ตอนที่ 3 คนเมาบุกบ้าน
“เฮ้ ทำไมพี่หน้าบึ้งขนาดนั้นละครับ ที่โรงเรียนมีปัญหาอะไรรึเปล่า” ลูเซียสหนุ่มหล่อเจ้าสำอางเดินลงบันไดมาเจอพี่ชายพอดีเลยถามด้วยความเป็นห่วง
“ที่โรงเรียนปกติดี” คนเป็นพี่ชายตอบและจะเดินขึ้นไปบนห้องแต่ถูกรั้งหัวไหล่เอาไว้เสียก่อน
“นั่งดื่มกันก่อนน่าพี่ชาย” ลูเซียสกอดคอพี่ชายเดินไปยังบาร์เครื่องดื่มส่วนตัวของเขาและลูอิส เวลาเครียดๆ แล้วไม่อยากออกไปไหนก็จะมานั่งดื่มกันที่นี่โดยไม่ต้องออกไปนอกบ้านให้เสียเวลา
“งานที่โรงแรมเป็นไงบ้าง” มือหนารับแก้วเครื่องดื่มที่น้องชายชงให้มากระดกเข้าปาก จนหมดแก้วในรวดเดียว
“เรียบร้อยทุกอย่างครับ ว่าแต่พี่เถอะไม่มีปัญหาอะไรแน่นะครับ” ลูเซียสถามย้ำอีกครั้ง เผื่อว่าบางทีพี่ชายอาจจะเปลี่ยนใจบอกเขาก็ได้
“ไม่มี แกจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันนั่งดื่มคนเดียวได้” ลูอิสโบกมือไล่น้องชาย ในมือก็หมุนแก้วเหล้าอย่างใช้ความคิด
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับนัดเพื่อนเอาไว้” ลูเซียสตบไหล่แกร่งแล้วเดินออกไป ปล่อยให้พี่ชายนั่งจมอยู่กับความคิดต่อไปอย่างที่เขาต้องการ
“การเรียนเป็นยังไงบ้างลูกหนูดี” คุณบวรถามหลานสาวที่กำลังนั่งทานอยู่เงียบๆ หนูดีเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวแล้วส่งยิ้มให้กับลุงของเธอ
“เรียบร้อยดีค่ะ แล้วคุณลุงละคะครั้งนี้จะไปประชุมที่อังกฤษกี่วันคะ” ลุงของเธอเป็นนักวิชาการต้องบินไปประชุมประเทศนั้นประเทศนี้อยู่เสมอ ทำให้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านสักเท่าไหร่
“ครั้งนี้ไปเป็นเดือนเลยลูก แล้วหนูอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหมเดี๋ยวลุงซื้อมาให้” คุณบวรถามอย่างใจดี เวลาไปต่างประเทศทีไรเป็นต้องถามหลานสาวเสมอว่าอยากได้อะไร แต่รายนี้ก็ไม่เคยบอกว่าอยากได้อะไรเลย ไม่เหมือนลูกสาวของเขาที่จดรายการสิ่งของที่อยากได้มาเป็นหางว่าว
“ไม่อยากได้อะไรค่ะ เพราะว่าของที่คุณลุงซื้อให้หนูหนูยังใช้ไม่หมดเลยค่ะ” ของที่เธอได้มามันมีมากเสียจนไม่รู้จะใช้อันไหนก่อนดี และที่สำคัญเกรงใจคุณลุงของเธอด้วย
“คุณพ่อไม่เห็นต้องไปถามมันเลยค่ะ ที่มันบอกาไม่อยากได้อะไร เพราะมันรู้อยู่แล้วว่ายังไงคุณพ่อก็ต้องซื้อให้มันอยู่แล้ว”
“ใช่ค่ะคุณ ฉันเห็นด้วยกับลูก ยัยหนูดีมันไม่อยากได้อะไรก็ช่างมันเถอะค่ะ อย่าเซ้าซี้เลย ซื้อให้ลูกกับฉันก็พอแล้ว” คุณบวรมองลูกเมียของตัวเองอย่างเหนื่อยใจ ไม่รู้จะอะไรกับหนูดีกันนักกันหนา เขาก็ไม่ได้อยากจะทิ้งหลานให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบนี้หรอก แต่จำเป็นต้องไปทำงาน รู้ดีว่าที่บ้านหลังนี้มีเพีบงแค่เขาที่หวังดีต่อหลานสาวคนนี้จริงๆ
“พอได้แล้ว จะอะไรกับหนูดีกันมากมาย เธอก็เหมือนกันนภาอายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว หัดทำตัวให้สมกับอายุตัวเองหน่อย และที่สำคัญสั่งสอนลูกเสียบ้างนะ ไม่ใช่วันๆเอาแต่ใช้เงินกับว่าหนูดีกันอย่างเดียว ถ้าฉันทนไม่ไหวขึ้นมาเงินสักบาทเดียวฉันก็จะไม่ให้” คุณบวรพูดเสียงเข้ม ทำให้สองแม่ลูกถึงกับปิดปากสนิทไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาอีก
เมื่ออิ่มแล้วหนูดีก็ขอตัวขึ้นห้องทันที ปล่อยให้ครอบครัวเขาได้คุยกัน เธอก็ไม่ได้อยากจะรับรู้อะไรมาก แค่ปัญหาของตัวเองกับ ผอ. ก็แย่พอแล้ว ดีหน่อยที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดทำให้ไม่ต้องไปโรงเรียน จะได้ไม่ต้องไปเจออีตาจอมหื่นนั่น หนูดีกลิ้งตัวไปมาบนที่นอนในมือก็ถือโทรศัพท์คุยไลน์บ้างเล่นเฟสบุ๊คบ้างสลับกัน จนกระทั่งมีเสียงเรียกเข้า เข้ามาขัดจังหวะในการคุยกับเพื่อน มองเบอร์ที่ไม่ขึ้นชื่ออย่างชั่งใจว่าจะรับดีหรือไม่ เพราะปกติก็ไม่รับเบอร์แปลกอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าคนที่โทรมายังไม่คิดที่จะวางสายไปจึงตัดสินใจกดรับ เพราะบางทีอาจจะเป็นเพื่อนที่ใช้เบอร์คนอื่นโทรมา
“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยทักทายเป็นประโยคแรก แต่ปลายสายก็ยังคงเงียบไม่มีเสียงพูดโต้ตอบกลับมา “ถ้าไม่พูดจะวางแล้วนะคะ”
“หย่า พึ่งง วางง อึก คุยย กานน ก่อนน” เสียงยานครางพูดออกมาทีละคำ ทำให้คนที่กำลังจะวางสายชะงักไป
“ทำไมเสียงคุ้นจัง” เด็กสาวพูดกับตัวเองเสียงเบา “ใครพูดอยู่คะนั่น” หนูดีถามออกไปอย่างสงสัย แม้น้ำเสียงจะยานคางแต่มันก็เหมือนว่าเธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“คุณป๋าเองง”
“ผอ. เหรอคะนั่น” เด็กสาวถามกลับเสียงดัง แล้วเขาจะโทรหาเธอทำไม แถมยังเมาพูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่องอีก
“ม่ายช่าย ผอ. คุณป๋า คุณป๋าของหนูดี มาอยู่หน้าบ้านแล้ว” เสียงอ้อแอ้อย่างคนเมาเต็มที่พูดออกมา แล้วไอหน้าบ้านที่ว่ามันหน้าบ้านใครกัน
“อย่าบอกนะว่ามาอยู่ที่หน้าบ้านหนูนะ” เด็กสาวรีบวิ่งไปเปิดม่านที่หน้าต่างดู แล้วก็เห็นว่ามีรถมาจอดอยู่จริงๆ แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นลูอิสจริงรึเปล่า “ผอ. เอ่อ คุณป๋ามาบ้านหนูเหรอคะ” มือบางกำผ้าม่านเอาไวแน่น สายตาก็จับจ้องไปนอกบ้านอย่างใจจดใจจ่อ
“ช่ายย” เด็กสาวตบหน้าผากตัวเองดังเผี๊ยะ
“รออยู่ตรงนั้นนะคะ ห้ามไปไหนเด็ดขาด” หนูดีรีบเช็คตัวเองหน้ากระจกว่าเสื้อผ้าโอเคไหม เมื่อเรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งลงไปทันที โชคดีที่ห้องนอนของเธอมองเห็นด้านนอกรั้วบ้านเพียงห้องเดียว ไม่อย่างนั้นคนอื่นๆอาจจะเห็นได้ว่าเธอลงไปพบผู้ชายตอนกลางค่ำกลางคืน ลงมาถึงชั้นล่างก็พบว่าไฟในบ้านถูกดับลงแล้วเหลือไว้เพียงไฟตรงบันไดที่ให้แสงสว่างเวลาที่มีคนลงมาข้างล่าง มือบางรีบเปิดประตูบ้านออกไปด้วยความรวดเร็ว และไขประตูรั้วบานเล็กออกไปพบกับคนเมาที่นั่งพิงอยู่หน้ากระโปรงรถคันหรู
“เบบี๋ของคุณป๋ามาแล้วว” ร่างสูงที่มีกลิ่มเหล้าคละคลุ้งเดินเข้ามาสวมกอดร่างเล็กเอาไว้แนบแน่น จนเด็กสาวต้องย่นจมูก เพราะไม่คุ้นชินกับกลิ่นแบบนี้
“นี่กินหรืออาบมากันแน่เนี่ย ปล่อยเลยค่ะเหม็นจะแย่” มือบางดันไหล่หนาออกห่าง แต่คนเมากลับไม่ยอมขยับเขยื้อนออกไปไหน
“อื้อ ไม่เอา” อ้อมแขนแกร่งรัดแน่นรอบเอวบาง ใบหน้าคมเข้มที่มีหนวดเคราซุกไปที่ซอกคอหอม จนหนูดีต้องย่นคอหนีเพราะมันจั๊กจี้
“จะมากอดหนูตรงหน้าบ้านแบบนี้ไม่ได้นะคนบ้า เกิดมีใครมาเห็นเข้าหนูตายแน่ๆ เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวหนูโทรบอกคนที่บ้านให้มารับกลับไปให้”
“ม่ายอาว ม่ายกาบ จานอนนี่”