03 อาละวาด
ร้านกาแฟ
กริ๊ง~
“สวัสดีค่ะคุณลูกค้า รับอะไรดีคะ” หญิงสาวเอ่ยต้อนรับลูกค้าเสียงหวาน และไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เพราะกำลังก้มหาอะไรบางอย่างอยู่
“…..” คนที่เข้ามาไม่ได้พูดอะไร พลางมองดูหญิงสาวที่กำลังค้นหาของอยู่ใต้โต๊ะ
“รับอะไรดีคะ….คุณ!?” เธอมองตาค้างเมื่อได้เห็นคู่กรณีที่เธอขับรถชนเมื่อเช้ายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ไงลืมกันแล้วเหรอ ฉันมาทวงคำพูดของเธอที่บอกว่าจะชดใช้ค่าเสียหายของรถฉัน วันนี้ฉันเอารถไปเข้าอู่มาแล้ว ค่าซ่อมแซมทั้งหมดล้านสองแสน”
“ห๊ะ!? ล้านสอง” เธอเบิกตากว้างเมื่อได้ยินจำนวนเงินที่เธอจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้ชายตรงหน้า
“ใช่ล้านสอง ฉันบอกแล้วว่าค่าซ่อมแซมไม่ใช่น้อยๆ เพราะรถของฉันไม่ได้ราคาน้อยๆ เลย”
“อะ อื้มได้สิ แต่ฉันขอผ่อนจ่ายเป็นเดือนนะ เพราะต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายอะไรหลายอย่างอีกด้วย”
“จะยังไงก็เรื่องของเธอ ขอแค่จ่ายค่าเสียหายให้ฉันก็พอ”
“ค่ะ”
“คาปูชิโน่แก้วนึง”
“คะ!?”
“ฉันบอกว่าเอาคาปูชิโน่แก้วนึง ไม่หวาน เร็วๆ ด้วย ฉันจะนั่งรอ”
“ค่ะๆ” เธอมองหน้าชายหนุ่มอย่างงงๆ นี่มันก็เย็นแล้วมากินกาแฟตอนเวลาใกล้จะนอนเนี่ยน่ะเหรอแปลกคนผู้ชายคนนี้
ผ่านไปสักพัก
“นี่ค่ะคาปูชิโน่ไม่หวาน”
“ขอบใจ”
หญิงสาวเดินกลับมาเก็บของทำความสะอาดเตรียมที่จะปิดร้านและกลับบ้านของเธอตามปกติ
“อยู่ร้านคนเดียวเหรอ?” มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามขึ้น ขณะที่หญิงสาวกำลังวุ่นอยู่กับการเก็บของ
“ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ
“อ่อ ทำไมไม่หาลูกจ้างล่ะ?”
“ไม่ค่ะ”
“เธออายุเท่าไหร่?”
“ฉันว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันนะคะ ฉันขอเสียมารยาทไม่ตอบนะคะ และก็รบกวนคุณออกไปจากร้านของฉันด้วยค่ะ เพราะฉันจะปิดร้านแล้ว”
“…..” เขานั่งนิ่งไม่ได้ตอบอะไร
“รบกวนคุณลูกค้าออกไปจากร้านก่อนนะคะ”
“เธอชื่ออะไร”
“มะ…”
“ฉันว่าฉันมีสิทธิ์รู้จักชื่อคู่กรณีของฉันนะ อีกอย่างนึงฉันไม่รับเงินจากเธอก็ได้นะแต่จะเปลี่ยนเป็นให้ทนายความมาจัดการเรื่องคดีแล้วก็เอาเธอเข้าคุกแทน” เขารีบพูดแทรกออกไป เมื่อรู้ว่าหญิงสาวกำลังจะพูดอะไร แต่แค่ต้องการจะขู่ก็เท่านั้น
“ยิหวาค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ไป
“แค่นั้น ฉันชื่อไอศูรย์”
“ค่ะ”
“นี่นามบัตรของฉันนะ พร้อมจะจ่ายให้ฉันเมื่อไหร่ก็โทรมา”
“ความจริงคุณเอาเลขบัญชีมาให้ฉันก็ได้นี่คะ เพราะโอนเข้าบัญชีมันน่าจะง่ายกว่า”
“แต่ฉันจะเอาเงินสด หรือเธอจะให้ฉันเอาทนายมาจัดการคดีแล้วเธอก็จะได้ขึ้นศาล” เขาพูดเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจ พอไม่ได้ดั่งใจก็ขู่จะเอาให้ได้
“….” หญิงสาวถอนหายใจอย่างแรง “ค่ะ เงินสดก็เงินสด เอาไว้ทุกสิ้นเดือนคุณก็แวะมาหาฉันที่นี่ก็แล้วกันนะคะ ฉันจะได้ถอนเงินสดเอาไว้ให้”
“อืม…”
“หมดธุระแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปจากร้านของฉันได้แล้วค่ะ”
“ไล่?”
“หรือถ้าคุณอยากจะอยู่ต่อก็ได้ แต่พรุ่งนี้ฉันถึงจะมาเปิดให้คุณออกมานะคะ”
“เห้ยๆ เดี๋ยวสิ” มาเฟียหนุ่มรีบวิ่งออกไปจากร้าน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะปิดประตูล็อคกลอน “นี่เธอเป็นแม่ค้าได้ยังไง ไม่สนใจลูกค้าเลย แถมยังพูดจาห้วนใส่ด้วย”
“ลูกค้าบางคนก็ปฏิบัติดีค่ะถ้ารู้จักกาลเทศะ แต่ถ้าลูกค้าบางคนไม่รู้จักกาลเทศะฉันก็จะปฏิบัติกลับแบบนั้นเหมือนกัน” พูดจบเธอก็เดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองทันที
“เหอะ! เธอนี่มันแรงได้ใจฉันจริงๆ” เขายิ้มหัวเราะออกมาอย่างพอใจ ชอบที่หญิงสาวปฏิบัติกับตัวเองแบบนี้ เพราะไม่เคยมีใครทำกับเขาแบบนี้มาก่อนเลย เธอเป็นคนแรกที่กล้าตีริมฝีปากกับมาเฟียอย่างเขา
เวลาต่อมา
วันนี้ชายหนุ่มตัดสินใจขับรถกลับมาที่บ้าน เพื่อที่จะมาเคลียร์กับภรรยาให้รู้เรื่องกับการที่เธอบุกไปอาละวาดที่ทำงานของเขาทุกหนแห่ง จนพนักงานทุกคนไม่เป็นอันทำการทำงาน
เขาไม่ชอบให้ใครล้ำเส้นมากเกินไป โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวและงาน
“คุณไอศูรย์!” หญิงสาวรีบเดินเข้ามาหาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นว่ามาเฟียหนุ่มเดินเข้าไปในบ้าน “ไอคิดว่าคุณจะไม่กลับบ้านซะแล้ว”
“มาคุยกับผมบนห้องทำงาน” เขาพูดเสียงเข้ม ก่อนจะเดินนำหน้าหญิงสาวขึ้นไป
ด้านในห้อง
“คุณมีอะไรจะคุยกับอะไรเหรอคะ?”
“ผมจะพูดอีกแค่ครั้งเดียวนะ และผมก็จะไม่พูดซ้ำอีก”
“….”
“เลิกยุ่งวุ่นวายกับที่ทำงานของผมได้แล้ว คุณรู้มั้ยว่าคุณทำให้บริษัทของผมเสียหายมากแค่ไหน ทำให้พนักงานของผมขวัญหนีดีฝ่อไปหมด บางคนถึงกับต้องลาออกจากที่ทำงานเพราะกลัวจะถูกคุณทำร้าย คุณเองก็เรียนจบมาสูงนะมีการศึกษา ฐานะทางครอบครัวก็ดีมีหน้ามีตาในสังคม แทนที่คุณจะทำตัวดีๆ ให้คนอื่นเค้านับถือว่าคุณเป็นคนที่น่านับถือ แต่นี่อะไร! ทำตัวไม่ให้คนอื่นเคารพยังไม่พอ ยังจะไปจ้องทำร้ายคนอื่นอีก!”
“ก็เพราะไอกลัวว่าจะเสียคุณไปไง ไอรักคุณอะ ไอรักคุณได้ยินมั้ย!”
“แต่ผมไม่เคยรักคุณ และที่ผมยังไม่หย่าก็เพราะพ่อของคุณ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณเลย”
“ฮึก คุณมันใจร้าย ไอรักคุณ รักมาตลอด ยอมทำทุกอย่างได้ก็เพื่อคุณ แต่ดูสิ่งที่คุณตอบแทนไอสิ ทำไมคุณใจร้ายอย่างนี้”
“ผมว่าคนที่ใจร้ายไม่ใช่ผมหรอกนะ คุณอย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าคุณให้ลูกน้องที่บ้านไปทำอะไรมาบ้าง ฆ่าคนตายมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะไอรดา และถ้าคุณยังไม่หยุด ผมนี่แหละจะเป็นคนส่งคุณเข้าคุกเอง”
“ฮื้ออ กรี๊ดดด กรี๊ดดด” เธอร้องโวยวายพร้อมกับขว้างปาข้าวของในห้องทำงานของเขา จนแตกกระจายเกลื่อนห้อง
“ไอรดา! ไอรดา! คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ ไอรดา!” มาเฟียหนุ่มพยายามที่จะเข้าไปห้ามปรามเธอ แต่เธอกลับขว้างปาข้าวของมาที่เขาไม่ยอมหยุด
ปึก!
“อ่า…” เลือดสีแดงสดๆ ไหลออกมาจากศีรษะของมาเฟียหนุ่ม เมื่อถูกของแข็งกระทบที่ศีรษะของเขาอย่างแรง
“ฮึก คุณอะ ไอขอโทษ…”
“ออกไป…”
“ไอขอโทษ ไอไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณเจ็บตัว ฮึกก”
“ออกไป!!” เขาตวาดไล่เธอเสียงดัง จนลูกน้องที่ยืนดูอยู่ด้านนอกต่างพากันสะดุ้งไปพร้อมๆ กัน
“นายครับ ไปหาหมอเถอะครับเลือดออกเยอะเลย” ลูกน้องเดินเข้ามาหาผู้เป็นเจ้านายด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากแผลจำนวนมาก
“ไม่! มึงนั่นแหละเข้ามาทำแผลให้กู”
“ตะ แต่ผมว่าไปหาหมอน่าจะดีกว่านะครับ แผลลึกมากเลย”
“กูบอกว่าไง”
“คะ ครับ จะรีบทำแผลให้เดี๋ยวนี้แหละครับ”
ลูกน้องรีบไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาทำแผลให้กับผู้เป็นเจ้านายทันที
“นายแน่ใจนะครับว่าจะไม่ไปหาหมอ”
“อืม แผลแค่นี้กูไม่ตายหรอก” เขาพูดใส่ลูกน้อง เป็นมาเฟียเจอมาเยอะกว่านี้มากแค่นี้ไม่ทำให้เขาระคายผิวได้หรอก
“คุณไอเธอมีอารมณ์รุนแรงมากขึ้นทุกวันเลยนะครับ ผมเกรงว่า…”
“ปล่อยเธอ”
“ผมว่าน่าจะบอกพ่อของคุณไอนะครับ ปล่อยไว้แบบนี้ผมกลัวว่าคุณอะไรเธอจะไปก่อเรื่องอะไรเข้าอีก”
“เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงมีอะไรก็ไปทำป่ะ”
“ครับ ว่าแต่เรื่องสีรถนายพอจะบอกได้ไหมครับว่าไปทำอะไรมา”
“เสือก!”
“อ่าว…”
“ออกไปได้ละกูจะพักผ่อน”
“เอ่อ….”
“ไอ้บอล!”
“ครับนาย ออกไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”