08 หาเรื่อง
เวลาต่อมา
เวลาต่อมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” เสียงทุ้มเข้มดังมาจากทางด้านใน
“สวัสดีค่ะพี่กระทิง” ดารินเอ่ยทักทายพร้อมกับสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
“อ่าวมีอะไรหรือเปล่าริน” ร่างใหญ่ชำเลืองมองเล็กน้อย
“รินซื้อของกินมาให้ค่ะ พี่กระทิงว่างมั้ยคะ” ดารินเดินเข้าไปในห้องทำงานของเขา ก่อนจะวางของที่เธอซื้อมาให้กับชายหนุ่ม แต่ไม่ทันได้มองว่ามีคนอยู่ในห้องกับเขาด้วย
“กระทิงมีข้าวกลางวันแล้วจ้ะ พี่ซื้อมาให้แล้ว น้องรินจะกินด้วยกันก็ได้นะ” เสียงใสๆ เอ่ยดังขึ้นมา ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมาจากด้านในห้อง
“เอ่อ รินไม่รู้ค่ะว่าพี่มีแขก”
“เอ่อ..”
“พี่ไม่ใช่แขกหรอกนะ พี่เป็นคนสำคัญของกระทิงต่างหาก จริงมั้ยกระทิง”
“….” กระทิงไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“เอ่อ…กระทิงคงอยากจะทำงานมากกว่าน่ะ” แยมหันไปพูดกับดาริน
“ถ้างั้นรินกลับก่อนก็ได้นะคะ พี่สองคนจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน”
“ดีค่ะน้องริน” แยมรีบพูด ราวกับกลัวว่าดารินจะเปลี่ยนใจ
“ไม่ต้องหรอก พี่ทำงานเสร็จพอดีนั่งกินข้าวด้วยกันที่นี่แหละแล้วค่อยกลับบ้าน” กระทิงพูดแทรกขึ้นมา
“แต่…” ดารินเริ่มรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นว่าคนข้างๆ เธอมีท่าทีที่ไม่พอใจ ที่กระทิงจะให้เธออยู่ที่นี่ต่อ
“น้องจะกลับบ้านแล้วทำไมถึงให้น้องกลับบ้านล่ะคะ เผื่อว่าน้องมีธุระต้องไปทำต่ออีก” แยมรีบท้วงออกไป
“รินมีธุระที่ไหนอีกหรือเปล่า?” กระทิงหันไปถาม โดยที่ไม่ได้สนใจคำพูดของแยมเลยแม้แต่น้อย ซึ่งก็ทำให้เธอไม่พอใจมากกว่าเดิมอีก
“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ มีนัดกับเพื่อนๆ ไปฟิตเนสตอนสี่โมงเย็นค่ะ” ดารินตอบ
“นี่เพิ่งบ่ายเอง มานั่งกินข้าวด้วยกันก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที”
“ค่ะ”
“ถ้าผมจะให้น้องของผมกินข้าวด้วยที่นี่ คุณคงจะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมแยม”
“ไม่ค่ะ!” ถึงจะตอบอย่างนั้น แต่น้ำเสียงและสายตาของเธอบ่งบอกว่าเธอนั้นไม่พอใจเอามากๆ
“มาสิ มากินข้าวด้วยกัน”
ทั้งสามคนแยกย้ายกันไปนั่งที่โซฟาคนละตัว
“นี่ค่ะของพี่กระทิง” ดารินยกเอาของกินที่ตัวเองซื้อมา ให้กับคนข้างๆ
“….” กระทิงมองหน้าตาอารหารนั้นนิ่งๆ สีหน้าของอาหารดูน่ากินดีแต่เขากลับกินไม่ได้
“ตายแล้วน้องริน! ไม่รู้เหรอว่ากระทิงแพ้กุ้ง” แยมพูดขึ้นมาเสียงดัง
“เอ่อ…เหรอคะ รินไม่รู้ รินขอโทษด้วยนะคะ” ดารินหน้าซีดไปเลยก่อนจะรีบเก็บกล่องอาหาร แต่กลับถูกกระทิงดึงกลับไปไว้เหมือนเดิม
“กินกุ้งไม่ได้แต่ก็ยังกินอย่างอื่นได้นี่นา เอาไว้ตรงนี้แหละเดี๋ยวพี่กินเอง”
“แต่มันจะอันตรายเอานะคะพี่กระทิง รินว่าอย่าเสี่ยงเลยค่ะ” ดารินรีบเก็บกล่องอาหารที่ซื้อมาใส่ถุงเอาไว้เหมือนเดิม “รินขอโทษด้วยนะคะ รินไม่รู้ว่าพี่แพ้กุ้ง”
“ไม่เป็นอะไรหรอก มากินกับพี่สิ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่กินไปเลย รินกลัวพี่ไม่อิ่ม”
“แล้วนี่เราไปออกกำลังกายอยู่ที่ฟิตเนสที่ไหนเหรอ”
“ใกล้ๆ มหาลัยค่ะ”
“อ๋อ…”
เวลาต่อมา
ใกล้จะถึงเวลาแล้วรินขอตัวกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไม่ทันเพื่อนๆ
“ครับ”
“สวัสดีค่ะ” ดารินคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกมาจากห้องทำงานของกระทิง
“เดี๋ยว!” เสียงแหลมดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของดาริน ขณะที่เธอกำลังเดินออกมาด้านนอก พอหันกลับไปก็เห็นว่าแยมยืนหน้าตาบูดบึ้งบึงใส่เธออยู่
“อ้าวพี่แยม มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ฉันรู้นะว่าเธอคิดอะไรกับกระทิงอยู่ เพราะฉะนั้นหยุดคิดเรื่องนั้นไปได้เลย เพราะฉันกับกระทิงเราสองคนรักกัน”
“แล้วไงคะ พี่กระทิงบอกแล้วเหรอคะ?”
“ถึงไม่บอกเธอก็น่าจะดูการกระทำออก กระทิงเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่เป็นคนที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน”
“ค่ะ”
“ก่อนที่จะทำอะไร อย่าลืมย้อนมองดูสารรูปตัวเองด้วยว่ามันเป็นยังไง อ้วนๆ แบบเธอกระทิงเค้าไม่มีทางหันไปสนใจหรอก เพราะกระทิงไม่ชอบเด็กกระทิงชอบคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่และวางตัวในสังคมได้ดีแบบฉัน” แยมมองเหยียดคนตรงหน้า สายตาไล่มองรูปร่างที่อ้วนท้วมของดารินแล้วหัวเราะเยาะเบาๆ
“แล้วการที่พี่มายืนดูถูกคนอื่นแบบนี้เรียกว่าผู้ใหญ่เหรอคะ เหอะ! ถ้าพี่มั่นใจว่าตัวเองขนาดนั้น ก็ไม่เห็นจะต้องมาเดือดร้อนอะไรเลยนี่คะ ถ้าคิดว่าพี่กระทิงไม่มีทางมาสนใจคนอย่างริน พี่เองก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรเลย”
“ที่ฉันมาบอกเพื่อให้คนอย่างเธอคิดได้ต่างหากล่ะ ว่าไม่สมควรเข้ามาแทรกเป็นมือที่สามของใคร”
“รินไม่ได้เข้าไปเป็นมือที่สามของใครค่ะเพราะตอนนี้พี่กระทิงยังไม่มีเจ้าของ เพราะฉะนั้นรินก็ยังมีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครอง ดีหรือไม่ดีเราอย่าตัดสินกันเองเลยดีกว่านะคะ บางทีการตัดสินคนที่ภายนอกมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะคนบางคนชอบแต่งตั้งตัวเองว่าเป็นผู้ดีมีชาติตระกูลมีมารยาทในสังคม ปั้นหน้าว่าตัวเองเป็นคนดี แต่ข้างในกลวงโบ๋จนเน่า ใช้น้ำหอมราคาแพงใช้ของดีๆ แบรนด์เนมเพื่อกลบเกลื่อนกำพืดของตัวเอง คนเราถ้ามันจะดีก็ต้องดีจากภายในค่ะ ไม่ใช่ดีแค่ภายนอกแต่ข้างในเน่า!”
“นี่แกว่าฉันเหรอ!?”
“เปล่านะคะ รินยังไม่ได้เอ่ยชื่อพี่เลยรินแค่พูดถึงคนบางคนค่ะ ไม่คิดว่ามันจะไปโดนตัวพี่ขอโทษด้วยนะคะ”
“อี๊! อีริน เพี๊ยะ!!”
“โอ๊ะ!!” ฝ่ามือของแยมฟาดลงที่แก้มของรินจนเป็นรอยแป้นมือ แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะตอบโต้เพราะมันไม่ใช่นิสัยของเธอเลย “อ่า…” เธอยกมือขึ้นจับที่มุมปากของเธอ จนได้เห็นว่าปลายนิ้วมีเลือดติดมาเล็กน้อย
“เป็นยังไงล่ะปากดีนัก!”
“อื้มม…”
“ตบฉันกลับสิ ทุกคนที่นี่จะได้รู้ว่าเธอมันไม่ได้ดีอย่างที่สร้างภาพเอาไว้เหมือนกัน”
“ไม่หรอกค่ะ รินไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ เพราะการใช้กำลังตัดสินปัญหามันไม่ใช่ทางออกที่ดี และก็มีแค่คนโง่เท่านั้นที่ทำ”
“อีริน!” แยมง้างมือจะตบหน้ารินอีกครั้ง
“หยุดนะคะ! ถ้าพี่ตบรินอีกแค่ครั้งเดียวเรื่องนี้ถึงหูพี่กระทิงแน่”
“กระทิงไม่เชื่อคำพูดคนอย่างเธอหรอก กระทิงรู้นิสัยฉันดี”
“ค่ะ รินรู้ว่าแค่คำพูดมันคงจะทำให้ใครเชื่อถืออะไรไม่ได้มาก แต่อย่าลืมนะคะว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิด และกล้องตัวนั้นก็บันทึกภาพทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว ถ้าพี่กระทิงไปเปิดดูเค้าก็จะรู้เองค่ะว่าเรื่องนี้ใครเป็นคนเริ่มก่อน”
“แก!” แยมไม่กล้าที่จะทำอะไรอีก เมื่อรู้ว่ามีกล้องวงจรปิดติดอยู่ตรงนี้ด้วย
“ถ้าอยากให้เรื่องจบกันแค่ตรงนี้ กรุณาอย่ามาหาเรื่องรินอีก แล้วจะหาว่ารินไม่เตือนไม่ได้”
“คิดว่าฉันกลัวคนอย่างเธอนักเหรอ”
“เดี๋ยวก็รู้ค่ะ”