บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 พี่ชาย 1

ณดลนั่งมองฟางข้าวเพลินจนกระทั่งพนักงานเดินเข้ามาส่งเมนูให้และเตรียมจดออเดอร์ เขาถึงรู้สึกตัว

“ข้าวอยากทานอะไรไหม สั่งเลย” ณดลบอกฟางข้าวพลางส่งเมนูจากพนักงานให้เธอ

“ดลสั่งเลย เราไม่มีอะไรที่อยากทานเป็นพิเศษน่ะ” ฟางข้าวดันเมนูตรงหน้ากลับคืนให้ณดล

เขาเลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะหยิบเมนูมาสั่ง 4-5 รายการ แล้วส่งเมนูคืนให้พนักงานไป

ณดลนั่งมองหญิงสาวตรงหน้าเงียบๆ เขาค่อนข้างแปลกใจที่หญิงสาวอยู่ง่ายทานง่ายแบบนี้ ฟางข้าวมีบุคลิกที่ดูบอบบาง เขาคิดว่าเธอจะเรื่องมากเรื่องเยอะเหมือนพวกผู้หญิงคนอื่นเสียอีก

ไม่นานอาหารที่สั่งไปก็ทยอยมาเสิร์ฟ ณดลกับฟางข้าวนั่งทานอาหารพลางพูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อย หลังจากนั้นเขาก็ไปส่งหญิงสาวที่บ้านของเธอ และขับรถกลับคอนโดไป

“ทำไมวันนี้คุณแม่กลับมาเร็วจังล่ะคะ” หลังจากเข้ามาในบ้านแล้วพบมารดาของเธอนั่งรออยู่ หญิงสาวจึงเอ่ยทักด้วยความแปลกใจ

“งานมีปัญหาน่ะสิ พรุ่งนี้แม่ต้องไปฝรั่งเศส น่าจะประมาณอาทิตย์กว่าเลย” ปลายฝนตอบบุตรสาวพลางถอนหายใจหนักๆ

“ไปเถอะค่ะแม่ ข้าวอยู่ได้” หญิงสาวบอกพลางยิ้มให้มารดาสบายใจ

“แม่เป็นห่วงข้าวจังเลย แม่รู้สึกว่ารอบนี้แม่อาจจะไปนาน” ปลายฝนบอกบุตรสาวด้วยความไม่สบายใจ เธอสังหรณ์ว่าการไปทำงานของเธอครั้งนี้ จะทำให้อะไรหลายอย่างเปลี่ยนไป

“ไม่เห็นเป็นอะไรนี่คะ ในบ้านเราอยู่กันตั้งหลายคน ข้าวอยู่ได้ค่ะ” หญิงสาวบอกกับมารดาเสียงร่าเริง

ฟางข้าวต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการปลอบมารดาของ เพื่อที่ปลายฝนจะได้ไปทำงานอย่างสบายใจ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง หญิงสาวใช้เวลาอยู่กับมารดานานพอสมควร ก่อนที่ท่านจะบอกให้เธอไปพักผ่อน เพราะท่านเองก็ต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวเดินทางในวันพรุ่งนี้เช่นกัน

“คุณแม่ไม่ลืมอะไรใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามขึ้นระหว่างที่กำลังรอส่งมารดาของเธอขึ้นเครื่อง

“ไม่ลืมแน่นอน ข้าวดูแลตัวเองดีๆนะลูก แม่โทรบอกให้พี่เฟรมมาอยู่เป็นเพื่อนข้าวที่บ้านแล้ว คงจะมาถึงบ่ายๆ” หญิงสาวพยักหน้ารับคำมารดา

‘เฟรม’ หรือ วัชระ เป็นญาติผู้พี่ของฟางข้าว คุณพ่อของเขาเป็นพี่ชายแท้ๆของปลายฝน มารดาของฟางข้าว เขาอายุมากกว่าเธอ 5 ปี แต่ความต่างทางอายุไม่ได้ทำให้เธอห่างเหินกับญาติผู้พี่เลย ในทางกลับกัน เธอกลับสนิทกับเขาในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ตอนเด็กๆเธอมักจะขอให้มารดาพาไปหาวัชระทุกปิดเทอม จนคุณลุงของเธอต้องจัดห้องนอนไว้ให้เธอที่บ้าน เมื่อเธอเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังนัดเจอกันบ่อยๆ

“ใกล้เวลาแล้ว ไปเถอะค่ะคุณแม่” ฟางข้าวบอกมารดาหลังจากก้มดูนาฬิกาข้อมือ

“แม่ไปนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ ติดต่อแม่เรื่อยๆนะ” ปลายฝนสั่งบุตรสาวก่อนจะเดินไป

“เดินทางปลอดภัยค่ะ” เธอยืนส่งจนมารดาเดินลับสายตาไป ถึงจะโทรหาอำนวยให้มารับเธอ

หลังจากได้ขึ้นรถ ฟางข้าวที่ยังไม่ทันได้เก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า ได้กดโทรออกหาใครบางคน ก่อนจะยิ้มอย่างดีใจเมื่อปลายสายส่งเสียงใจดีมาให้เธอ

“ว่าไงครับตัวแสบ พร้อมเจอพี่หรือยัง”

“พร้อมสุดๆเลยค่ะ พี่เฟรมอยู่ไหนคะ”

“กำลังไปบ้านเรานั่นล่ะ อีกประมาณชั่วโมงน่าจะถึง”

“งั้นพี่น่าจะถึงก่อนข้าวนะคะเนี่ย ข้าวเพิ่งออกจากสนามบินเองค่ะ”

“งั้นเจอกันที่บ้านเลยนะ พี่ขับรถก่อน”

“รับทราบค่ะ ขับรถดีๆนะคะ” ฟางข้าวจบบทสนทนาด้วยรอยยิ้ม

หลังจากผ่านการเดินทางที่แสนจะน่าหงุดหงิด ทั้งรถติด ทั้งฝนตก ในที่สุดฟางข้าวก็กลับมาถึงบ้าน เธอรีบเข้าบ้านด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มของเธอก็ไม่สูญเปล่า หลังจากที่หญิงสาวเดินพ้นประตู ก็เห็นว่าพี่ชายของเธอกำลังยืนกางแขนรอเธออยู่ด้วยรอยยิ้ม ร่างบางโผเข้าไปกอดร่างสูงด้วยความคิดถึง ก่อนจะพากันเดินเข้าไปด้านใน

“พี่มาถึงนานหรือยังคะ” ฟางข้าวถามเขาหลังจากที่นั่งลงบนโซฟาเรียบร้อยแล้ว

“ถึงก่อนเราพักเดียวเอง เปียกฝนไหมเนี่ย” ชายหนุ่มถามเธอพลางลูบศีรษะทุยสวย สำรวจว่าหญิงสาวเปียกฝนหรือไม่

“ไม่เปียกค่ะ ข้าวจะเปียกฝนได้ยังไงล่ะคะ ข้าวอยู่บนรถนะคะ” หญิงสาวบอกเขาก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

“ก็เรามันตัวแสบ ชอบแอบหนีไปเล่นตากฝนเวลาฝนตก” เจ้าของร่างสูงแซวหญิงสาวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“พี่เฟรม เรื่องนี้มันเก่าแล้วค่ะ พี่แซวข้าวมาเป็น 10 ปีแล้วนะคะ” เธอแกล้งทำหน้ามุ่ยใส่ชายหนุ่ม เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะดึงแก้มเธอด้วยความมันเขี้ยว

“ไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ ข้าวหิวละ” เธอบอกเขาแล้วลุกขึ้น ดึงแขนเขาเดินเข้าห้องรับประทานอาหารไป

“เรื่องกินเรื่องใหญ่จริงนะเรา”

“พี่เฟรม…”

“พี่ล้อเล่นน่า ไปกินข้าวกัน” เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะดันหลังให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ หลังจากที่เขาขยับมันให้เธอ

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้เขาก่อนจะนั่งลง

ระหว่างทานอาหารมื้อเย็น ฟางข้าวพูดคุยกับพี่ชายของเธออย่างสนุกสนาน เธอไม่ได้มีเพื่อนทานอาหารมื้อเย็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว แทบจะทุกวันที่เธอกลับมาถึงบ้านก็ต้องทานมื้อเย็นคนเดียว เพราะมารดาของเธอกลับบ้านหลังจากเธอขึ้นห้องไปพักผ่อนแล้วเกือบทุกครั้ง

ปลายฝนยุ่งมากจนแทบจะเรียกได้ว่า ได้พบหน้ากันแค่ตอนเช้ากับวันที่เธอไม่มีเรียนเท่านั้น แต่ฟางข้าวไม่เคยโกรธมารดาเลย หญิงสาวเข้าใจว่าที่มารดาทำทุกอย่างก็เพื่อเธอ และเพื่อปากท้องของชีวิตอีกหลายชีวิต

วัชระเองก็มีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าตัวแสบของเขา เขาไม่ได้นัดเจอกับฟางข้าวหลายเดือน ตั้งแต่ที่ฟางข้าวขึ้นปี 4 เธอแทบไม่มีเวลาว่างเลย เขาจึงดีใจมาก ตอนที่อาของเขาโทรมาบอกให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนหญิงสาวที่บ้าน เพราะท่านไปทำงานครั้งนี้น่าจะไปนานกว่าทุกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel