ตอนที่ 9 เลี่ยงไม่ได้
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามายังฟูกนอนเก่าๆ ขนาดสามฟุตครึ่ง ปรากฎภาพชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำลังนอนหลับใหลอย่างมีความสุข เสียงดังแจวๆ จากข้างนอกปลุกให้เขาลืมตาขึ้น
"อื้ออ~ บ้าชิบ ทำไมปวดหัวแบบนี้วะ!"
ร่างสูงก้มมองนาฬิกาเรือนหรูในข้อมือบอกเวลาสิบโมงกว่าๆ สิงห์ตกใจเพราะปกติไม่เคยนอนตื่นสายขนาดนี้ ดวงตาคมตวัดมองรอบๆห้องแสนเก่าสภาพทรุดโทรมแต่สะอาดเรียบร้อย ก่อนที่ความทรงจำทุกอย่างจะหลั่งไหลเข้ามา
เมื่อคืนเขาออกไปดื่มกับเพื่อนจนเมา หลังจากนั้นก็เดินมาหาดารินที่บ้านและเกิดเหตุการณ์คล้ายความฝัน เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้สิงห์ค่อยๆเอื้อมมือไปคลำศีรษะเพราะรู้สึกเจ็บแปร๊บ ปรากฏว่ามีผ้าก็อทพันแผลติดอยู่ เมื่อคืนเขาจะเมามากก็จริงแต่ก็พอจะจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
"เธอกล้าดียังไงมาทำหัวฉันแตก!"
ร่างสูงดีดตัวลุกขึ้นยืนอาศัยช่วงที่เจ้าของห้องไม่อยู่เดินสำรวจรอบๆห้อง หัวเตียงมีรูปคู่ของดารินกับแม่ตั้งอยู่ มือหนาเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมาดูแล้วจ้องไปที่รูปของผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ทำลายความสุขของเขาทำให้ชีวิตไม่เหลือใคร ข้างๆ กันมีเด็กหญิงรูปร่างอ้วนท้วมถักผมเปียยืนส่งยิ้มให้กล้อง สิงห์กำหมัดแน่น ขว้างรูปนั้นทิ้งลงบนที่นอนอย่างไม่ใยดี แล้วเดินสำรวจห้องต่อ แม้จะเป็นห้องเก่าๆ ที่ไม่ได้กว้างมาก แต่ดารินก็จัดห้องได้น่าอยู่เลยทีเดียว
เท้าหนาก้าวไปหยุดหน้าตู้เสื้อผ้า มองซ้ายมองขวาแล้วเปิดดู ข้างในมีเสื้อผ้าเก่าๆ แค่ไม่กี่ชุด ไล่ดูจนกระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นชุดชั้นในห้อยอยู่ พลันก็ทำให้คิดถึงเรื่องเมื่อคืน ชายหนุ่มรีบสะบัดหัวไล่ความคิดทิ้งก่อนจะกลายเป็นโรคจิตไปมากกว่านี้
“บ้าชิบ!!”
สิงห์พยายามควบคุมสติที่กำลังเตลิดเปิดเปิงเพราะภาพที่เขากำลังดูดหน้าอกดารินลอยแวบเข้ามา เขารีบก้าวเท้าออกจากบ้านหลังนี้ก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้าแล้วเอาไปนินทาว่าเขาแอบย่องมาหาดาริน
คอยดูนะถ้ามีโอกาสจะคิดทั้งต้นทั้งดอกให้ดู โทษฐานตีเจ้าของบ้านจนหัวแตก!!
…หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปดารินกับสิงห์ก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลยเพราะเธอตั้งใจหลบหน้า และเขาก็ไม่ได้มาที่เรือนเล็กอีกเลยตั้งแต่วันนั้น..วันที่เขาขโมยจูบแรกของเธอไปแล้วเกือบจะเป็นผู้ชายคนแรกของเธอด้วย
ช่วงนี้งานค่อนข้างหนัก บางวันดารินแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำเพราะต้องนั่งปั่นงานจนถึงเช้า แต่นั่นมันก็เพื่ออนาคต เพราะในอีกไม่ช้าเธอก็จะไปจากที่นี่แล้วแม้ใจจะอยากอยู่เต็มทนก็ตาม คุณผู้ชายยกบ้านหลังนี้ให้เธอก็จริงแต่ก็ใช่ว่าจะอยากได้มัน เพราะไม่อยากได้ของของใคร เป็นแค่บ้านหลังเก่าๆที่ไม่ได้ดูสวยงามอะไรแต่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับดาริน เพราะทุกมุมของบ้านยังเห็นภาพแม่ซ้อนทับอยู่เลย คิดไม่ออกเหมือนกันหากวันหนึ่งต้องออกไปใช้ชีวิตคนเดียวบนโลกภายนอก...จะเป็นยังไงนะ
เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนนอกจากสายป่านเพื่อนสนิท ชีวิตของเธออาภัพนัก
"รินเอ้ยริน! อยู่มั้ย" เสียงป้าเนียมเรียกดังจากข้างนอกปลุกให้หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิด เธอนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไม่เป็นอันทำการทำงาน
"อยู่จ้ะป้า ป้ามีอะไรให้รินช่วยหรอจ้ะ"
"ป้าฝากยกกาแฟกับขนมไปให้คุณสิงห์เขาหน่อย ตอนนี้ป้าปวดท้องมาก เดี๋ยวคุณสิงห์รอนาน"
"ตะ..แต่คุณหญิง ห้ามไม่ให้รินไปที่เรือนใหญ่นะป้า"
"ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้คุณหญิงกลับคอนโดไปแล้ว" ป้าเนียมถือวิสาสะยัดถาดใส่มือของดารินที่ยืนเผลอ "เอาขึ้นไปเร็วๆ ตอนนี้ท้องป้าจู๊ดๆ จะไหลแล้ว!"
"เดี๋ยวก่อนสิป้า! ตอนนี้รินไม่ว่าง..ปะ..ป้า!!"
ดารินกระพริบตาปริบๆก้มลงมองถาดของว่างในมือ ป้าเนียมไปแล้วและทิ้งภาระอันใหญ่หลวงไว้ให้เธอ
"เฮ้อ~" ดารินถอนหายใจ
เธอไม่อยากไปเรือนใหญ่เพราะกลัวคุณหญิงรู้แล้วจะโดนทำโทษ ตอนแม่พึ่งเสีย เธอแอบไปเอารูปแม่ คุณหญิงรู้เข้าจับเธอขังในห้องมืดไม่ให้กินข้าวกินน้ำตั้งหนึ่งวัน หลังเปิดพินัยกรรมคุณหญิงก็สั่งห้ามไม่ให้เธอไปเหยียบเรือนใหญ่อีกเลยเพราะกลัวว่าเธอจะไปหุบสมบัติ
แต่ครั้งนี้เลี่ยงไม่ได้จริงๆ นอกจากคุณหญิงแล้วคุณสิงห์เองก็น่ากลัวไม่แพ้กัน ไม่รู้ว่าคืนนั้นเขาจำเหตุการณ์อะไรได้ไหม หรือถ้าจำได้เธอก็จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังว่าเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นเพราะแค่ป้องกันตัว เชื่อว่าหากมีสติเขาคงไม่อยากแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเธอแน่นอน