05 จูบแรก
หวันยิหวาคาเฟ่
“ทำงานคนเดียวแบบนี้ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” มาเฟียหนุ่มเอ่ยพูดขึ้น ขณะที่กำลังช่วยหญิงสาวเก็บร้านอยู่ เขาจะมาช่วยเธอเป็นบางวันเพราะต้องกลับไปเคลียร์งานที่บริษัทด้วย
“เหนื่อยค่ะ มันก็มีความสุขดี เพราะไม่ต้องแบมือขอใครกิน” เธอตอบ
“ฉันหาลูกจ้างให้เอาไหม จะได้มาคอยช่วยเธอตอนที่ฉันไม่อยู่”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับความหวังดี” เธอปฏิเสธไป สำหรับเธอร้านเล็กๆ แค่นี้ไม่จำเป็นต้องมีลูกจ้างก็ได้ เพราะเธอเองก็ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
“ลูกค้าก็เยอะ ทำคนเดียวมันจะไปทันได้ยังไง”
“ทันสิ ฉันเคยทำยังไงมาฉันก็ทำแบบนั้นนั่นแหละ ทันอยู่แล้วล่ะค่ะ”
“….” เขาได้แต่มองหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเป็นคนที่ดื้อมากอะไรก็ไม่เอาอะไรก็ไม่สนใจ แต่เขากลับสนใจการใช้ชีวิตของเธอมาก เธอเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหา มองแค่ตาก็ไม่รู้ตัวตนของเธอหรอก แต่เป็นเพราะเธอน่าค้นหาเขาจึงสนใจเธอมากเป็นพิเศษ
เธอไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา เพราะส่วนใหญ่อะไรก็ง่ายๆ ขอแค่ได้เงินก็ง่ายไปหมด แต่สำหรับเธอไม่ได้สนใจเงินทองที่เขาเอามาประเคนให้เธออยู่ตรงหน้าเลย
“แล้วคุณล่ะ ทำงานอะไรอยู่ที่ไหน”
“ฉันเปิดบริษัทน่ะ เข้าบริษัทบ้างไม่เข้าบ้าง ส่วนที่พักก็พักอยู่คอนโด” เขาตอบ
“อ้าว คุณไม่มีบ้านเหรอ?”
“ก็ฉันไม่มีพ่อไม่มีแม่นี่นา ก็เลยไม่มีบ้าน” บ้านหลังนั้นเป็นบ้านของเขาก็จริง แต่มันเป็นบ้านที่ถูกยกให้เป็นของขวัญในวันแต่งงาน ซึ่งเขาไม่ได้อยากได้เลย เขาจึงไม่สนใจและไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะมาอยู่ที่คอนโดที่เขาได้ซื้อเอาไว้และก็ไม่มีใครรู้ว่าเขามีคอนโดอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งไอรดาไม่เคยรู้มาก่อน
ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนเธอจะตามไปทุกที่ จนเขาไม่มีความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่คอนโดก็ตาม จนเขาต้องแอบไปซื้อคอนโดเอาไว้โดยที่ไม่ให้ใครรู้ จะได้มีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง
“อ๋อ ขอโทษนะที่ถามเรื่องนี้”
“ช่างเถอะ ฉันไม่ได้คิดอะไรมากหรอก”
“คุณอายุเท่าไหร่ล่ะ?”
“เธอเคย….”
“ไม่ต้องมาย้อนคำพูดของฉันเลยนะ ไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรและก็ออกจากร้านของฉันไปเลย”
“เอ้ยๆ ขอโทษๆ แค่นี้ก็ต้องโกรธด้วยเหรอ”
“….” เธอยืนเงียบไม่ได้สนใจคำพูดของมาเฟียยหนุ่ม ทำเป็นว่าตัวเองยุ่งจะได้ไม่ต้องสนใจคำพูดของเขา
“ฉันอายุ 30 แล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอถามบ้าง เธออายุเท่าไหร่?”
“22ค่ะ”
“ถามจริง เธอไม่เรียนเหรอ ตอนแรกฉันนึกว่าเธออายุ25-25ไปแล้ว”
“นี่คุณว่าฉันแก่เหรอห๊ะ!?” หญิงสาวหันไปทำตาโตใส่มาเฟียหนุ่ม เมื่อคำพูดของเขาที่พูดออกมาไม่ต่างอะไรจากการว่าเธอแก่เลย
“ปะ เปล่า ก็ฉันไม่เห็นเธอเรียนนี่นา ปกติอายุขนาดนี้ต้องเรียนไม่ใช่เหรอ แต่เธอกลับมาทำงานงกๆ อยู่คนเดียว”
“ฉันไม่อยากเรียน ก็เลยออกจากมหาวิทยาลัยมาทำงานนี่แหละ ก็ไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไมเหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องมานั่งทำงานงกๆ แบบนี้เหมือนกันหมด สู้หาประสบการณ์ตั้งแต่เด็กจะดีกว่า”
“ก็จริงของเธอ แล้วเธอไม่อยากเรียนต่อหรือไง?”
“ไม่อะ ฉันล้มเลิกความคิดที่จะเรียนต่อตั้งแต่ได้ทำงานแล้ว”
“เธอนี่ก็แปลกคนนะ ถ้าเธอบอกว่าอยากเรียนต่อทุกอย่างของเธอฉันจะเป็นคนจัดการต่อให้ทั้งหมดเอง จะส่งเสียค่าเล่าเรียนของเธอให้เงินเธอใช้ แถมครอบครัวของเธอก็ไม่ลำบากด้วย”
“ก็ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันมีความสุขดีที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ ถ้าคุณยังไม่เลิกพูดเรื่องพวกนี้ฉันจะให้คุณกลับบ้านของคุณไปเลย แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งที่ร้านของฉันอีก” เธอหันไปพูดกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่ขึงขังเพราะไม่ชอบให้ใครมาพูดแบบนี้ใส่ เธอรักศักดิ์ศรีของตัวเองมากไม่มีทางที่จะขายศักดิ์ศรีของตัวเองแน่นอนต่อให้ลำบากแค่ไหนเธอก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย
“อ่าๆ โอเคๆ ไม่พูดแล้วก็ได้”
“ทำไมคุณชอบพูดเหมือนกับว่าฉันขายตัวอยู่เรื่อยเลย ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าคุณคิดอะไรอยู่กันแน่ ทำไมถึงได้มองผู้หญิงเหมือนกันหมดเลย”
“ขอโทษ ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นเธอลำบากก็เท่านั้น เธอก็แค่ไม่ต้องทำอะไรมากไง งานง่ายๆ สบายๆ นอนอย่างเดียว”
“งานอะไรของคุณ?”
“ก็ เอากับฉันไง..”
“หืมม ไอ้…” หญิงสาวตาเบิกโพลงพลางง้างมือจะตีคนตรงหน้า แต่มีคนเปิดประตูเข้ามาซะก่อนเธอเลยต้องหยุดการกระทำของตัวเอง
“เอ่อ…ผมเข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าครับ” คนที่เข้ามาก็คือลูกน้องของมาเฟียหนุ่ม คนที่มาซื้อกาแฟกับเธอเมื่อหลายวันก่อนโน้น
“เปล่าค่ะ รับอะไรดีคะ?”
“ผมมาหาเจ้านายของผมครับ คนที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณ”
“เจ้านาย?”
“ครับ เจ้านาย”
“มึงมีอะไร กูบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าไม่มีงานเร่งด่วนอะไรอย่ามายุ่งวุ่นวาย”
“เอ่อเรื่องนี้ด่วนจริงๆ ครับ”
“อะไร?”
“เรื่องคุณไอ”
“…..” เมื่อได้ยินลูกน้องพูดแบบนั้นเขาก็รีบเดินออกมานอกร้านทันที สร้างความงุนงงให้กับหญิงสาวมาก
“ทำไมเธอไปก่อเรื่องอะไรอีก”
“ลูกน้องของเราบอกว่าคุณไอจ้างนักสืบคอยตามนายครับ และก็มีชิพติดตามอยู่ในรถด้วย แต่ผมให้ลูกน้องเอาออกไปแล้ว แต่คุณไอน่าจะยังไม่รู้ตัวครับ”
“อะไรวะ!!” เขาสบถออกมาอย่างหัวเสีย สองมือกำแน่นด้วยความหงุดหงิด “นี่จะไม่ปล่อยให้เป็นอิสระเลยรึไงวะ!!”
“ผมคิดว่านายน่าจะไปคุยเรื่องนี้กับพ่อของคุณไอนะครับ ผมว่าท่านน่าจะมีทางออกให้ดีกว่านี้หย่ากันไปเลยจะดีกว่านะครับ ผู้หญิงคนนี้จะได้ไม่ต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย”
“….” มาเฟียหนุ่มหันไปมองร่างบางที่ยืนทำความสะอาดอยู่ในร้าน “อืม ขอบใจที่มาบอก เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง”
“เอ่อนายครับ”
“มีอะไร?”
“ผมว่านายเอารถของผมไปใช้ก่อนดีกว่านะครับ เพราะรถของผมน่าจะไม่มีชิพร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่รถของนายอาจจะมีชิพหลงเหลืออยู่ อย่างน้อยผมก็ขับรถไปที่บริษัททุกวันอยู่แล้ว คุณไอเธอจะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับนาย แล้วจะได้ไม่ต้องตามวุ่นวายที่นี่ด้วย”
“เออๆ ขอบใจ” เขายื่นกุญแจรถสปอร์ตของตัวเองให้กับลูกน้อง รับกุญแจรถเก๋งของลูกน้องมาแทน
ด้านในร้าน
“ยิหวา”
“…..” เธอนิ่งทำเมินไม่สนใจคำพูดของชายหนุ่ม
“ฉันขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไป แต่ฉันไม่ได้คิดอะไรเกินเลยอย่างนั้นจริงๆ นะ อีกอย่างเรื่องเซ็กซ์มันก็เป็นเรื่องปกติของคนเราอยู่แล้วไหม”
“….” เธอก็ยังไม่ตอบอะไรเหมือนเดิม
“ยิหวา!”
“อื้อ!!” หญิงสาวเบิกตาโพลง เมื่อจู่ๆ มาเฟียหนุ่มก็ดึงตัวของเธอให้หันหน้าไปหาเขาแล้วจูบปากเธอ
และแล้วจูบแรกของเธอเสียให้กับผู้ชายตรงหน้าไปในที่สุด
“อืมม….”
“อื้ออ!!” เธอผลักอกของมาเฟียหนุ่มออกอย่าแรง จนเขาผละหน้าออกไป “ไอ้ทุเรศ ไอ้ผู้ชายชอบฉวยโอกาส ไอ้…หึ้ยยปึก!!”
“อ๊ะ!?” ร่างกำยำค้างอยู่กลางอากาศ เมื่อจู่ๆ หญิงสาวก็แตะผ่าหมากเขา มันจุกจนพูดไม่ออกจริงๆ
ตัวของมาเฟียหนุ่มค่อยๆ ทรุดนั่งลงกับพื้นจนกระทั่ง ในความคิดของเขาคือผู้หญิงโดนจูบและผู้ชายก็จะถูกตบ และผู้ชายก็จะจูบอีกครั้งพร้อมกับบอกว่า ตบอีกฉันก็จะจูบอีก แต่เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนไหนจริงๆ เธอชาร์จจุดบอดของเขาแบบนิ่งสนิท ไม่มีแรงที่จะต่อต้านหรือทำอะไรเธอได้เลย
“สมน้ำหน้าอยากมารุ่มร่ามกับฉันดีนัก นี่แค่เตือนนะ ถ้ายังมาทำแบบนี้กับฉันอีกโดนหนักกว่านี้แน่”
“อะ โอยย ห่วงกันก่อนไม่ได้เหรอ” เขาพูดเบาๆ เพราะแม้แต่จะพูดก็ยังไม่มีแรงเลย
“ตายไปโลด”