอดคอของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วมองหน้าแม็กนิ่งๆ

“เด็กพึ่งมาใหม่นะมึง กะจะเล่นตั้งแต่วันแรกเลยรึไง” หลงหรี่ตามองแม็กนิ่งๆ

“โธ่เฮีย ก็เด็กมันน่ารักนี่หว่า ไม่ให้เต๊าะตอนนี้ ผมจะเต๊าะน้องมันตอนไหนละ แถวนี้มันมีแต่เสือสิงค์ทั้งนั้นเลยนี่” แม็กบ่นออกมาอย่างเซ็งๆ

“หึ ไปๆมึงไปดูลุกค้ากูได้แล้วไป มากันแล้วน่ะ” หลงพยักหน้าไปทางลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เดินเข้ามา แม็กพยักหน้ายิ้มๆ

“พี่ไปก่อนนะครับหนุ่มน้อย” พูดจบแม็กก็ขยิบตาให้ต้นข้าวหนึ่งทีพร้อมกับเดินไปหาลูกค้าด้วยท่าทีสุขุมตามเดิม

“ส่วนมึงอ่ะ มากับกูข้างหลังนี้ มีรถให้ซ่อม เดี๋ยวกูจะสอน” หลงล็อกคอของต้นข้าวแล้วพาเดินไปข้างหลังทันที

ต้นข้าวหัวใจเต้นแรงเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของคนคนช่วยตนเองเอาไว้ ร่างบางกัดปากตัวเองด้วยความเขิน เมื่อได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของร่างสูง “ทำไมเฮียกลิ่นตัวหอมจัง” ต้นข้าวคิด พลางเอียงหน้าเพื่อขยับเข้าไปดมให้ใกล้กว่าเดิม

“เป็นเหี้ยอะไร” หลงขมวดคิ้วมองหัวเล็กที่ขยับเข้ามาใกล้เขา ต้นข้าวที่ได้ยินก็ชะงักและเอาหน้ากลับมาอยู่ที่เดิม

“เปล่าครับ!” ต้นข้าวรีบปฎิเสธ เพราะกลัวอีกคนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หลงเองก็ไม่คิดจะเซ้าซี้ถามอะไร เขาพาร่างบางจนเดินมาทางด้านหลัง ซึ่งที่นี่จะมีรถเก่าๆที่ยังพอใช้งานได้อยู่ประมาณสิบกว่าคัน ลูกน้องที่อยู่ที่นี่ก็มีอยู่หกเจ็ดคน ส่วนที่เหลือจะไปอยู่ที่ศูนย์ใหญ่ ซึ่งจะเป็นด้านนอก

ร้านของหลงจะมีอยู่สามที่ นั่นคือด้านนอกสุด ซึ่งจะเป็นตึกใหญ่ที่มีรถใหม่ๆขาย ส่วนตรงกลางก็จะเป็นศูนย์ซ่อม ตั้งแต่รถจักรยานยนต์จนไปถึงรถใหญ่ ส่วนด้านหลังก็จะเป็นพวกอะไหล่รถที่ไม่ได้ใช้และรวมไปถึงรถเก่าที่พอจะแกะเพื่อเอาไปเทิร์นใหม่ได้ และถึงแม้ว่าหลงจะเป็นเจ้าของที่ แต่เขาจะเป็นคนลงมือทำเองมากกว่า นั่นจึงทำให้คนส่วนมากไม่เคยเจอเจ้าของร้านตัวเป็นๆเลยสักคน เพราะหลงจะอยู่ในส่วนตึกกลางและตึกท้ายมากกว่าตึกแรก

“อ่าวเฮีย พาสาวที่ไหนมาด้วยวะ” เสียงของปุ๊กลูกน้องคนสนิทเอ่ยทัก คนอื่นๆต่างก็หันไปมองด้วยความสนใจ

“สาวพ่อง มันเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงเว้ย” หลงส่ายหน้าน้อยๆและหันไปมองต้นข้าวที่กำลังมองเศษซากของรถด้วยความสงสัยและสนใจ

“อยากลองทำมั้ยมึง” หลงถาม พร้อมกับยื่นไขควงส่งไปให้ ต้นข้าวมองไขควงสลับกับหน้าของหลงไปมา

“ใบ้แดกหรอไงมึง กูถามว่าสนใจลองทำมั้ย เดี๋ยวกูสอน” หลงขมวดคิ้วมองหน้าร่างบางด้วยความสงสัย

“เอ่อ..ครับๆสนใจครับ” ต้นข้าวรีบพยักหน้าทันที เพราะเขาเองก็อยากอยู่ใกล้ชิดกับร่างสูงเหมือนกัน

“เออ” หลงพยักหน้าและหันไปมองลูกน้องของตัวเองส่งยิ้มแซวมาให้

“ยิ้มเหี้ยไรกัน ทำงานไปดิ” เสียงเข้มของหลงพูดขึ้น

“แหมๆๆทำเป็นดุนะเฮีย” ปุ๊กแซวยิ้มๆ หลงมองหน้าปุ๊กนิ่งพร้อมกับปากระดาษที่ไม่ได้ใช้ใส่ปุ๊กด้วยความหมั่นไส้ ปุ๊กกระโดดหลบทันที

“รุนแรงนะตัวเอง” ปุ๊กพูดใส่หลงอย่าทะเล้น ต้นข้าวยิ้มขำ เพราะสภาพหน้าตาของแต่ละคนเรียกได้ว่าเถื่อนมาก แต่เขาไม่คิดว่านิสัยจะแตกต่างจากหน้าตากันแบบนี้

“เดี๋ยวกูตัดค่าแรงมึงเลยไอห่าปุ๊ก เล่นอยู่นั่นแหละสัส”

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกพี่ ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองทันที

“มึงก็อีกคน จะยืนยิ้มหวานให้พวกมันอีกนานมั้ย นั่งลง!เดี๋ยวกูจะสอน” หลงพูดด้วยน้ำเสียงติดดุเล็กน้อย ต้นข้าวเม้มปากแล้วนั่งลงตามที่อีกคนสั่ง

“มึงรู้จักเครื่องมืออะไรบ้าง” หลงถาม พร้อมกับยื่นกล่องเครื่องมือทั้งหมดไปตรงหน้าต้นข้าว ร่างบางมองอย่างพิจารณาแล้วหยิบค้อนขึ้นมา

“อันนี้เรียกค้อนครับ” ต้นข้าวบอกยิ้มๆ หลงพยักหน้า

“แล้วอะไรอีก”

“อืม..” ต้นข้าวมองไปที่กล่องอีกครั้งและพูดเครื่องมือที่ตัวเองพอจะรู้ออกไป

“อันนี้คือไขควงครับ”

“ส่วนอันนี้คือตลับเมตร”

“ประแจครับ”

“คัตเตอร์” ต้นข้าววางของลง พร้อมกับเงยหน้ามองหลงแล้วยิ้มแหยๆออกมา

“รู้แค่นี้ใช่มั้ย” หลงถามด้วยน้ำเสียงปกติ ต้นข้าวค่อยๆพยักหน้าน้อยๆ

“มา เดี๋ยวกูจะสอน เวลาที่มึงเป็นลูกมือช่วยกูจะได้หยิบถูก” หลงพูดขึ้น ต้นข้าวเองก็พยักหน้าและตั้งใจฟังที่หลงสอน

“ไอนี่เขาเรียกว่าตะไบ มันเอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการขัดแต่งผิว หรือปาดหน้าชิ้นงานที่ต้องการขจัดเนื้อโลหะทิ้งไป และมันยังเป็นการตัดเฉือนผิววัสดุงานออกในลักษณะการถากหรือขูดเพื่อลดขนาดของชิ้นงานและก็เพื่อปรับแต่งชิ้นงานให้มันเรียบร้อย” หลงอธิบายชิ้นแรกจบ ก็หยิบอุปกรณ์อีกอันขึ้นมา

