บทที่015 ฉันซ่อมได้
บทที่015 ฉันซ่อมได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลัดตกลงมาจากชั้นสอง จี้จิ่งเชินเข้าไปช่วยรับเธอไว้
ด้วยแรงกระแทกที่พลัดตกลงมาอย่างหนักหน่วงที่ชนกับร่างของจี้จิ่งเชิน ทำให้ร่างของเขาถอยร่นไปด้านหลัง จี้สร้อยคอที่อยู่ในมือของเขาก็แตกไปด้วย และตกลงบนพื้นกระเด็นออกไป
จี้จิ่งเชินหันไปมองจี้สร้อยคอด้วยสีหน้าอย่างลุกลี้ลุกลน
แต่ไม่นานก็หันกลับมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วกอดเธอไว้แน่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนปิดตาด้วยความกลัว ผ่านไปครู่หนึ่งเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย จากนั้นเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น แต่ในใจยังคงหวาดกลัวอยู่
จี้จิ่เชินกอดเธอไว้แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
“นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณ?”
เขาตำหนิเวินเที๋ยนเที๋ยนเวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดว่า “ฉันขึ้นไปดูลวดลายการแกะสลักบนราวจับบันได……”
“ดูจนพลัดตกลงมาเนี่ยนะ คุณคิดว่าตัวเองหนังเหนียวนักหรือไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าหากไม่มีจี้จิ่งเชินมาช่วยเธอไว้ เธอคงพลัดตกลงมาจนกระดูกหักเป็นแน่
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ……”
“ผมแค่ไม่อยากเห็นคุณมาตายที่บ้านผม ผมไม่อยากอธิบายให้พ่อแม่คุณฟัง”
จี้จิ่งเชินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นก็ปล่อยตัวเธอลง
ร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยนอ่อนแอมากจนเธอยืนไม่ไหว เธอเซไปข้างหน้าจนไปซบกับหน้าอกของจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินได้แต่ยืนมองเธอด้วยสายตานิ่งเฉย ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปประคองแต่อย่างใด
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับแขนเขาเอาไว้ ร่างของทั้งสองแนบชิดติดกัน แก้มของเธอเริ่มแดง จากนั้นเธอก็ค่อยๆ ทรงตัวยืนขึ้นแล้วพูดว่า
“ฉันขอโทษ”
จี้จิ่งเชินมองหน้าเธอครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินกลับมาหาสร้อยคอที่ตกแตกบนพื้น
เขาเห็นจี้สร้อยแตกหักออกเป็นสองส่วน เขาขมวดคิ้วขึ้นและสีหน้าก็เปลี่ยนไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปอย่างเร่งรีบ มองดูเขาที่กำลังหยิบจี้สร้อยขึ้นมา
เหมือนสร้อยคอล็อกเก็ต
สร้อยคอล็อกเก็ตเงินจี้รูปหัวใจ ในล็อกเก็ตมักจะใส่รูปของคนที่ตัวเองรัก
แต่ตอนนี้ล็อกเก็ตแตกหักเป็นสองส่วนแล้ว แถมจี้ด้านในก็โดนชนบุ๋มลงไปจนเปิดไม่ได้แล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ล็อกเก็ตนี้ต้องหล่นลงตอนที่เขาเข้าไปช่วยเธอไว้แน่ๆ
จี้จิ่งเชินสวมไว้ตลอดแบบนี้ แสดงว่าของชิ้นนี้ต้องสำคัญกับเขามากแน่ๆ
“คุณจี้……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดไม่ทันจบ จี้จิ่งเชินก็เอาจี้กำไว้ในมือแน่น และหลบสายตาเธอ
จี้จิ่งเชินลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเย็นชา และพูดขึ้นว่า
“ครั้งต่อไปจะไม่มีคนช่วยคุณแบบนี้อีกแล้ว”
พูดจบเขาก็เดินออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเดินตามเขาไปทันที
“คุณจี้ ให้ฉันช่วยดูสร้อยคอของคุณหน่อยได้ไหม หรือให้ฉันซ่อมให้ใหม่ก็ได้”
จี้จิ่งเชินก้าวเท้าเดินไปอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่สนเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังพูดอยู่
“คุณจี้!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเร่งฝ่าเท้าวิ่งไปข้างๆ เขาแล้วพูดต่อ
“ฉันเคยเรียนการซ่อมมา สร้อยคอแบบนี้ฉันพอจะซ่อมได้ ให้ฉันซ่อมให้ใหม่เถอะนะ ใช้เวลาแค่ไม่นาน”
หากไม่ใช่เพราะเขาช่วยเธอเอาไว้ สร้อยคอเขาก็คงไม่เสียหายแบบนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยเรียนเทคนิคการซ่อมมาก่อน แค่ซ่อมสร้อยคอแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ
ทันใดนั้นจี้จิ่งเชินก็หยุดก้าวเท้าอย่างกะทันหัน
ศีรษะของเธอเกือบจะชนกับร่างของเขา
“คุณจี้ คือว่า……”
“คุณซ่อมได้อย่างนั้นเหรอ?” จี้จิ่งเชินถามแทรกขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบออกมาอย่างมั่นใจ
“ได้สิ ฉันซ่อมได้”
จี้จิ่งเชินหันหน้ากลับมามองเธอด้วยสีหน้าขรึม
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นสีหน้าของเขาแล้วรู้สึกตกใจเล็กน้อย
เธอเอามือไขว้ไว้ด้านหลังในมือเต็มไปด้วยเหงื่อ
ทันใดนั้นจี้จิ่งเชินก็ยื่นสร้อยในมือให้เธอ
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ลองดูก็แล้วกัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบรับสร้อยมาอย่างระมัดระวัง เธอพลิกดูสร้อยไปมา จี้จิ่งเชินยิ้มมุมปากขึ้น จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขรึม
“หากเสียหายอีกแม้แต่นิดเดียว……”
เขาพูดไม่ทันจบ แต่น้ำเสียงที่พูดนั้นทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกลัวจนตัวสั่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาทันใด เธอเงยหน้าขึ้นแต่กลับพบว่าจี้จิ่งเชินเดินออกไปแล้ว