บท
ตั้งค่า

๑ ความผิดติดตัว (๒)

“มีโจรที่ไหนยอมรับบ้างล่ะว่าตัวเองเป็นโจร ฉันไม่เชื่อแกหรอก!”

“โธ่เว้ย งั้นก็แหกตาดูสิว่าฉันเป็นใคร” ตะโกนเสียงดังแล้วไม่อาจปล่อยให้เธอกระทำฝ่ายเดียวได้ ชายหนุ่มตัดสินใจคว้าไม้แล้วจับขาเรียวเอาไว้ ดึงหญิงสาวให้ล้มลงบนผืนหญ้าแล้วขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็วจนลินน์ตระหนกทั้งยังสั่นกลัว

ไม้กวาดทางมะพร้าวถูกขว้างให้ไกลมือหล่อน ตรึงแขนสองข้างของเธอเอาไว้เหนือศีรษะ พร้อมตะโกนถามเสียงดังจนดวงตากลมหลับสนิทไม่กล้ามอง ตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกให้คนในบ้านมาช่วย หรือไม่อย่างนั้นลุงยามที่อยู่หน้าป้อมรีบวิ่งมาก็ยังดี ก่อนที่คนร้ายจะทำการประทุษร้ายหล่อน

“โจร!” ร้องดังพร้อมไฟที่สว่างไปทั่วบ้าน

ความมืดหายไปมีเพียงแสงไฟที่ส่องให้เห็นว่าคนตรงหน้าคือใคร เธอจ้องชายหนุ่มหน้าคมที่มีหนวดเคราขึ้นเต็มคาง ผมยาวประบ่าทั้งยังหยิกศก แต่ก็ไม่อาจปิดบังความหล่อเหลาของเขาได้มิด จนหล่อนขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย

เหมือนตนเคยเห็นอีกฝ่ายที่ไหนสักแห่ง แต่จำไม่ได้ว่าพบอยู่ที่ใด...

“เกิดอะไรขึ้นน่ะตาก่อ” เสียงเรียกที่คุ้นเคยกับชื่อที่เธอจำขึ้นใจ ทำให้หญิงสาวดิ้นรนจนหลุดจากการจับกุมของเขา รีบลุกยืนแล้ววิ่งเข้าไปหลบด้านหลังของป้าน้อยทันที

“คุณแม่ช่วยผมด้วย!” เขาตะโกนเสียงดังแล้วเดินเข้ามาหาคุณผู้หญิงบ้านปัณณทัต หล่อนเห็นดังนั้นก็เบิกตากว้าง ทวนชื่อของชายหนุ่มที่ได้ยินจาปากคุณภัทรศยาอีกครั้ง ก่อนหันขวับไปมองชายผมยาวที่ทำตัวคล้ายโจร

“ก่อ...อย่าบอกนะว่า”

หลงลืมป้าน้อยไปชั่วขณะแล้วเดินไปหยุดตรงหน้าคนตัวสูงเพื่อมองให้แน่ใจ ผู้ชายหน้าหนวดคนนี้กับชายรูปหล่อในรูปที่ตั้งโชว์ในบ้านคือคนเดียวกันอย่างนั้นหรือ หล่อนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองจนต้องถามเขาเพื่อให้แน่ใจ

“คุณคือคุณก่อเหรอ” ถามเสียงสั่นแล้วจ้องดวงหน้าคมเหมือนกำลังแสกนให้ทั่วว่าเป็นกษมาตัวจริง

“ใช่ ฉันคือคุณก่อที่เธอเรียกนั่นแหละ” เข่าอ่อนแทบล้มแต่ดีที่ป้าน้อยเข้ามาประคองหลานสาว ลินน์หน้าซีดรู้สึกว่าชะตาตัวเองกำลังจะขาด มองร่างสูงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเพื่อดูแผลของเขา รอยช้ำที่แขนชัดเจนจนอยากทำการฮาราคีรีตัวเองเสียเดี๋ยวนี้

มาอาศัยบ้านเขาแต่ทำร้ายลูกชายเพียงคนเดียวของบ้าน...

เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

“เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงได้น่วมไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะลูก เป็นอะไรมากไหม ต้องไปหาหมอหรือเปล่า” ลินน์อยากจะคุกเข่าแล้วอ้อนวอนขอโทษเสียเดี๋ยวนี้ กล้าดียังไงไปทำร้ายเขา ก่นด่าตัวเองในใจยาวเหยียดพลางเม้มปากแน่น

ขณะที่คุณภัทรศยาสำรวจทั่วกายหนาเพื่อหาบาดแผล แล้วพบว่าตามแขนของลูกชายฟกช้ำแต่ไม่ถึงกับปริแตก สงสัยพรุ่งนี้คงต้องให้กษมาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลซะหน่อย

“ผมนอนไม่หลับเลยออกมาเดินเล่นที่สวน แต่อยู่ดีๆ ก็มีใครไม่รู้มาตีผมจากทางด้านหลังจนผมล้ม ตะโกนใส่ร้ายบอกว่าผมเป็นโจรแล้วกระหน่ำตีไม่ยั้ง” สายตาทุกคู่จับจ้องมายังหล่อนเป็นตาเดียว หญิงสาวจึงรีบอธิบายให้ฟังยาวเหยียดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

“ลินน์ขอโทษค่ะคุณท่าน ลินน์คิดว่าคุณก่อเป็นโจร...ตอนอยู่ในรูปเห็นผมสั้นไม่มีหนวด ไม่คิดว่าจะเป็นคนเดียวกัน” พยายามอธิบายโดยอิงจากรูปภาพที่หล่อนเห็นอยู่ทุกเมื่อยามเข้าไปทำความสะอาดบนตึกใหญ่

ดวงหน้าคมเคร่งขรึมเมื่อได้ฟังเช่นนั้น หมายจะอธิบายถึงการไว้ผมยาวเพราะไม่มีเวลาไปตัด งานกองท่วมหัวจนเขาไม่ได้ดูแลตัวเองดีเท่าที่ควร แต่นั่นก็ไม่ควรเป็นเหตุผลที่ตนต้องถูกทำร้าย

“แม่บอกแล้วใช่ไหมให้ตัดผมโกนหนวด ดูสิคนอื่นเขามองว่าเราเป็นโจรเห็นไหม” คุณผู้หญิงของบ้านที่เอ็นดูสาวน้อยถึงกับออกตัวแล้วหันมาเอ็ดลูกชาย ด้วยท่านก็ไม่ใคร่จะชอบทรงผมและการไว้หนวดของกษมาสักเท่าไหร่ พบคราแรกก็บ่นไม่หยุดจนเขาต้องให้คำมั่นว่าจะไปตัดผมและโกนหนวดพรุ่งนี้ จึงพอจะทำให้คนเป็นแม่คลายความขุ่นข้องลงได้บ้าง

“อ้าว คุณแม่ครับ นี่ผมผิดเหรอที่ไว้ผมยาว”

ร่างบางรู้สึกว่าตนจะกลายเป็นต้นเหตุทำให้แม่ลูกทะเลาะกัน จึงรีบคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมประนมมือและพึมพำขอโทษไม่หยุดปาก อีกทั้งเกรงว่าชายหนุ่มจะโกรธจนไล่ป้าของเธอออกจากบ้าน หัวใจดวงน้อยเต้นรัวระคนตื่นเต้น

“ลินน์ขอโทษค่ะ ลินน์ผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ” น้ำตาคลอเบ้าจนคุณผู้หญิงนึกสงสาร รีบเข้ามาประคองร่างแบบบางให้ลุก ขณะที่คุณกนต์ธรไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ตามตัวบุตรชายก็ไม่ได้บาดเจ็บมากนักจึงพูดตัดบทให้ทุกคนกลับไปพักผ่อน

“เอาล่ะๆ เธอก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย ดีซะอีกที่คอยดูแลบ้านให้ฉัน กลับไปพักผ่อนเถอะ” บอกทุกคนแล้วรีบเดินเข้าบ้านเพื่อจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าไม่อยากเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจมากนัก อย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

“คุณพ่อครับ ผมเป็นคนเจ็บนะ” กษมารีบท้วงทันที

“จะเจ็บสักแค่ไหนกันเชียว ทายาไม่กี่วันก็หายแล้ว เข้าบ้านเถอะ” ประมุขของบ้านเดินนำไปก่อนใครเพื่อน ทุกคนในที่นั้นจึงแยกย้ายกลับไปเรือนพักผ่อน มีเพียงหญิงสาวที่พนมมือไหว้ด้วยสำนึกผิดกับการกระทำของตัวเอง

ใครจะคิดว่าความหวังดีกลับส่งผลลบ ดันไปทำร้ายลูกชายเจ้าของบ้านซะอย่างนั้น

“ขอโทษค่ะ” ลินน์ทำได้เพียงมองร่างสูงเดินเข้าไปในบ้านกับคุณภัทรศยา ส่วนตนก็ต้องกลับห้องนอนของตัวเอง ยกมือขึ้นเขกศีรษะเหมือนต้องการลงโทษกับความสะเพร่าจนทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมด

ไม่รู้จะต้องชดใช้อย่างไรเขาจึงจะหายโกรธ...

ถ้าชายหนุ่มเกิดโมโหแล้วไล่ป้าของเธอออกจากงาน หรือหาทางมารังแกกันไม่เลิก หล่อนจะทำอย่างไร...

“นั่นใครครับ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน” ลูบตามแขนของตัวเองระหว่างเดินเข้ามาในบ้าน สังเกตตามตัวพบว่ามีรอยช้ำค่อนข้างเยอะ ไม่รู้พรุ่งนี้จะปวดตามเนื้อตัวหรือเปล่าคงต้องไปหาหมอสักหน่อยแล้ว

แต่ก่อนอื่นสิ่งที่เขาต้องการทราบคือผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร หน้าตาของเธอค่อนข้างดูดีและผิวพรรณผ่องใสไม่เหมือนแม่บ้านทั่วไปที่มาทำงาน นึกว่าหญิงสาวเป็นคุณหนูบ้านไหนแล้วเข้าผิดบ้านซะด้วยซ้ำ

“ลินน์เป็นหลานสาวของป้าน้อย เข้ามาเรียนที่มหาลัยใกล้บ้านเราแม่เลยให้มาอยู่ที่นี่จะได้ลดค่าใช้จ่ายเรื่องที่พัก เขาเป็นเด็กเรียนดี มีสัมมาคารวะ ช่วยทำความสะอาดบ้านเราโดยที่ไม่รับเงินเดือนสักบาท แต่แม่ก็ให้เป็นค่าเล่าเรียนแทน”

“ครับ” พยักหน้าเข้าใจถึงสถานะของเธอ

เป็นหลานสาวของป้าน้อยนี่เอง...

ถึงจะนอนดึกแค่ไหนก็ต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อมาเข้าเรียนให้ทันคาบแรก โชคดีที่การเรียนในรั้วอุดมศึกษาไม่ต้องเข้าแถวหน้าเสาธงเคารพธงชาติ เริ่มคลาสแรกเวลาเก้านาฬิกา กระนั้นก็ยังมีคนเข้าห้องสายจนถูกทำโทษหลายครา

ชั้นเรียนห้องใหญ่ที่พื้นลดหลั่นเพื่อให้นักศึกษาทุกคนมองเห็นหน้าจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้เกือบสามร้อย ซึ่งส่วนมากใช้เรียนในวิชารวม อย่างเช่นวันนี้ที่ลินน์ต้องเรียนรวมกับนักศึกษาคณะอื่นในวิชาเดียวกัน สมาธิของเธอไม่ค่อยจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือตรงหน้าเท่าไหร่ กระทั่งจบคาบแล้วลงมารับประทานอาหารที่โรงอาหารของคณะ

“เป็นอะไรน่ะลินน์ ฉันเห็นแกหน้ายุ่งมาตั้งแต่คาบเช้าแล้วนะ” นั่งกินข้าวก็เหมือนว่าจะเขี่ยเสียมากกว่า เพื่อนสนิทอย่างขนบพร บรรณสรณ์จึงถามด้วยความสงสัย ปกติลินน์ค่อนข้างขยันเรียนเพื่อรักษาเกรดเฉลี่ยให้ได้ไม่ต่ำกว่าสามจุดเก้าศูนย์ ซึ่งทำได้ดีมาโดยตลอด

ถึงจะทำงานหามรุ่งหามค่ำหนักแค่ไหน เช้าวันต่อมาก็ต้องมาเรียนด้วยสมองปลอดโปร่ง ทำอย่างนี้มาเป็นระยะเกือบจะสี่ปีแล้ว เหลืออีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น

โชคดีที่เธอยื่นเรื่องฝึกงานจบแล้ว จากนี้ก็ต้องเก็บวิชาให้ครบหน่วยกิตและเริ่มทำโปรเจคจบของตัวเอง งานต่อจากนี้น่าจะหนักพอสมควร

“เมื่อคืนฉันใช้ไม้ตีลูกชายเจ้านาย...ฉันรู้สึกผิดมากเลย” ทราบเหตุผลก็ต้องวางช้อนส้อมแล้วรีบถามด้วยความอยากรู้ คนอย่างลินน์ไม่น่าจะตีใครพร่ำเพรื่อ หรือชายผู้นั้นเข้ามารังแกเพื่อนสนิทของเธอ

“แล้วแกไปตีเขาทำไม”

“เขาทำตัวลับๆ ล่อๆ เหมือนเป็นโจร ฉันเลยเข้าใจผิดน่ะสิ ตอนนั้นรอบข้างค่อนข้างมืดไม่มีแสงไฟเลยสักนิด” พอได้ยินอย่างนั้นก็เข้าใจในทันที เป็นหล่อนก็เครียดเช่นเดียวกัน ตีลูกสุดรักสุดหวงของผู้มีพระคุณ ไม่รู้จะโดนไล่ออกจากบ้านหรือเปล่า

ขนบพรทราบเรื่องราวของเพื่อนสนิทเป็นอย่างดีว่าฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร จึงค่อนข้างเป็นกังวลหลังฟังเรื่องจบ

“เขาเอาเรื่องหรือเปล่า” ลินน์ส่ายหน้าแล้วเกิดความทุกข์ใจมากกว่าเดิม

“เนี่ยแหละที่ทำให้ฉันรู้สึกผิดมากกว่าเดิม เขาไม่เอาเรื่องแล้วยังปลอบฉันอีก เฮ้อ ทำยังไงดีล่ะ” คุณภัทรศยาดีกับหล่อนมากจนรู้สึกผิดที่ไปตีลูกชายของท่าน ถ้าตนใจเย็นกว่านี้แล้วดูให้มั่นใจว่าเขาไม่ใช่โจรก็คงไม่เกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนขึ้นหรอก

“ถ้ารู้สึกผิดแกก็ไปขอโทษ หรือไม่อย่างนั้นซื้อของให้เขาสักชิ้นไหม” เสนอความคิดเห็นที่ถูกปิดทันที

“ซื้ออะไรล่ะ เขารวยล้นฟ้ามีครบทุกอย่าง ส่วนฉันก็คงเป็นแค่ฝุ่นละอองติดเท้าเขา ให้อะไรไปก็คงไม่มีค่าหรอก” ด้อยค่าตัวเองแล้วทำหน้าเศร้า ไม่มีความอยากอาหารสักนิดเอาแต่คิดว่ากลับถึงบ้านตนจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไถ่โทษที่ทำร้ายร่างกายกษมา

“พูดอะไรก็ไม่เอาด้วย งั้นเชิญแกเครียดไปเถอะ ฉันกินข้าวดีกว่า”

“เฮ้อ” นั่งคิดอยู่อย่างนั้นทั้งวันจนจบคาบสุดท้ายแล้วต้องไปหาข้อมูลเพื่อทำโปรเจคจบ ไหนจะต้องไปทำงานที่คลับอีกต่างหาก เข้าตำรางานหลวงไม่ให้ขาด งานราษฎร์ไม่ให้เสียซะจริง หาเงินจนแทบจะไม่มีเวลานอนอยู่แล้ว

วันหยุดที่เธอได้อยู่บ้านเพื่อเริ่มทำโปรเจคจบ หญิงสาวแอบมาด้อมๆ มองๆ ที่ครัวแล้วเข้าไปคุยกับป้าน้อยซึ่งกำลังเก็บห้องครัวหลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย

บ้านหลังงามขนาดใหญ่มีแม่บ้านเกือบแปดชีวิตรวมคนสวนและคนขับรถ เยอะกว่าจำนวนเจ้าของบ้านซะอีก ใครเข้ามาของานคุณท่านก็รับเอาไว้ด้วยความเมตตา เข้ามาแล้วออกลายก็มีเยอะจนได้ไล่ออกไปหลายคน หลงเหลือเพียงคนเก่าคนแก่และหนุ่มสาวที่ขยันขันแข็ง

คนในหมู่บ้านต่างรู้ดีว่าเจ้าของบ้านปัณณทัตมีเมตตามากแค่ไหน ลูกชายเพียงคนเดียวยังเนื้อหอมอีกต่างหาก...

“ป้า คุณก่อเป็นยังไงบ้าง” สวมชุดสุภาพสำหรับใส่อยู่บ้านเข้ามาถามไถ่ถึงอาการของกษมา เธอแทบไม่ได้เจอชายหนุ่มเลยตั้งแต่มีเรื่องคราวก่อน

วันนี้ว่างจึงคิดจะทำงานบ้านช่วยทุกคนช่วงเช้าแล้วเข้ามาทำโปรเจคของตัวเองตอนบ่าย ค่อยออกไปทำงานช่วงเย็น

“แผลติดเต็มตัวเลย” ได้ยินก็หน้าซีดถอดสี

“ลินน์ควรทำยังไงถึงจะไถ่โทษได้”

“คุณท่านไม่เอาเรื่องก็ไม่ต้องไปคิดมากหรอก” รีบโบกมือแล้วพูดอย่างไม่ยี่หระ แต่คนฟังกลับไม่สบายใจมากกว่าเดิม พยายามคิดหาวิธีเพื่อให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดกับเขาไปมากกว่านี้ ซื้อของมาไถ่โทษก็มีกำลังทรัพย์ไม่มากพอ

หรือเธอควรแสดงความจริงใจ...

“แต่คุณก่อ...”

“คุณก่อแกใจดี ไม่ว่าอะไรหรอก” เห็นหลานสาวหน้าเสียก็พยายามพูดให้กำลังใจ เธอจึงพยักหน้าตามน้ำถึงตัวเองจะไม่ใคร่สบายใจเท่าไหร่นักก็ตาม

“วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ” คนเหม่อหันมามองป้าน้อยแล้วส่ายหน้า

“ไม่จ้ะ” ตอบแบบขอไปทีไม่ได้ขยายความว่าไปช่วงเย็น ก่อนปลีกตัวออกไปข้างนอกเพื่อซื้อดอกไม้ธูปเทียน กษมาเป็นลูกชายเจ้าของบ้านทั้งยังอายุมากกว่าเธอ ถ้าไม่ขอโทษแบบเป็นทางการก็จะรู้สึกผิดในใจถึงเขาจะไม่เอาเรื่องก็ตาม

ร่างแบบบางทำพานดอกไม้พร้อมธูปเทียนเดินย่องเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ผ่านห้องพักผ่อนที่ติดริมสระ ห้องนั่งเล่นติดสวนดอกไม้ มายังห้องรับแขกซึ่งอยู่ทิศตะวันออกติดโถงกลางบ้าน สามารถมองเห็นบ่อปลาคาร์ปที่คุณผู้ชายดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี

เท้าเรียวหยุดยืนนิ่งพลางลอบกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก มองเห็นแผ่นหลังกว้างพร้อมผมที่ตัดรองทรงไถข้าง เพียงเห็นแค่ท้ายทอยก็รับรู้ถึงความหล่อเหลา เธอเหลือบมองกรอบรูปขนาดใหญ่ที่ติดไว้ข้างผนัง จ้องดวงหน้าคมแสนหล่อเหลาพลันใจเต้นระส่ำ

เธอค่อยมาวันหลังดีหรือเปล่า...

“ขอนอนพักสักสี่ห้าวันแล้วจะเข้าไปทำงาน คนเพิ่งว่างจะหางานให้ทำทันทีเลยหรือไง อือๆ ไว้เจอกันเย็นนี้” ระหว่างที่ลินน์ยืนทะเลาะกับความคิดของตัวเอง ร่างหนาก็วางสายโทรศัพท์จากเพื่อนสนิท หันมาเห็นหลานสาวของป้าน้อยพอดี

สองสายตาสบกันจนเธอสะดุ้งนึกตระหนก เผยอปากค้างยามเห็นดวงหน้าคมที่ปราศจากหนวดเครา ลูกชายบ้านปัณณทัตหล่อเหลาสมคำเล่าลือ จนเธอแทบจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ แต่เมื่อเรียกสติตัวเองกลับมาได้ก็รีบคุกเข่าทันทีจนร่างหนาถึงกับผงะ

“คุณก่อคะ”

“เฮ้ยๆๆ เธอคุกเข่าทำไม ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” เข้ามาประคองหญิงสาวให้ลุก แต่เธอกลับเบี่ยงตัวหลบพลางประนมมือไว้กลางอก จ้องดวงตาเรียวเพื่อแสดงถึงความจริงใจของตัวเอง พานดอกไม้ธูปเทียนก็วางไว้ตรงหน้า

“ลินน์ขอโทษที่ตีคุณ ลินน์ไม่ได้ตั้งใจไม่มีเจตนาจะทำร้ายคุณเลยนะคะ นี่พานขอขมาที่ลินน์ทำเองค่ะ รับไปเถอะนะคะ” กษมานั่งลงตรงหน้าหล่อนแล้วมองแววตาแสนใสซื่อ นึกเอ็นดูหญิงสาวขึ้นมาครามครัน ถึงตอนแรกจะโกรธแต่เมื่อได้รับคำขอโทษที่จริงใจก็เริ่มอ่อนลง

“ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ ฉันไม่ได้เจ็บขนาดนั้น...แล้วก็เลิกหมอบกราบสักที เราคนเท่ากันแล้วฉันก็ไม่ชอบที่เธอทำตอนนี้ด้วย” ย้ำถึงสิ่งที่หล่อนทำจนลินน์ต้องรีบหยัดยืนพลางถือพานเอาไว้ ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา รู้สึกร้อนผ่าวทั่วใบหน้ายามถูกลูกชายเจ้าของบ้านปัณณทัตจ้องมอง

“ขอโทษค่ะ”

“ฉันไม่ได้โกรธ เข้าใจว่าตอนนั้นมันมืดแล้วเธอก็มีเจตนาดีกับครอบครัวของฉัน แต่ต่อไปนี้ก็ดูให้มันดีล่ะกัน...หน้าฉันเหมือนโจรหรือเปล่า” ยืนเต็มความสูงแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอเพื่อให้สำรวจว่าหน้าของเขาคล้ายโจรหรืออย่างไร

แต่เธอรีบก้าวถอยหลัง พลางส่ายศีรษะจนหัวแทบหลุด ก้มหน้างุดเหมือนเดิมไม่กล้าจะมองเขาด้วยซ้ำ

“ไม่ ไม่ค่ะ” จากคนที่กล้าได้กล้าเสียถึงขั้นเข้ามาตีเขาเพราะคิดว่าเป็นโจร กลับกลายเป็นหญิงสาวขี้อาย เขาจึงหลุดขำค่อยเอื้อมมือไปรับพานมาถือไว้

พานดอกไม้ที่เธอจัดสวยงาม...เขาจะรับไว้แทนคำขอโทษแล้วกัน

“พานนี่ฉันจะรับไว้ เธอจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ”

“ค่ะ” รีบหันหลังเดินออกจากบ้านใหญ่ขาแทบขวิด หัวใจเต้นรัวจนเธอนึกว่ามันจะกระเด็นออกมานอกอก วิ่งเข้าห้องนอนของตัวเองก่อนทรุดกายนั่งลงบนเตียงเล็ก ยกมือทาบอกข้างซ้ายเพื่อเช็คอัตราการเต้นของหัวใจ

ตกหลุมรักเหรอ...

“คุณก่อ...ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีก” พึมพำเสียงเบาแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง หยิบหมอนหนุนมากอดแล้วกรีดร้องเสียงเบาอย่างขวยเขิน ยิ้มกว้างมีความสุขยามคิดถึงน้ำเสียงทุ้มแสนสุขุมกับดวงตาคมลึกแสนอ่อนโยน

เพิ่งเคยเจอตัวจริงในสถานการณ์ปกติเป็นครั้งแรก...แล้วเขาก็ขโมยใจของเธอไปได้ในทันที

ถึงเวลาทำงานก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหยิบเครื่องดื่มไปเสิร์ฟตามโต๊ะ วิ่งหัวหมุนด้วยเสียงรอบกายที่ดังสนั่น ต้องหลบเลี่ยงผู้ชายที่พยายามเข้ามาพูดคุย บางคนเสนอเงินเพื่อชวนหล่อนไปนอน ถึงปฏิเสธไปแล้วก็ตื้อจนน่ารำคาญ

ถ้าไม่ติดที่ได้เงินดีและทิปหนักคงลาออกไปแล้ว

“ขอโทษค่ะ” ทำงานหัวหมุนจนถูกเดินชน แต่ก็ต้องเอ่ยขอโทษเพราะเธอคือพนักงาน และไม่อยากมีปัญหาถ้าลูกค้าเอาเรื่องจนถูกไล่ออก อะไรไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ทนไปก่อน

“หัดดูตาม้าตาเรือบ้างสิ! เซ่อซ่าแบบนี้มาเป็นเด็กเสิร์ฟได้ยังไงก็ไม่รู้” ถูกตวาดเสียงดังจนสะดุ้ง เธอเงยหน้ามองหญิงสาวหุ่นนางแบบที่มีใบหน้าสวยแบบพิมพ์นิยม ก่อนหลบสายตาเมื่อถูกถลึงตาใส่ ทำได้เพียงพูดประโยคเดิมซ้ำ

“ขอโทษค่ะ”

หญิงคนนั้นเดินสะบัดหน้าออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมชายหน้าตาดีคนหนึ่ง เหลือเพียงลินน์ที่มองตามก่อนจะรีบนำน้ำไปเสิร์ฟ

ลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel