บทที่011 เธอมันเป็นขโมย
บทที่011 เธอมันเป็นขโมย
ภายในห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ทันใดนั้นจางม้างหรูดึงตัวเวินที๋ยนเที๋ยนเข้ามา
“ไหนเธอพูดมาสิว่าเนี่ยนเหยาทำอะไรเธอ?”
“ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสะบัดมือจางม้างหรูออก“ฉันแค่จะเข้าไปเอาโฉนดที่ดินของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคืนมา แต่กลับโดนจับแต่งงานแล้วมาอยู่ที่นี่……”
นัยน์ตาของเจี่ยงหงซึ่งเปล่งประกายขึ้น เขาจ้องหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเธอขึ้นมาทันใด
เมื่อไม่นานมานี้ตระกูลเจี่ยงได้รับซื้ออสังหาริมทรัพย์มาจำนวนหนึ่ง เพื่อที่จะทำลายและสร้างที่พักใหม่ ในกระบวนการนี้ก็ได้พบกับบุคคลที่ตั้งใจฝ่าฝืนนโยบายและกฎระเบียบหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคนของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
เจี่ยงหงซึ่งเคยไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาแล้วครั้งหนึ่ง เขาเคยเห็นหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
“นี่เธอแอบลักลอบเข้ามาในบ้านฉัน คิดจะทำอะไร?”
“ฉัน……ฉันแค่อยากปกป้องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”
“เธอคิดจะมาขโมยโฉนดที่ดินสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างนั้นเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนิ่งลง ได้แต่เม้มปากไม่ได้ตอบโต้อะไรไป
จางม้างหรูตกใจ เอามือชี้หน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วพูดขึ้นว่า
“เธอมันเป็นขโมย!”
จางม้างหรูดึงแขนเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วพยายามลากเธอออกไปด้านนอก
“เธอมันเป็นหัวขโมยที่สมควรตาย ฉันจะพาเธอไปโรงพัก!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนใบหน้าซีดเซียว
“พวกคุณเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนขโมยโฉนดที่ดินไป! ฉันก็แค่ไปเอากลับมาโดยใช้วิธีเดียวกันกับที่พวกคุณใช้ก็แค่นั้น!”
“นี่เธอยังจะแก้ตัวอีกเหรอ? ไป! ฉันจะพาเธอไปโรงพัก!”
จางม้างหรูกัดฟันยืนยันจะพาตัวเธอไปโรงพักให้ได้ เธอพยายามลากตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไป
“ช้าก่อน”
เจี่ยงหงซึ่งพูดแทรกขึ้นมา
เขาเดินเข้ามาตบหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนครั้งหนึ่ง
“เธออยากจะกลับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องหน้าเขา ใบหน้าของเจี่ยงหงซึ่งยิ้มแบบมีเลศนัย
“ถ้าหากเธอช่วยฉัน ฉันรับปากเธอว่าฉันจะเก็บสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไว้”
แววตาของเจี่ยงหงซึ่งเปล่งประกายคล้ายกับมามีแผนชั่วร้ายอยู่ในใจ
แต่เงื่อนไขที่เขาเสนอนั้นน่าสนใจมากเวินเที๋ยนเที๋ยนถามขึ้นมาทันทีว่า “ช่วยเรื่องอะไร?”
“ในเมื่อจี้จิ่งเชินคิดว่าเธอคือเนี่ยนเหยา ถ้าอย่างนั้นเธอก็ปลอมตัวเป็นเนี่ยนเหยาต่อไป”
“ไม่ได้เด็ดขาด! ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวมาก……”
“นึกถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเข้าไว้” เจี่ยงหงซึ่งพูดแทรก
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้น
“แต่ต่อให้จี้จิ่งเชินเชื่อ สักวันก็ต้องมีคนจับได้อยู่ดี”
เจี่ยงหงซึ่งยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ
“เนี่ยนเหยาถูกส่งให้ไปอยู่ที่เมืองนอกเป็นเวลากว่าเจ็ดปีไม่มีใครจำได้หรอก ถ้าพวกเราสามคนไม่พูดคนอื่นไม่มีทางรู้แน่นอน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปากขึ้น
เจี่ยงหงซึ่งพูดต่อ “เธอแค่ปลอมตัวเป็นเนี่ยนเหยาไม่กี่วัน เมื่อไหร่ที่พวกเราหาเนี่ยนเหยาตัวจริงเจอ ตอนนั้นเธอก็เป็นอิสระทันที แถมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ยังคงอยู่ เธอลองคิดดูดีๆ เพียงเวลาแค่ไม่กี่วัน เพื่อแลกกับทุกคนที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามันคุ้มค่ามากนะ”
เจี่ยงหงซึ่งยื่นข้อเสนอให้เวินเที๋ยนเที๋ยน และดูเหมือนว่าเธอจะตอบตกลงในเงื่อนไข
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำหมัดแน่น หัวใจของเธอเริ่มสั่นคลอน
“คุณจะเก็บสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไว้จริงๆ ใช่ไหม?”
“แน่นอน”
“แล้วเมื่อไหร่คุณจะเจอเนี่ยนเหยาตัวจริงล่ะ?”
“ฉันต้องเจอตัวเนี่ยนเหยาเร็วๆ นี้แน่นอน ฉันสั่งให้คนของฉันตามหาอยู่ คาดว่าอีกไม่นานก็คงจะเจอตัว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองหน้าเจี่ยงหงซึ่ง เธอรู้ว่าเธอกำลังบินเข้าไปในกองไฟ แต่เพื่อแลกกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว เธอจึงตอบตกลง
เธอค่อยๆ ปิดตาลง
“จำคำที่คุณรับปากฉันไว้ด้วยล่ะ”
เจี่ยงหงซึ่งยิ้มอย่างพึงพอใจ
“แน่นอน ขณะที่พวกเราตามหาตัวเนี่ยนเหยาตัวจริง เธออย่าให้จี้จิ่งเชินรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นอันขาด”
เจี่ยงหงซึ่งและจางม้างหรูออกจากบ้านตระกูลจี้ จางม้างหรูดึงแขนเจี่ยงหงซึ่งอย่างเป็นกังวล
“นี่คุณคิดจะเก็บสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไว้จริงๆ เหรอ?”
เจี่ยงหงซึ่งยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า
“ถึงตอนที่เนี่ยนเหยาตัวจริงกลับมา ใครจะไปสนใจเธอ?”