ตอนที่ 6 ฉันให้โอกาสเธอแล้วนะ
“เมื่อเช้าฉันเห็นนะว่าเธอมากับใคร” สายป่านเพื่อนสนิทของดารินพูดอย่างยิ้มๆ ทำให้อีกคนเผลอหลุดจากภวังค์ความคิด
“ระ..รถเจ้านายของฉันน่ะ” ดารินยิ้มแห้งๆ
“แหม๋ๆ เพื่อนฉันนี่วาสนาดีจังได้นั่งรถสปอร์ตด้วย ว่างๆ ชวนฉันไปนั่งด้วยสิ”
“มะ..ไม่ดีมั้ง..เอ่อ..เจ้านายฉันค่อนข้างดุน่ะ”
“แล้วหล่อมั้ย?”
กึก~
คนโดนถามถึงกับสะอึก
“ละ..หล่อ”
“ทำไมไม่จีบเจ้านายตัวเองเลยล่ะ ได้ผัวรวย บางทีอาจไม่ต้องทำงานงกๆแบบนี้ก็ได้”
“เขาไม่มีทางชอบฉันหรอก” ดารินยิ้มเศร้าๆ นอกจากไม่ชอบแล้วเขายังเกลียดขี้หน้าเธอเอามากๆ
ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง..เธอมีใจให้เขา ในขณะที่เขาเกลียดเธอเข้าไส้
“สวยขนาดนี้ สงสัยเจ้านายของเธอไม่มีตา"
“ต่อให้มีตา เขาก็ไม่ชายตามามองฉันหรอก เจ้านายของฉันน่ะ..เขาอยู่สูงเกินไป”
ดารินเข้าใจและเจียมสังขารตัวเองมาตลอด เธอไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะแอบรักเขาด้วยซ้ำ เพราะเขาสูงส่งคืนไป ในขณะที่เธอเป็นแค่ลูกสาวของคนรับใช้ เป็นแค่ฝากของคฤหาสน์ที่ไม่มีใครอยากให้เธออยู่
“ด้อยค่าตัวเองแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟนซักที ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ฉันยังไม่เคยเห็นเธอมีแฟนเลยนะ ทั้งๆที่ผู้ชายตามจีบไม่เว้นวัน”
ใช่..เธอยังไม่มีแฟนและไม่เคยมีแฟน
ไม่ใช่ไม่อยากมี แต่ดารินยังไม่สามารถเปิดรับใครเข้ามาได้ เพราะใจยังผูกอยู่กับผู้ชายคนนั้น คนที่จากไปนานถึงสิบสองปี อาจจะดูโง่งมงาย แต่เป็นเพราะเธอเองมีใจให้เขาตั้งแต่แรกเจอ แม้ตอนนั้นยังเด็ก แต่เธอก็พอรู้ว่าความชอบพอต่อเพศตรงข้ามมันเป็นยังไง
'พี่สิงห์~ น้องรินเอาขนมมาให้' เด็กหญิงตัวป้อมยื่นขนมลูกชุปให้เด็กชายหน้าบึ้งที่กำลังนั่งวาดรูปอยู่ริมสระน้ำ
'ขอบใจนะ' เขารับไว้อย่างง่ายดาย เด็กหญิงยิ้มอย่างดีใจ แต่ซักพักใบหน้าก็แปรเปลี่ยนไป เมื่อเขานำขนมที่เธอให้เทลงบนพื้นแล้วเหยียบจนมันเลอะเต็มรองเท้า
'ฉันไม่กินของสกปรกจากเธอ! ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!!'
เด็กหญิงเสียใจมาก กะจะผูกมิตรแต่เด็กชายแทบไม่อยากมองหน้าเธอด้วยซ้ำ แถมยังดุด่าด้วยคำหยาบคายต่างๆนานา จนเธอเป็นฝ่ายโดนแม่ห้ามไม่ให้มาเจอเขาอีก
“มหาลัยบ้านเธอปิดสี่ทุ่มหรอ กลับดึกเชียว” ยังไม่ทันเดินผ่านรั้วบ้าน เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากมุมมืด เป็นเสียงที่ดารินได้ยินทีไรมีอันต้องตื่นเต้นทุกที
“เปล่าค่ะ ระ..รินทำงานพาร์ทไทม์ก็เลยกลับดึก”
“อ้อหรอ ก็นึกว่าไปทำอย่างอื่นซะอีก” ชายหนุ่มปรายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน “ตามมานี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
ร่างสูงเดินนำไปยังห้องโถงขนาดใหญ่ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ดารินไม่ได้เข้ามาในตึกใหญ่เพราะคุณหญิงสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาเหยียบที่นี่ ทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมแต่ดูสะอาดตามากขึ้น ร่างสูงนั่งลงบนโซฟาหรู ในขณะที่ดารินเลือกนั่งพื้นเพราะรู้สถานะตัวเองดี
“ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้อง” ร่างเล็กเงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตสบเข้ากับดวงตาคมสีนิล
“เรื่องอะไรคะ”
“เท่าไหร่”
“คะ?”
“จะเอาเท่าไหร่ถึงจะไปจากที่นี่”
ร่างเล็กรีบก้มหน้างุดทันทีที่เจ้าของบ้านออกปากไล่ แต่เธอยังไม่มีที่ไป เงินเก็บก็มีเพียงน้อยนิดไม่พอค่าเช่าเลยด้วยซ้ำ
“รินขอเวลาได้ไหมคะ..ตะ..ตอนนี้ยังมีเงินเก็บไม่มาก อีกอย่างรินใกล้จะเรียนจบแล้ว ขอเวลาอีกนิดได้ไหมคะ..รินสัญญาว่าจะไปจากที่นี่ทันที”
“ก็ฉันกำลังจะให้เธอนี่ไง เอาไปตั้งตัวแล้วก็ไปจากที่นี่ซะ!” ร่างสูงยื่นคำขาด
“แต่รินไม่อยากได้เงินของคุณสิงห์ค่ะ”
“อะไรวะ! คงอยากได้มากกว่านั้นสินะ”
“...”
"สองล้านแลกกับการออกไปจากที่นี่ เอาไหม!”
ดารินยังคงเงียบ เพราะไม่อยากได้เงินจากเขาและยังไม่อยากไปจากที่นี่ เธอไม่เคยใช้ชีวิตในโลกภายนอก เธอกลัว..กลัวไปหมด แม้ที่นี่จะเป็นได้เพียงแค่กาฝากแต่อย่างน้อยก็ยังมีป้าเนียม ในขณะที่ข้างนอกไม่มีใครเลย..ไม่มีญาติ ไม่รู้จะเริ่มต้นใช้ชีวิตคนเดียวอย่างไรเพราะยังตั้งตัวไม่ทัน
“ไม่เอาหรอ? ถ้าอยากได้มากกว่านั้นฉันคงให้เธอไม่ได้หรอกนะ”
“รินไม่เคยออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอก รินอยู่ในนี้มาทั้งชีวิต..ระ..รินกลัวโลกภายนอกค่ะ รินดูข่าวทุกวันมันค่อนข้างอันตราย ข่าวฆ่าข่มขืนมีแทบทุกวัน” ดารินไม่เคยไปไหนเลย ขนาดรถมอเตอร์ไซค์ก็ยังขับไม่เป็น เรียนเสร็จไปทำงานพาร์ทไทม์แล้วกลับบ้าน
“ข้ออ้างมากกว่า”
“ไม่ใช่ข้ออ้างนะคะ รินพูดจริงๆ ขออีกเวลาอีกซักพักนะคะ เรียนจบเมื่อไหร่รินจะไปจากที่นี่ทันที” คนตัวเล็กอ้อนวอน
“ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว..ทำไมฉันต้องมาเลี้ยงลูกงูพิษอย่างเธอด้วย มาตัวเปล่าแต่กลับได้สมบัติติดไม้ติดมือไปด้วย แม่เธอนี่มันร้ายจริงๆ ไปทำอิท่าไหนพ่อฉันถึงยกเรือนเล็กให้!”
เพราะเรือนเล็กคือที่ที่ดารินกับแม่เคยอาศัยอยู่ด้วยกัน แม่ของเธอเป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์หลังนี้ เดิมทีแม่ขายพวงมาลัยตามสี่แยกไฟแดง ดารินต้องไปนั่งตากแดดตากลมขายพวงมาลัยช่วยแม่ตั้งแต่จำความได้ อยู่มาวันหนึ่งคฤหาสน์หลังใหญ่ประกาศรับแม่บ้าน แม่ของเธอจึงเข้ามาสมัคร คุณหญิงมณีเห็นหญิงสาวรูปร่างผอมบางอุ้มลูกสาวเดินตากแดดมาสมัครงานจึงเกิดความสงสาร รับเข้าทำงานแล้วให้ดารินกับแม่ย้ายไปอยู่เรือนเล็กหลังคฤหาสน์แทน เพราะลูกชายของเจ้าของบ้านไม่ค่อยชอบดาริน
“เงียบทำไม หรืออยากได้เรือนใหญ่?”
“เปล่านะคะ” หญิงสาวปