02 เธอต้องรับผิดชอบ
หลายวันผ่านไป
เอี๊ยด! ปึก! โครม!
จู่ ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์ที่ไหนก็ไม่รู้พุ่งมาชนที่หน้ารถสปอร์ตของมาเฟียหนุ่ม ทำให้เขาต้องเบรคกระทันหันและรีบลงไปดูความเสียหายของรถทันที
"ขะ ขอโทษค่ะ ฉันมองไม่เห็น" หญิงสาวรีบเอ่ยปากขอโทษปาวๆ เพราะมองไม่เห็นว่ามีรถพุ่งออกมาจากซอยพอดี ทำให้เธอชนเข้าเต็มๆ
"แล้วเธอเป็นอะไรมากมั้ย?" เขาเอ่ยถามตามมารยาท
"มะ ไม่ค่ะ แค่ถลอกนิดหน่อย” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม เขาจำใบหน้านี้ได้เพราะเธอคือเจ้าของร้านกาแฟคนนั้น คนที่เขากำลังสนใจอยู่
“แต่รถฉันมีรอยถลอกเธอต้องรับผิดชอบ รถของฉันไม่ได้ราคาสิบบาทยี่สิบบาทนะ รถคันนี้ของฉันราคาสิบล้านกว่า เสียหายแบบนี้ราคาไม่ต่ำกว่าล้านหรอกนะ”
“เอ่อ ถ้าคุณจะเอาเดี๋ยวนี้เลยฉันคงไม่มีหรอกค่ะ เอาเป็นว่าคุณทิ้งเบอร์โทรหรือนามบัตรไว้ แล้วฉันจะตามไปชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่คงจะต้องทยอยจ่ายนะคะ วันนี้ฉันรีบขอตัวก่อนนะคะ” เธอพูด พลางพยุงรถของตัวเองตั้งขึ้น
“เดี๋ยว! แล้วฉันจะแน่ใจได้ไงว่าเธอจะไม่หนี คนสมัยนี้ไว้ใจได้ง่ายๆ ซะที่ไหน ถ้าเธอหนีไม่ยอมมาจ่ายเงินค่าเสียหายรถของฉันจะทำไง”
“อ่า ฉันเปิดร้านกาแฟอยู่ตรงนี้นะคะ ชื่อร้านว่า หวันยิหวาคาเฟ่ ถ้าคุณกลัวว่าฉันจะหนีก็ไปตามฉันที่ร้านนั้นได้เลยค่ะ”
“ร้านกาแฟ?”
“ค่ะ ร้านกาแฟค่ะ ห่างจากตรงนี้ไปไม่ถึงกิโล แต่วันนี้ฉันรีบจริงๆ ขอตัวก่อนนะคะ แล้วก็ขอโทษด้วย” พูดจบหญิงสาวก็คว้ารถมอเตอร์ไซค์ของเธอขับออกไปทันที โดยที่ไม่ได้หันกลับมามองคู่กรณีอีกเลย
“…..” มาเฟียหนุ่มยืนมองนิ่งๆ ก่อนจะหันกลับไปขึ้นรถของตัวเอง ขับตามหญิงสาวไปโดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว
เขาจอดรถมองดูหญิงสาวกำลังเปิดร้านของตัวเองอย่างเร่งรีบ ก่อนจะขับรถผ่านออกไปเพราะมีงานด่วนต้องทำต่อ
บริษัทใหญ่xxx
“สวัสดีครับนาย”
“ทุกคนมากันพร้อมหรือยัง?” เขาเอ่ยถามลูกน้อง พลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา
“ทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้วครับนาย”
“อืม ฝากเอารถไปเก็บที”
“ครับ อะ เอ่อ รถของนายไปทำอะไรมาครับ ทำไมถึงมีรอยถลอกแบบนั้น” ลูกน้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะรถคันนี้ผู้เป็นเจ้านายเพิ่งจะถอยมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่คิดว่ามันจะมีรอยถลอกเร็วขนาดนี้ และราคาซ่อมก็ไม่ใช่เบาๆ เลยสำหรับรถราคา8หลักแบบนี้
“ไม่ต้องถามมาก เอาไปเข้าอู่ให้ด้วยก็แล้วกัน”
“คะ ครับนาย นะ นายครับคือว่าคุณ…”
“เอาไว้ก่อนก็แล้วกันเรื่องนั้น ประชุมเสร็จค่อยว่ากันอีกที” ชายหนุ่มพูดตัดบทเพราะรู้ว่าลูกน้องกำลังจะพูดอะไร คงไม่พ้นภรรยาจอมโวยวายของเขาเหมือนเดิม
พูดจบมาเฟียหนุ่มก็เดินเข้าไปในบริษัททันที โดยไม่ได้สนใจเสียงทัดทานของลูกน้อง
ทว่า…
“คุณไอศูรย์ คุณหายไปไหนมาทำไมคุณถึงไม่กลับบ้าน นี่ถ้าไอไม่มาดักรอคุณที่นี่ก็ไม่มีทางได้เจอคุณใช่ไหม คุณเป็นสามีประสาอะไรไม่เคยอยู่ติดบ้านเลย ปล่อยให้ไออยู่บ้านคนเดียวกับพวกแม่บ้านกิ๊กก๊อกพวกนั้น คุณเคยคิดเป็นห่วงไอบ้างไหม หรือว่าคุณห่วงแต่ตัวเองห่วงแต่งาน คุณเคยเห็นความสำคัญของไอบ้างไหม ไอเป็นภรรยาของคุณนะ!” เสียงของหญิงสาวดังอ้าวจนพนักงานหลายๆ คนเริ่มหันมามองยังทั้งสอง
“ไอรดาที่นี่มันที่ทำงานนะ มีอะไรค่อยกลับไปคุยกันที่บ้านผมจะทำงาน” มาเฟียหนุ่มพูดอย่างเหนื่อยหน่าย
“แล้วคุณเคยกลับบ้านบ้างไหมล่ะ!?” เธอพูดสวนกลับ โดยไม่สนใจเลยว่ากำลังถูกเป็นที่จับตามองของพนักงาน
“ผมบอกว่าให้กลับไปคุยกันที่บ้าน!” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำใส่คนตรงหน้าอย่างเหลืออด ไม่ตามไปโวยวายที่คลับของเขาแต่กลับมาโวยวายอยู่ที่บริษัทแทน
“นะ นี่คุณกล้าขึ้นเสียงใส่ไอเหรอ ไหนมันอยู่ไหนอีเมียน้อย คุณซ่อนอีเมียน้อยเอาไว้ที่นี่ใช่ไหม” เธอเริ่มโวยวายเสียงดัง เพราะถูกชายหนุ่มแต่ข้อจึงทำให้เสียหน้ากับพนักงาน
เธอเดินไปยังกลุ่มพนักงานหญิงที่ยืนอยู่ ก่อนจะดึงผู้หญิงคนนึงออกมาจากในกลุ่มนั้น
“นี่ใช่ไหมที่เป็นเมียน้อยของคุณ!”
“ปะ เปล่านะคะคุณไอรดา ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรกับท่านประธานเลยนะคะ” เธอรีบปฏิเสธปาวๆ เพราะไม่อยากให้ใครเข้าใจเธอผิด
“โกหก!”
“ไอนี่คุณจะวุ่นวายกับผมมากเกินไปแล้วนะ ปล่อยพนักงานของผมเดี๋ยวนี้”
“ไม่ปล่อย เหอะ! เริ่มเป็นห่วงมันขึ้นมาแล้วหรือไงอีเมียน้อยเนี่ย”
“ทุกคนที่นี่เป็นพนักงานที่บริษัทนี้ และก็เป็นคนของผม เพราะฉะนั้นผมมีสิทธิ์ที่จะปกป้องคนของผมทุกคน”
“แล้วไอล่ะ คุณเคยใส่ใจสนใจไอบ้างหรือเปล่า คุณเห็นทุกคนสำคัญหมดยกเว้นไอคนเดียว ไออยากรู้ไอทำอะไรผิด”
“คุณไม่ผิด ไม่มีใครผิดทั้งนั้น ออกไปได้แล้วก่อนที่ผมจะให้ยามมาลากตัวคุณออกไป”
“ฮึกนี่คุณ เพราะอีเมียน้อยนี่ใช่มั้ย!” ไอรดาง้างมือจะตบพนักงานหญิง แต่กลับถูกมาเฟียหนุ่มคว้ามือเอาไว้ซะก่อน
“ออกไป!” ร่างกำยำผลักเธออกไปอย่างแรง จนล้มลงกับพื้นท่ามกลางสายตาของพนักงานที่ยืนมองอยู่
“ทุกคนมีหน้าที่อะไรก็กลับไปทำงานของตัวเอง และอย่าให้ผมรู้ว่ามีคนพูดถึงเรื่องพวกนี้ ไม่อย่างนั้นผมไล่ออก”
“ค่ะ ครับ ท่านประธาน” พนักงานทุกคนต่างพากันแยกย้ายออกไป
“ฮึก คุณไอรดาอย่าเข้าใจผิดเลยนะคะ ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรกับท่านประธานจริงๆ ดิฉันแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้ว ถ้าคุณไอไม่เชื่อก็ไปดูที่บ้านของดิฉันได้เลย”
“เธอออกไปได้ละ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” เขาบอกกับพนักงาน
“ค่ะท่านประธาน”
“เหอะ ดูเตรียมการกันมาดีเหลือเกินนะ คิดว่าไอจะเชื่อเหรอ”
“ผมไม่ได้ขอร้องให้คุณมาเชื่ออะไรผมหรอกนะ ที่นี่ผมเป็นเจ้าของเป็นเจ้านายของทุกคนที่นี่ ผมมีสิทธิ์ที่จะปกป้องลูกน้องทุกคนของผม ผมขอเตือนคุณอีกแค่ครั้งเดียว ว่าอย่ามาวุ่นวายกับงานของผมอีก แล้วจะหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้”
“ไอจะบอกคุณพ่อ ว่าคุณทำร้ายไอ”
“เชิญ แล้วก็บอกคุณพ่อของคุณด้วย ว่าคุณมาวุ่นวายกับผมยังไง ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าพ่อของคุณรู้เรื่องนี้ มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“…..” หญิงสาวยืนเงียบ ไม่ได้พูดอะไรอีกน้ำตาของเธอค่อยๆ ไหลออกมาจนอาบแก้มนวล “แต่เราแต่งงานกันแล้วนะ ทำไมคุณถึงไม่หันมาสนใจไอบ้าง ทำไมล่ะ ทำไมคุณถึงต้องจมปลักอยู่กับอดีต ทำไมคุณไม่นึกถึงจิตใจของไอบ้าง?”
“เพราะอดีตของผมมันดูกว่าปัจจุบันนี้ยังไงล่ะ”
“ไอฮึก ไอไม่ดีตรงไหน ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีกว่าไอคุณถึงยังลืมมันไม่ได้”
“อย่ามาเรียกมิตาว่ามัน!” เขาหันไปกลับไปมองเธอด้วยสายตาที่เกรี้ยวกราด
“ทำไม! ก็คนมันตายไปแล้วคุณจะยังไม่คิดถึงอะไรมันอีก อยู่กับปัจจุบันไม่ดีกว่าเหรอ?”
“…..”
“เหอะ! มันก็สมควรแล้วล่ะที่ต้องตาย”
“ว่าไงนะ!” มาเฟียหนุ่มคว้าแขนของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับออกแรงบีบอย่างแรงด้วยความโมโห
“อะ โอ้ยย ปล่อยไอเดี๋ยวนี้นะ ไอเจ็บคุณไอศูรย์”
“…..” เขามองหน้าเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แรงบีบอย่างหนักทำให้หญิงสาวเบ้หน้าออกมาเพราะความเจ็บปวด
“อะ โอ้ย!!”
“…..” เสียงร้องของหญิงสาวทำให้มาเฟียหนุ่มได้สติและค่อยๆ คลายมือออกไป เธอลูบต้นแขนปอยๆ เพราะเจ็บปวดพร้อมกับสีหน้าที่ซีดเผือก “อย่ากลับมาที่นี่อีก”
มาเฟียหนุ่มพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในทันที