บทที่ 1 ความรู้สึกที่รุนแรง (2)
D’Club
ดีคลับเป็นคลับหรูใจกลางกรุงขนาดใหญ่ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกคนมีอันจะกินเข้ามาใช้บริการ ด้านในมีการตกแต่งด้วยโทนสีดำ ห้องโล่งเน้นเพดานสูงให้ความรู้สึกโล่งสบาย เพิ่มสีสันด้วยแสงไฟหลากสี ภายในร้านแบ่งออกเป็นสองโซน ได้แก่ โซนหน้าเวทีสำหรับผู้ที่ชอบแดนซ์วาดลวดลายแบบสนุก ๆ ส่วนโซนที่สองมีไว้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแบบนั่งชิล ๆ โดยอยู่ที่ชั้นสองร้านโดยคนที่นั่งในโซนนี้ไม่ต้องกลัวเลยว่าเสียงเพลงจากด้านล่างจะดังรบกวนเพราะมีกระจกกั้นเก็บเสียงเป็นอย่างดี ได้นั่งฟังเพลงป๊อบจิบเครื่องดื่มเบา ๆ อย่างไร้กังวล อีกทั้งมีบาร์ค็อกเทลอยู่ด้านบนไว้ให้บริการเลย และสามารถมองเห็นเวทีรวมถึงผู้ที่มาใช้บริการด้านล่างได้อีกด้วย
สามหนุ่มหล่อหน้าใสเดาอายุได้ยากนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะด้านในสุดบนชั้นสองเป็นที่สนใจของสาวๆ เสียงซุบซิบพร้อมสายตาแสดงออกถึงความชื่นชมนั้นเปิดเผยเชิญชวน เชื่อได้ว่าหากกวักมือเรียกใครสาว ๆ คงไม่เกี่ยงงอนยกเว้นคนมีเจ้าของแล้ว
ใครบ้างไม่ชอบคนสวย ใครบ้างไม่ชอบคนหล่อ ถ้าใจตรงกันก็พร้อมที่จะสานสัมพันธ์ได้ทุกเมื่อแต่มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าการตกลงเป็นแบบไหนจริงจังหรือไม่จริงจัง สมัยนี้ไม่ใช่แค่ผู้ชายอย่างเดียวแล้วที่รักสนุกแต่ไม่คิดจะผูกพันธ์
“ไอ้ปริ๊นท์นี่เป็นจุดขายให้โต๊ะเราได้ดีจริง สาวๆนี่มองแล้วมองอีก” แทนไทพยักพเยิดให้มองดูรอบตัว ตั้งแต่มานี่มีเบอร์โทร ไอดีไลน์ฝากบริกรมาให้มันไม่ต่ำกว่าห้าหกคนแล้ว แต่ไม่มีเศษกระดาษแผ่นไหนเลยที่มันจะไม่ขยำทิ้ง
“ฉันก็เป็นจุดขายเหมือนกันนะเว้ยแทน และจะว่าไปสาวๆช่วงหัวค่ำก็แจ่มไม่แพ้ดึกๆเลยว่ะ หนุ่มวัยละอ่อนอย่างเราเลยพลอยคึกคักแต่หัววันเลย โอยช่างดีต่อใจฉันเหลือเกิน” เคนโด้เปรยขึ้นขณะกวาดสายตามองดูรอบๆตัว ปกติพวกเขาจะเข้ามานั่งที่นี่กันตอนดึก ๆ เพราะมันน่าสนใจกว่าตอนนี้เป็นไหน ๆ แต่ก็ต้องขอเปลี่ยนความคิดกะทันหันเมื่อได้เห็นสาวสวยมากหน้าหลายตาทยอยกันเดินขึ้นมายังชั้นสองที่เขาและเพื่อนๆนั่งกันอยู่
“ไม่ได้มองฉันคนเดียวหรอกแทนแกก็น่าจะรู้ดี ไอ้เคนโด้มันยังรู้ตัวเลยว่าสาวมองมัน แกชอบถ่อมตัวจนน่าหมั่นไส้” ไอ้นี่มันชอบคิดว่าตัวเองธรรมดาไม่ดึงดูดสายตาแต่ความจริงมันหล่อมากต่างหาก เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันพร้อมๆกันทั้งสามคนมักจะเป็นจุดสนใจให้กับคนรอบข้างเสมอ ทั้งที่ทำตัวปกติก็ยังไม่รอดพ้นจากสายตาและคำซุบซิบชื่นชมในรูปร่างหน้าตาจนชาชิน
“เออช่างเหอะน่า ฉันไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ว่าใครจะมองหรือไม่มองไม่เหมือนไอ้หื่นเคนโด้มัน อีกเดี๋ยวก็คงมีคนมาตกหลุมมันแน่เชื่อเหอะ มันไม่ปล่อยให้ข้างกายปราศจากสาวสวยหุ่นดีได้นานหรอกลองมองขนาดนี้แล้ว” เคนโด้มันเจ้าชู้ลื่นยิ่งกว่าปลาไหลแต่ไม่จริงจังกับใคร มันชอบพูดว่าเป็นช่วงเวลาที่ต้องเรียนรู้ประสบการณ์ช่วงวัยรุ่นเนี่ยแหละเหมาะเหม็ง โสดไม่มีแฟนจะทำอะไรก็ได้แต่ต้องป้องกันและกฎคือไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของ
“โธ่! ฉันแค่สำรวจประชากรผู้หญิงรอบตัวก็เท่านั้นแกอย่าเรียกว่าหื่นสิวะแทน อีกอย่างฉันยังไม่ได้ไปลวนลามใครสักหน่อย ดังนั้นฉันยังห่างไกลจากคำนั้นอยู่โอเค้” ผู้ชายมีตาไว้มองผู้หญิงมันไม่แปลกหรอกถ้ามองเพศเดียวกันนี่สิน่าขนลุกตายชัก
ปริญส่ายหน้ายิ้ม ๆ ผู้ชายทุกคนร้อยทั้งร้อยชอบมองรูปร่างหน้าตาของเพศตรงข้ามอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมองในลักษณะไหน บางคนมองด้วยความชื่นชมโดยที่ไม่ได้คิดอะไร อยากได้ หรือว่าอยากครอบครองทั้งตัวทั้งใจ แล้วพลันความคิดก็นึกถึงใครบางขึ้นมา
“เจ๊หมวยนี่หว่า” แทนไทพึมพำกับตัวเองเมื่อมองลงไปยังชั้นล่าง แล้วบังเอิญเห็นหญิงสาวรูปร่างเล็กหน้าตาออกแนวสาวหมวยตามชื่อของเธอเอง
“จุดใต้ตำตอใช้คำนี้ได้ไหมนะ” มุมปากยกยิ้ม พลางยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก ชำเลืองมองไปยังทิศทางที่เธอคนนั้นนั่งอยู่เป็นระยะ เขามองตามสายตาของแทนไทที่ได้ยินมันพึมพำถึงญาติ แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
“เดี๋ยวกลับมานะเว้ยฉันขอตัวไปทักเจ๊หมวยกับเพื่อนเขาก่อน” แทนไทบอกเพื่อนก่อนจะลุกออกไปโดยไม่มีใครคัดค้าน เพราะต่างคนต่างกำลังจดจ่อกับสิ่งที่ตนเองสนใจด้วยกันทั้งคู่
เคนโด้นั้นกำลังส่งสายตาอ่อนเชื่อมกับสาวทรงโตที่นั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามส่วนปริญก็ทำทีว่าไม่สนใจอะไรแต่แท้จริงแล้วเขากำลังลอบมองเจ้าของร้านดอกไม้คนสวยที่แทนไทเดินไปคุยด้วยอยู่ต่างหาก ผู้หญิงบางคนถึงกับคิดว่าเขามองตัวเองเลยชูแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วขยิบตาให้อย่างยั่วยวน