“ส่วนไอนั่นที่มันอยู่ข้างๆกล่องเรียกว่า สว่านไฟฟ้ามันเป็นเครื่องมือที่เอาไว้สำหรับงานเจาะ ไม่ว่าจะเจาะผนัง เจาะไม้ พลาสติกหรือโลหะเพื่อให้มันเป็นรู”

“นั่นเรียกว่าแม่แรง มันเอาไว้ใช้สำหรับยกรถยนต์เมื่อเราต้องการถอดเปลี่ยนยาง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจตัวถังของรถยนต์”

ต้นข้าวพยักหน้างึกงัก

“จำได้?” หลงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“พอจะจำได้บ้างครับ” ต้นข้าวบอก

“งั้นก็ดี ค่อยเรียนรู้ได้เรื่อยๆเดี๋ยวก็ชิน” หลงบอกพร้อมกับยิ้มมุมปากและลูบหัวเล็กเบาๆด้วยความอ่อนโยน

“วี๊ดวิ้ววววววววว” เสียงของปีกและคนอื่นๆร้องแซวออกมาพร้อมกัน หลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วจับค้อนที่อยู่ใกล้มือโยนไปทางลูกน้องของตัวเองทันที

“เฮ้ยยย!”

“เหี้ยหลบ!”

“โหหเฮียยยยยเล่นงี้เลยหรอเนี้ยย ถ้าโดนขึ้นมาทำไงง” ซิงโวยวายออกมาเมื่อหลบค้อนพ้น

“แล้วโดนยังละ” หลงยักคิ้วใส่อย่างกวนๆ

“เฮียแม่งเล่นแรงว่ะ แซวนิดแซวหน่อยก็ไม่ได้” ซิงบ่นออกมาเล็กน้อย พร้อมกับเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นให้เข้าที่ตามเดิม หลงส่ายหน้าเล็กน้อย

“แล้วนี่มึงหิวรึยัง กูจะได้สั่งให้ไอยินมันไปซื้ออะไรมาให้กิน” หลงถามร่างบางที่นั่งหน้าแดงอยู่ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันนิดๆเมื่อเห็นเหงื่อไหล่ออกมาทางขมับ มือหนายื่นไปเช็ดให้

“ร้อนหรอวะ เหงื่อไหลเต็มเลยมึง” หลงถามด้วยความสงสัย ซึ่งตอนนี้ต้นข้าวได้นิ่งค้างด้วยความอึ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เอ่อ..ก็..ครับ ร้อนครับ” ต้นข้าวบอกเสียงตะกุกตะกัก

“เดี๋ยวก็ได้เข้าไปข้างในออฟฟิตละ ทนหน่อย ว่าแต่จะกินอะไรจะได้ให้มันไปซื้อมา” หลงถามอีกครั้ง

“อะไรก็ได้ครับ ผมกินได้ทุกอย่าง” ต้นข้าวพุดบอกเสียงอ้อมแอ้ม

“ไม่แพ้อะไร?” หลงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ต้นข้าวส่ายหน้าน้อยๆ หลงพยักหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อพิมพ์บอกยิน

“เออดีว่ะ กินง่ายเลี้ยงง่ายดี” หลงพูดขึ้น โดยที่ตาก็ยังพิมพ์บอกยินอยู่ ต้นข้าวที่ได้ยินก็ก้มหน้าลงทันทีเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงของตัวเองเอาไว้

“ปะ เข้าไปในออฟฟิตกัน รอไอยินเอาข้าวมาส่ง” หลงพยักหน้าและเดินนำต้นข้าวไปทันที ต้นข้าวเองก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามไปติดๆ

“อนาคตเมียเฮียแน่ๆ พวกมึงว่าปะ” ปุ๊กหันไปคุยกับคนอื่นๆเมื่อหลงกับต้นข้าวเดินออกไปแล้ว

“ไม่รอด!!” ทั้งหมดประสานเสียงออกมาพร้อมกันทันทีด้วยความมั่นใจ

#แต่งไปเขินไปงุ้ยยยยย5555555 ชอบหรือไม่ชอบยังไงเม้นบอกได้น้าาาาาเค้าชอบอ่านคอมเม้นนน^^

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel