ตอนที่ 3/1
ตอนที่ 3/1
ท้ายที่สุดนันนลินทร์ก็ยอมจำนนต่อคำเล้าลื้อจากนนทวัฒน์ ด้วยการให้อีกฝ่ายขับโรลส์รอยซ์สุดหรูมาส่งถึงที่ นันนลินทร์ยอมรับว่ายังคงกลัวเรื่องความเป็นส่วนตัวของใครบางคนที่ยังอยู่ต่างจังหวัด ทว่าตอนนี้หล่อนไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้แล้ว
“คุณหนิงอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอครับ?” สายตาคู่คมกวาดมองไปยังตึกสูงตรงหน้าผ่านทางกระจกรถ ขณะที่ชะความเร็วเพื่อจอดเทียบด้านล่างของตึก
เขาไม่ได้มีเจตนาอยากจะดูถูกใคร แต่เท่าที่รู้คือตึกนี้ราคาต่อยูนิตมันค่อนข้างสูงเอาเรื่อง จะว่ากันตามตรงก็เป็นคอนโดฯ ที่ขายให้เฉพาะคนมีฐานะเท่านั้น
“ดูสีหน้าคุณนนท์ตอนนี้คงไม่เชื่อน่าเชื่อใช่ไหมล่ะคะว่าหนิงจะอยู่ที่นี่”
“เอ่อ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ แต่คือว่าผม...”
“พอดีหนิงถูกจ้างให้ดูแลห้องแทนเจ้าของเขาน่ะค่ะ ตอนนี้เขาไปอยู่เมืองนอก” หล่อนไม่อยากจะโกหก เพียงแต่หาใช่เรื่องไม่ที่จะต้องพูดความจริง ว่าที่จริงแล้วหล่อนเป็นแค่นางบำเรอบนเตียงของใครอยู่
นนทวัฒน์ดูท่าทางทางจะเชื่อในสิ่งที่หล่อนพูดแบบนี้ด้วยซ้ำ เขาผ่อนลมหายใจเบาๆ ออกมา แต่กระนั้นมันก็ยังดังพอที่ทำให้อีกฝ่ายได้ยิน เขาคงโล่งใจแล้ว ทั้ง ๆ ที่หล่อนเองก็ไม่ทราบถึงสาเหตุ
“เขาเป็นญาติของคุณหนิงเหรอครับ”
“?”
“ผมหมายถึงเจ้าของห้องที่ให้คุณหนิงมาเฝ้า” หากเป็นญาติที่มีฐานะร่ำรวยมีกำลังทรัพย์ซื้ออสังหาฯ หรูขนาดนี้ ก็คงได้แต่คิดว่าเหลือเชื่อที่นันนลินทร์ยังใช้ชีวิตได้อย่างสมถะ
“ก็ไม่ใช่หรอกค่ะ แค่คนรู้จัก เขาไม่ต้องการให้ห้องเก่าหรือทรุดโทรมน่ะค่ะถ้าจะปล่อยไว้เฉยๆ เลยจ้างให้หนิงมาอยู่แล้วก็ดูแลแทน”
เขาพยักหน้าตอบ “อย่างนั้นเหรอครับ ดีจัง”
เขาแอบคิดอยู่ว่าหากเจ้าของปล่อยเช่าถ้าเป็นห้องขนาดธรรมดาคงได้หลายหลายหมื่น แต่ถ้าเป็นห้องเพนท์เฮ้าส์ก็น่าจะหลักแสนต่อเดือนเลย
หรือเจ้าของห้องเขาอาจจะได้กำไรมามากจนอยากจะจ้างให้คนมาดูแลเพื่อไม่ให้ห้องดูทรุดโทรมอย่างที่หล่อนบอก ...ก็อาจจะเป็นไปได้
ทว่าคนคิดแบบนักธุรกิจอย่างเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
“อันที่จริงคอนโดฯ ของผมก็อยู่แถวๆ นี้แหละครับ”
“อ้าวเหรอคะ... ดีแล้วล่ะค่ะ คุณจะได้ไม่ต้องขับรถไกล หนิงกลัวว่าที่คุณมาส่งหนิงมันจะทำให้คุณกลับดึกเอาได้ค่ะ”
“ไม่เลยครับ แต่ต่อให้ผมไม่อยู่แถวนี้ ยังไงก็มาส่งคุณหนิงได้อยู่แล้ว”
“เกรงใจค่ะ แค่ครั้งนี้ก็พอ”
“พรุ่งนี้เข้าเช้าอีกเหรอครับ?”
“เปล่าค่ะ พรุ่งนี้วันหยุด”
ปกติวันอาทิตย์น้อยครั้งนักที่พนักงานบริการจะได้หยุด ทว่ามันจะอยู่คนหนึ่งที่สามารถเนรมิตตารางการทำงานของหล่อนให้หยุดวันอาทิตย์ได้อย่างไม่มีใครกล้าโต้แย้ง คนนั้นหาใช่ใครอื่นไม่ นอกเสียจากธาฎาเจ้าของโรงแรม
“ดีจังเลยครับ” คำตอบของนันนลินทร์มันช่างถูกใจเขานัก พรุ่งนี้เขาไม่ได้เข้าบริษัทอยู่แล้ว จะเป็นอย่างไรหากว่าเขาอยากจะชวนอีกฝ่ายออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกด้วยกันบ้าง
“หนิงขอตัวก่อนนะคะ” ร่างบางเตรียมลงจากรถเมื่อถึงที่หมายนานแล้วแต่ยังไปไม่ถึงไหน มือหนาของเจ้าของรถก็ดันดึงรั้นหล่อนเอาไว้เบาๆ
“เดี๋ยวก่อนครับคุณหนิง”
“คะ?” หล่อนจะลงแล้วแท้ๆ ไม่รู้ว่าเขาไปสรรหาเรื่องคุยมาจากไหนนักหนา
“ถ้าเกิดพรุ่งนี้คุณหนิงว่างแล้ว จะเป็นไรไหมครับถ้าผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณสักหน่อย”
“คือ ยังไงเหรอคะ?” หล่อนถามอย่างไม่มั่นใจความต้องการของอีกฝ่าย
“ผมอยากจะชวนคุณหนิงไปช้อปปิ้งกันหน่อยน่ะครับ คือ...” เขาเว้นจังหวะคิดหาคำพูดที่ดูสมเหตุสมผลมากกว่าความต้องการที่แท้จริงของตนเองอยู่
“ในฐานะที่คุณเองก็เป็นผู้หญิง ผมอยากจะขอให้คุณช่วยเลือกของบางอย่างที่เป็นของผู้หญิงหน่อยน่ะครับ พอดีว่าผมอยากได้เซอร์ไพรส์น้องสาวผม”
“อ๋อ งั้นเหรอคะ...” ใบหน้าสวยทำท่าครุ่นคิด หากไปกับเขาพรุ่งนี้แล้วกลับมาไม่ทันธาฎา หล่อนอาจจะโดนอีกคนว่าเอาได้
แต่ใครจะรู้บางทีอีกคนอาจจะกลับมาเช้าวันจันทร์อย่างที่ผ่านมาก็เป็นได้ ฉะนั้นจะเป็นอะไรไปหากจะตบปากรับคำกับคนข้างๆ อีกอย่างหล่อนเองก็ไม่ค่อยได้ไปไหนนานมากแล้วเหมือนกัน
“หนิงว่างแค่ช่วงเช้านะคะ บ่ายโมงคงต้องกลับ”
“ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา ผมจะรีบมาส่งคุณหนิงให้ทันเวลาเลยครับ” นนทวัฒน์ออกอาการดีใจจนไม่สามารถหลบซ่อนรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า
“ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”
“อ่อ! เดี๋ยวก่อนนะครับ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ผมขอคอนแท็คคุณหนิงไว้เลยก็แล้วกัน พรุ่งนี้ผมมาถึงนี่แล้วจะได้โทรบอก”
“ก็ได้ค่ะ” นันนลินทร์มีท่าทีลังเลในตอนแรก ทว่าคิดดูดีๆ แล้วมันก็ไม่มีอะไรเสียหายเลย จึงยื่นสมาร์ทโฟนที่บนหน้าจอแสดงคิวอาร์โค้ดเพื่อเตรียมให้อีกฝ่ายได้สแกน
“เรียบร้อยครับ เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
“ค่ะ หนิงไปได้แล้วใช่ไหมคะ?” จะลงจากรถหลายหนแล้วก็ไม่ได้ลงจริงๆ เสียที
“อ่อ! ครับ”
ประตูโรลสลอยด์คันละ 30 ล้านถูกเปิดออก พร้อมๆ กับร่างอรชรก้าวเท้าลงมา หล่อนก้มตัวลงไปคุยกับใครบางคนในรถ โปรยรอยยิ้มเล็กน้อยดูมีความสุขกันยกใหญ่ จนไม่รู้ว่ามีใครบางคนแอบมองการกระทำของหล่อนอยู่ไม่ไกลนัก