บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 เรดาร์สแกนเกย์

แม้การยกเลิกงานแต่งงานจะผ่านมาเดือนกว่าๆ แล้ว และตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาปราณปริยาก็เดินทางขึ้นเหนือไปพักใจตามคำแนะนำของคนในครอบครัว แต่เวลาแค่นั้นก็ไม่ได้ทำให้จิตใจบอบช้ำของเธอดีขึ้น เพียงแต่สงบเล็กน้อย ขณะที่หญิงสาวยังคงมีอาการซึมเศร้าให้เห็น แต่ก็ดีกว่าตอนแรกเยอะ ดารินทร์เลยเพิ่งบอกข่าวเรื่องที่ตนตกลงจะแต่งงานกับแฟนหนุ่ม ที่เจอกันตอนพาปราณปริยาไปพักผ่อนและรักษาแผลใจที่เชียงใหม่

ตอนแรกปราณปริยาเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเพื่อนรัก เพราะทั้งคู่เพิ่งคบกันได้แค่เดือนเดียว เรียกได้ว่าสั้นๆ สุด ขนาดเธอกับอดีตแฟนคบกันมาตั้งห้าปียังพลาดเพราะไม่รู้จักตัวตนจริงๆ ของชายหนุ่มเลย แล้วนับประสาอะไรกับเวลาเพียงแค่เดือนเดียว แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลและมุมมองความรักอีกด้านของดารินทร์แล้ว ก็ทำให้เธอต้องยอมรับว่าบางครั้งระยะเวลาก็ไม่ได้สำคัญสำหรับความรัก ในที่สุดเธอก็ไม่ได้คัดค้าน แถมยังรับปากจะเป็นทั้งเพื่อนเจ้าสาวและที่ปรึกษาเรื่องเตรียมงานในครั้งนี้อีกด้วย

วันนี้จึงจบด้วยการชวนกันออกไปชอปปิง กินข้าว ดูหนัง แล้วตบท้ายด้วยการหาที่ฟังเพลง

นานแล้วที่ทั้งคู่ไม่ได้มาเปิดหูเปิดตาหาความสนุกในช่วงค่ำด้วยกัน ล่าสุดคงจะเป็นช่วงที่ปราณปริยาประกาศว่าจะแต่งงาน หลังจากนั้นก็ไม่ได้เที่ยวกลางคืนจนกระทั่งคืนนี้ที่ทั้งสองคนสนุกสุดเหวี่ยงกันสุดๆ โดยที่ดารินทร์ขออนุญาตว่าที่เจ้าบ่าวเรียบร้อยแล้ว

เวลาล่วงเลยมาจนเที่ยงคืน ปราณปริยาเมาที่สุดเท่าที่เคยดื่มมา ขณะที่ดารินทร์ก็ไม่ห้ามเพื่อนที่เมาหัวราน้ำ เธอคิดว่านี่เป็นวิธีปลดปล่อยความทุกข์หรือความเศร้าอย่างหนึ่ง เธอจึงเลือกที่จะดื่มน้อยมากเพื่อคอยดูแลและพาปราณปริยากลับบ้าน

“เดินดีๆ สิแก” ดารินทร์บ่นพลางพยุงร่างของปราณปริยาซึ่งเดินเซซ้ายเซขวาเพราะเมาแอ๋ จนเธอเองที่ไม่เมาก็พานจะเดินไม่ตรงทางไปด้วย

“ฉ้านเกลียด...มาหลอกฉ้านทำมาย...เกลียด! เกลียด! เกลียด! ไอ้พวกเกย์บ้า ไอ้เลวเอ๊ย ไปลงนรกซะ ไป้!” พอน้ำเมาเข้าปาก สติสัมปชัญญะและการควบคุมอารมณ์ที่เคยมีก็แทบจะไม่เหลือ ทั้งคำพูดและการแสดงออกที่อดกลั้นไว้ก็ถูกปล่อยออกมา

“เฮ้ย! ยายป่าน” ดารินทร์อุทานเสียงหลง เมื่อคนเมาขว้างกระเป๋าถือออกไปข้างหน้าสุดแรง แล้วก็ดันแม่นจนน่าตกใจ

“โอ๊ย!! อะไรวะ” เสียงร้องของหนึ่งในสองหนุ่มที่เดินห่างจากหญิงสาวทั้งคู่ออกไปพอควร พร้อมกับมองหาอะไรบางอย่างที่กระแทกเข้าที่ศีรษะของเขาจังๆ อย่างหัวเสีย

