บทที่016 ห้องหนังสือห้องเดียวกัน
บทที่016 ห้องหนังสือห้องเดียวกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกดูสร้อยคอที่อยู่ในมือไปมา
พบว่าตัวล็อคของล็อกเก็ตไม่สามารถเปิดได้
เธอมองไปที่ประตูที่จี้จิ่งเชินเดินออกไป จากนั้นก็เก็บล็อกเก็ตด้วยความระมัดระวัง และเดินกลับไปที่ห้อง
ภายในห้องไม่มีเครื่องมือซ่อมอะไรเลย เธอจึงเดินออกจากห้องไปอีกครั้งเพื่อขอช่วยให้พ่อบ้านหากล่องเครื่องมือซ่อมแซมให้เธอ จากนั้นเธอจึงเริ่มสำรวจสร้อยคอด้วยความระมัดระวัง
ความฝันของเธอคืออยากเป็นนักบูรพาโบราณวัตถุ แต่ว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ลงเรียนตามระบบอย่างเป็นทางการ เธอเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
หากเธอไม่โดนจับตัวมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้เธอคงได้เข้าเรียนสาขาบูรพาโบราณวัตถุในมหาวิทยาลัยไปแล้ว……
แต่ว่าตอนนี้คงจะเสียโอกาสในการเรียนไปแล้วล่ะ?
วันต่อมา พ่อบ้านได้นำกล่องเครื่องมือซ่อมแซมมาให้เวินเที๋ยนเที๋ยน
“คุณผู้ชายบอกว่า คุณหนูสามารถขึ้นไปทำที่ห้องหนังสือชั้นสองได้นะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดูกล่องเครื่องมือซ่อมแซมใหญ่มาก ด้านในน่าจะมีอุปกรณ์ที่ครบครัน
“ชั้นสองเหรอ?”
“ใช่ครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ ห้องนี้เป็นห้องของจี้จิ่งเชิน แต่ทำไมเมื่อวานเขาถึงไม่กลับมาที่ห้องนี่ล่ะ
แต่ถึงอย่างไรแล้วห้องนอนก็ไม่ใช่ห้องทำงานนิ
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบสร้อยคอขึ้นมา และเดินกอดกล่องเครื่องมือซ่อมแซมขึ้นไปบนชั้นสอง
ครั้งที่แล้วเธอพลัดตกบันได ครั้งนี้เธอจึงเดินขึ้นบันไดไปอย่างระมัดระวัง
เมื่อเธอขึ้นไปถึงชั้นสองทางด้านซ้ายมือของเธอมีห้องหลายห้องมาก พ่อบ้านก็ไม่ได้บอกเธอว่าให้เธอเข้าไปห้องไหน
เธอคิดไปคิดมาเลยตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องหนึ่ง
ภายในห้องหนังสือกว้าง ตรงหน้าเธอมีชายคนหนึ่งกำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น
จี้จิ่งเชิน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นชายหนุ่มเงยหน้าแล้วมองมาที่เธอ
“คุณกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอกำลังคิดจะเดินออกจากห้องไป
แต่จี้จิ่งเชินกลับจ้องเธอ แล้วพูดว่า
“เข้ามาสิ”
เธอยืนกอดกล่องเครื่องมือซ่อมแซมอยู่ที่ประตูห้อง
“พ่อบ้านบอกให้ฉันเข้ามาซ่อมสร้อยคอที่ห้องหนังสือ……”
จี้จิ่งเชินหรี่ตามองเธอ
จริงๆ แล้วเขาเป็นคนสั่งให้พ่อบ้านบอกเธอเองว่าให้มานั่งทำที่ห้องหนังสือชั้นสอง ซึ่งห้องหนังชั้นสองมีอยู่สองห้อง ความหมายของเขาคือให้เธอไปใช้ห้องหนังสืออีกห้องหนึ่ง
เธอตั้งใจจะมาห้องนี้เหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นว่าจี้จิ่งเชินจ้องเธอด้วยสายตาแปลกๆ เธอจึงก้มหน้าลงและยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ทำไมเขาถึงจ้องฉันด้วยสายตาแบบนั้น?
เขาเป็นคนบอกให้ฉันมาที่ห้องหนังสือเองไม่ใช่เหรอ?
จี้จิ่งเชินจ้องเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาเอามือกดโทรศัพท์ต่อสายสั่งลูกน้อง
“เอาโต๊ะทำงานเข้ามาเพิ่มหนึ่งตัว”
พูดจบเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความสงสัย
“มานี่สิ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปากด้วยความกังวล
ริมฝีปากที่ชุ่มชื้นเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม สายตาของจี้จิ่งเชินก็ถลึงขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอย่างบอกไม่ถูก เธอคิดว่าจี้จิ่งเชินโกรธเธอ จากนั้นเธอจึงเดินกอดกล่องเครื่องมือซ่อมแซมเดินเข้าไปที่จี้จิ่งเชิน
“คุณจี้”
ใบหน้าที่ชุ่มชื้น และเรียบเนียนเหมือนไข่ขาว พร้อมเงาบรัชออนบนแก้มเธอ ดวงตากลมๆ เหมือนตาแมว ใบหน้าเธอเปรียบเสมือนหยกที่แกะสลักอย่างสวยงาม
จี้จิ่งเชินยื่นมือไปจับผมนุ่มๆ บนศีรษะเธอ
จากนั้นเลื่อนมือลงมาอย่างช้าๆ เบาๆ หยุดตรงที่เอวของเธอเวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจสะดุ้งสะบัดมือเขาออก
“คุณจะทำอะไร……ฉัน……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดไม่ทันจบจี้จิ่งเชินก็เอามือปิดปากเธอไว้
จี้จิ่งเชินมองหน้าเธอ มือข้างหนึ่งของเขาจับที่เอวของเวินเที๋ยนเที๋ยน อีกข้างหนึ่งจับที่ปลายคางเบาๆ
จากนั้นก็จูบลงบนริมฝีปากแดงฉ่ำของเธอ