บทที่004 ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ
บทที่004 ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ
ภายในห้องหนังสือใหญ่
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ริมหน้าต่าง ด้านนอกหน้าต่างเป็นป่าทึบ ภูเขาสูงทอดยาวติดต่อกันยืดออกไปทางด้านนอก
ผืนป่าแห่งนี้ รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์รอบๆ และยังมีวิลล่าโบราณที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ทั้งหมดนี้เป็นของจี้จิ่งเชิน
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ไม่ว่าใครก็ตามเข้าไปไม่ได้เด็ดขาด
ที่นี่คือราชอาณาจักรของจี้จิ่งเชิน
เวลานี้ ในมือของจี้จิ่งเชินถือแก้วไวน์แดงอยู่หนึ่งใบ เขาวนแก้วไวน์อย่างช้าๆ ในแววตาลึกๆ ของเขาไม่แสดงถึงอารมณ์และความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น เสื้อคลุมนอนสีดำบนตัวเขาเผยให้เห็นหน้าอกอันล่ำสัน
“ประธานจี้ เราพบสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อสิบสองปีก่อนแล้วครับ” ผู้ช่วยจงยืนก้มหน้ารายงานความคืบหน้าอยู่ด้านหลัง
ดวงตาของจี้จิ่งเชินขยับเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ผู้ช่วยจงเห็นว่าประธานจี้ไม่ได้พูดอะไร เขาเลยรายงานต่อ “สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเอกชนที่นั้นเพิ่งจะมีชื่อเป็นทางการเมื่อสิบสองปีที่แล้ว ตอนนี้เป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซี จากการตรวจสอบที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเวลาหรือสถานที่ รายละเอียดทั้งหมดมีความสอดคล้องกับท่านประธานครับ”
“เจอตัวเธอหรือยัง?” ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง
“ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซี มีเด็กผู้หญิงที่ชื่อเทียนเทียนแค่คนเดียวเท่านั้นครับ แต่ว่าก่อนหน้านี้หนึ่งปีเธอได้ย้ายออกไปแล้วเนื่องจากครบระยะเวลาที่กำหนด ตอนนี้เธอน่าจะมีอายุประมาณสิบแปดปีครับ”
จี้จิ่งเชินได้ยินชื่อเทียนเทียนชื่อนี้แล้วก็นึกถึงความหลังเมื่อครั้งก่อน ในความทรงจำลึกๆ ของเขา เสียงเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นในใจ
“เธอชื่ออะไร? ฉันชื่อเทียนเทียน”
“พี่จิ่ง ยิ้มเยอะๆ สิ ถ้าพี่จิ่งยิ้มเยอะๆ จะทำให้คนชอบพี่จิ่งเยอะเลยนะ แต่ต่อให้พี่จิ่งไม่ชอบยิ้ม เทียนเทียนก็ชอบอยู่ดี……”
“พี่จิ่ง เทียนเทียนกลัวความมืด”
“ดีใจกับพี่จิ่งด้วย ที่พี่จิ่งได้เจอครอบครัวของพี่จิ่งแล้ว เทียนเทียนหวังว่าสักวันหนึ่งเทียนเทียนก็จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองเหมือนกัน แล้วหลังจากนี้พี่จิ่งจะกลับมาเยี่ยมเทียนเทียนไหม?”
จี้จิ่งเชินหลับตาลง คิดถึงเด็กน้อยฟันหลอคนนั้น ตอนนั้นเธอยังพูดจาไม่ค่อยไม่ถ้อยเป็นคำอยู่เลย พูดก็ไม่ชัด แต่เทียนเทียนคนนี้ กลับเป็นคนสำคัญที่คนหนึ่งในชีวิตของเขา
ภาพของเด็กน้อยคนนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจเขาตลอดมา เทียนเทียนมักจะชอบเดินตามหลังเขาค้อยๆ แล้วชอบเรียกเขาว่าพี่จิ่ง พี่จิ่งอยู่เสมอ
เทียนเทียน พี่สร้างบ้านสวนให้เทียนเทียนแล้วนะ ตอนนี้น้องอยู่ที่ไหน?
หากประมาณตามอายุของเธอในตอนนั้น ตอนนี้เธอน่าจะอายุสิบแปดปีแล้ว
“ใช่”
จี้จิ่งเชินลืมตาขึ้นมาแล้วจิบไวน์แดงที่ถืออยู่ในมือ
“ตามหาเธอให้เจอให้ได้”
“ครับ ท่านประธาน”
พูดจบจงหลีนึกขึ้นได้ว่าเมื่อสักครู่บอดี้การ์ดได้แจ้งเขามาเรื่องหนึ่ง จงหลีลังเลอยู่พักหนึ่ง จึงตัดสินใจพูดออกมา “ท่านประธานครับ……”
“ว่าอย่างไร”
“คุณหนูเจี่ยงยังถูกขังอยู่ในห้องมืดครับ”
จี้จิ่งเชินยิ้มมุมปาก ทันใดนั้นในหัวของเขาได้ปรากฏภาพของเธอที่กำลังตื่นตระหนกหวาดกลัว ทำให้เขาเอะใจขึ้นมา
เป็นไปไม่ได้!
ไม่น่าเชื่อ!
ผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีผลต่อความรู้สึกของเขา!
แววตาของจี้จิ่งเชินเปลี่ยนไปเป็นแววตาที่โหดร้ายทันที
“คนดื้อรั้นแบบนั้น ต้องโดนตีด้วยแส้ถึงจะสำนึก”
จงหลีอ้าปากค้างแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เพื่อผลประโยชน์อำนาจและอิทธิพลแล้ว ตระกูลเจี่ยงสามารถทำได้ทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งบีบบังคับให้ลูกสาวเพียงคนเดียวมาแต่งงานกับประธานจี้ เหตุนี้จึงทำให้ประธานจี้ถึงได้โมโหอย่างรุนแรง
จากการสำรวจข้อมูล เจี่ยงเนี่ยนเหยาคนนี้ภายนอกอาจดูเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีคนหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ตัวตนที่แท้จริงของเธอร้ายยิ่งกว่าอะไรดี
คนแบบนี้ไม่สมควรที่จะได้รับความเห็นใจเลยแม้แต่น้อย
ประธานจี้ต้องชอบผู้หญิงที่ชื่อเทียนเทียนนั่นแน่เลย
ถึงอย่างไรก็ตามเธอก็เป็นคนที่อยู่ข้างๆ ประธานจี้ในช่วงที่ชีวิตของประธานจี้เงียบเหงา
แค่หาตัวผู้หญิงคนนั้นกลับมาได้ เจี่ยงเนี่ยนเหยาที่อยู่ในห้องมืดนั่นก็จะต้องถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลจี้อย่างไร้ความปรานี
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ที่หน้าต่าง เขาวนแก้วไวน์แดงในมือแล้วยกขึ้นดื่ม
“เจี่ยงเนี่ยนเหยา ผมจะคอยดูว่าคุณจะเก่งกาจสักแค่ไหน”