“ซวยแล้วไหมล่ะแก อยู่ตรงนี้นะ” ดารินทร์สั่งและพยายามจับเพื่อนให้ยืนอยู่กับที่ ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปหาสองหนุ่มที่หยิบกระเป๋าต้นเหตุมาถือไว้ และสายตาของทั้งคู่ก็กำลังมองมาที่เธอ

“ของคุณเหรอ” หนุ่มหน้าหวานที่แม้จะทำหน้าบูดบึ้งแต่ก็ยังสวยถามเธอเสียงเข้ม

“ขอโทษนะคะ พอดีเพื่อนฉันเมามากไปหน่อย” ดารินทร์ขอโทษขอโพยพลางก้มศีรษะให้สองหนุ่ม และก่อนที่เธอจะได้กระเป๋าจากหนุ่มหน้าสวยที่ยื่นให้ ปราณปริยาซึ่งเดินโซซัดโซเซตามหลังมา ก็เดินมาเบียดและยืนโงนเงนเอียงคอมองหน้าอีกฝ่ายอย่างพิจารณา

“ยายป่าน!”

“ใครว้า...คนรู้จักแกเหรอออ” ปราณปริยาเอี้ยวตัวกลับมาถามดารินทร์ที่ยืนประคองเธอด้วยเสียงยานคาง

“คนที่แกขว้างกระเป๋าโดนเขาต่างหากล่ะ”

“กระเป๋าฉ้านนี่นา...ไปอยู่กับคุณด้ายงาย...” คนเมาที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป พยายามจะคว้ากระเป๋าถือของตัวเองคืนมาอย่างเอาเรื่อง แต่กลับถูกอีกฝ่ายดึงกลับ ไม่ยอมคืนให้เธอเสียอย่างนั้น พีรณัฐที่ยืนดูสงครามแย่งกระเป๋าอยู่ครู่หนึ่งเลยต้องเป็นฝ่ายแย่งกระเป๋าจากน้องชายไปยื่นให้เจ้าของเสียเอง

“นี่ครับ ให้ผมช่วยไหมครับ” ตอนท้ายชายหนุ่มหันไปถามดารินทร์ พร้อมกับส่งรอยยิ้มโปรยเสน่ห์อย่างที่ชอบทำเวลาเจอสาวสวย

“ไม่เป็นไรค่ะ” ดารินทร์ที่ค่อนข้างระมัดระวังเรื่องคนแปลกหน้ารีบปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะจัดการเพื่อนรักไหวไหม

“ช่าย...กลับไปหาแฟนคุณเถอะ ดูสิ ยืน....มองพวกฉันตาเขียวเชียว ปาย...เถอะ ฉ้าน....ไม่อยากยุ่งกับพวกคู่เกย์ให้ช้ำจาย”

“ยายป่าน!” ดารินทร์ปรามเพื่อนเสียงเขียว ก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆ ให้คู่เกย์ พวกเขาดูเหมือนคู่เกย์แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะหนุ่มหน้าสวยดูจะร้อนตัว แต่หนุ่มหน้าตาหล่อกลับยืนอึ้งแล้วหัวเราะชอบใจ

“ใครคู่เกย์? เมาแล้วอย่าพูดมั่วๆ สิคุณ”

“มั่วที่หนาย...หน้าอย่างนี้ ท่าทางอย่างนี้...เกย์ชัดๆ” ปราณปริยาผู้มีประสบการณ์โดนเกย์หลอกยังยืนยันด้วยเสียงอ้อแอ้

“ยายป่าน!” เธอเรียกเพื่อนเสียงดัง แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มทั้งคู่

“ฉันต้องขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะ คือเธอเมามากไปหน่อย”

“เมาที่หนาย...ฉ้าน...พูดเรื่องจริง”

“นี่เธอ” สรัลเหลืออดเลยเดินเข้าไปจะกระชากแขนผู้หญิงที่นอกจากจะเป็นขี้เมาแล้วยังปากเสียอีกต่างหาก แต่พีรณัฐก็รีบดึงแขนน้องชายคนเล็กไว้

“เฮ้ย! ใจเย็นๆ สิวะ”

“ขอโทษอีกครั้งและขอตัวเลยนะคะ” ดารินทร์ก้มศีรษะขอบคุณพีรณัฐเล็กน้อย แล้วรีบขอตัวกลับก่อนที่เพื่อนจะก่อเรื่องมากมากไปกว่านี้

“ไปกันเถอะ ทางนี้ๆ”

สรัลยืนเท้าสะเอวมองตามสองสาวที่เดินประคองกันไปที่รถอย่างทุลักทุเลแล้วสบถอย่างหัวเสีย ทั้งที่น่าจะได้ยินเรื่องทำนองนี้จนชินชาไปแล้ว ทว่าทำไมต้องเป็นวันนี้...วันที่คิดจะมาหาความสนุกยามราตรี ทั้งที่มากับพี่ชายและกะจะหาหญิงสักคน แต่กลับถูกพวกเก้งกว้างตามราวีตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าผับยันกลับเลย แล้วผู้หญิงที่ไหนจะกล้าเข้ามาหา ส่วนพี่ชายที่ตั้งใจจะให้เป็นไม้กันหมาก็ไม่ทำอะไรเลย นอกจากนั่งอมยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง

“ยายขี้เมานั่น มันน่านัก”

“เถอะน่า จะอารมณ์เสียไปทำไมวะ ทำอย่างกับไม่เคยโดนว่าอย่างนั้นแหละ ไปๆ ขึ้นรถ ฉันเองก็มึนๆ เหมือนกัน” พีรณัฐปลอบน้องชายด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ พลางตบบ่าแรงๆ ก่อนจะเดินนำไปที่รถ

เมื่อเดินไปไม่กี่ก้าวทั้งสองก็ได้ยินเสียงร้องจากหญิงสาวที่เจอกันเมื่อครู่ดังขึ้น คนเมาน่าจะก่อเรื่องอีกแล้ว พีรณัฐจึงรีบวิ่งนำไปก่อน ส่วนสรัลได้แต่ถอนหายใจพลางส่ายหน้าอย่างรำคาญ แล้วเดินตามไปทีหลัง

“ว้าย! ยายป่าน แกจะมานั่งตรงนี้ไม่ได้นะ”

“ง่วงนอน” ปราณปริยาบอกและทรุดตัวลงนั่งกับพื้น แล้วเอนตัวพิงรถใครก็ไม่รู้หน้าตาเฉย ด้วยรูปร่างที่ไม่ต่างกันและอีกฝ่ายก็ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ว่าดารินทร์จะทั้งฉุดทั้งดึงคนที่บอกว่าง่วงอย่างไรก็ไม่ขยับ

“นอนไม่ได้ ยายบ้า ลุกเดี๋ยวนี้ จะถึงรถแล้วแก ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ โอ๊ย! ฉันอยากจะบ้าตาย รู้อย่างนี้ชวนคุณเวธน์มาด้วยก็ดี” ดารินทร์บ่นอุบพลางเกาศีรษะอย่างจนปัญญา

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณ”

“พวกคุณนั่นเอง ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่คนเมาเกเรนิดหน่อย”

“ผมช่วยไหมครับ” พีรณัฐอาสาด้วยความหวังดี ที่จริงเขาก็หวังดีกับสาวสวยทุกคนนั่นแหละ

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคิดว่าน่าจะพาเพื่อนไปที่รถได้” ดารินทร์ยังไม่อยากยอมรับความช่วยเหลือ ทั้งที่ตัวเองก็จนปัญญาจนต้องยืนกุมขมับ ก็คนสมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหน ยิ่งเจอกันในสถานบันเทิงอย่างนี้ด้วย

“ไม่ไหวมั้งคุณ ดูเพื่อนคุณสิ จะนอนกอดล้อรถอยู่แล้ว” หนุ่มหน้าสวยสะกิดบอกเธอด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญอย่างปิดไม่มิด แต่นั่นก็ไม่ทำให้ดารินทร์ไว้ใจ เธอยังลองเข้าไปทั้งดึงและฉุดเพื่อน ปราณปริยาซึ่งหลับตาพริ้มก็เริ่มจะไถลตัวลงไปนอนกอดล้อรถอย่างที่ชายหนุ่มบอกจริงๆ

“ยายป่าน! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ โอ๊ย!”

“ผมช่วยดีกว่านะครับ” พีรณัฐอาสาอีกครั้ง

“แต่ว่า...”

ก่อนที่ดารินทร์จะปฏิเสธน้ำใจของเขาเป็นครั้งที่สาม สรัลที่เริ่มจะทนรำคาญไม่ไหวจึงเดินแทรกเข้าไปหาปราณปริยา พร้อมกับถอดเสื้อนอกไปคลุมตั้งแต่ช่วงเอวของหญิงสาวไว้ เมื่อคนเมาเริ่มยกแข้งยกขาขยับไปมาคล้ายกับไม่สบายตัวจนกระโปรงเปิดเผยให้เห็นเรียวขาสวย

“พวกผมไว้ใจได้น่าคุณ ไม่เคยพิศวาสผู้หญิงขี้เมา ว่าแต่รถคุณอยู่ไหน”

“ทางนี้ค่ะ” ดารินทร์หน้าเจื่อนเล็กน้อยที่โดนชายหน้าสวยซึ่งอุ้มเพื่อนของเธอต่อว่า เธอเดินนำไปที่รถแล้วรีบกุลีกุจอเปิดประตูให้เขาวางปราณปริยาที่เบาะ

“ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ถ้าไม่ได้คุณทั้งสองคนฉันกับเพื่อนคงแย่” คราวนี้ดารินทร์ถึงกับยกมือไหว้หนุ่มทั้งสองเลยทีเดียว และพีรณัฐก็ไม่รอช้าที่จะออกหน้า

“ยินดีรับใช้ครับ”

“เอ่อ...ขอโทษพวกคุณด้วยที่ระแวง และที่เพื่อนของฉันพูดอะไรแปลกๆ ออกไป”

“นั่นยิ่งไม่เป็นไรใหญ่ ชินแล้วครับ เอ่อ...ว่าแต่เรายังไม่รู้จักกันเลย ผม...” แนะนำตัวยังไม่ทันจบ พีรณัฐก็โดนน้องชายสกัดดาวรุ่งเสียแล้ว

“พี่ณัฐ กลับกันได้แล้ว” เขาบอกพี่ชายก่อนจะหันไปเอ่ยกับหญิงสาว “คุณไปดูแลเพื่อนของคุณเถอะ อย่ามาสนใจผู้ชายขี้หลีเลย”

“ขอบคุณอีกครั้ง แล้วก็ขอตัวนะคะ”

“แล้วพบกันครับ” บอกลาแทบไม่จบ สรัลก็ลากพี่ชายกลับไปที่รถ

“ไปได้แล้ว”

“อะไรวะ ชอบขัดคอจริง” พีรณัฐสะบัดแขนออกจากมือน้องชาย พร้อมกับสบถด้วยความหงุดหงิดที่โดนขัดจังหวะจีบหญิงครั้งแล้วครั้งเล่า

“พี่ไม่เห็นหรือไงว่าผู้หญิงเขาลำบากใจ จะไปทู่ซี้เพื่อ”

“เพื่อสานสัมพันธ์ จากนั้นก็ยังงี้ๆ ไงตัวเอง” เพราะต้องการแก้แค้น พีรณัฐจึงหยอกล้อน้องชายด้วยการโอบแล้วซบลงที่ไหล่ พลางซุกไซ้ราวกับคู่รักที่กำลังหยอกล้องอนง้อกัน

“ไปไกลๆ เลย อย่ามากวนโอ๊ย คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ เอ้ากุญแจ ขับรถด้วย” สรัลผลักร่างสูงของพี่ชายให้ออกไปไกลๆ แล้วโยนกุญแจรถพร้อมกับยกหน้าที่พลขับให้พี่ชายเป็นการลงโทษที่เล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา

“นี่พี่ชายนะโว้ย ไม่ใช่คนขับรถ ใช้จัง”

ดารินทร์เอี้ยวตัวกลับไปมองสองหนุ่มที่เธอคิดว่าคงกำลังง้องอนกัน และสาเหตุคงมาจากพวกเธอ ก็คนรักดูขี้หลีขนาดนั้น สงสัยเป็นพวกเสือไบ...หญิงก็ได้ชายก็ดี

‘ที่หนุ่มหน้าสวยมาแย่งอุ้มปราณปริยามาส่งที่รถก็คงเพราะหึงสินะ’

“ถึงจะเมาแต่จากประสบการณ์ตรงของแก มันเชื่อได้จริงๆ นะยายป่าน งอนง้อกอดซบกันขนาดนั้น ไม่ใช่คู่รักแล้วจะเป็นอะไรล่ะ น่าเสียดาย ท่าทางตอนที่อุ้มแกมาส่งที่รถเมื่อกี้นี้แมนมากๆ เสียดายของจริงๆ ดีนะที่ฉันคว้าผู้ชายแท้ๆ มาอยู่ในมือได้ บุญของฉันจริงๆ”

ดารินทร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกในความโชคดีของตน เธอขึ้นรถแล้วปิดประตู จากนั้นก็ไปขยับตัวเพื่อนรักที่ครางฮือๆ พลางแกว่งมือไปมาด้วยความรำคาญให้อยู่ในท่าที่คิดว่าสบาย แล้วจึงคาดเข็มขัดนิรภัยให้ทั้งปราณปริยาและตัวเอง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้เวลาพาคนขี้เมากลับบ้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel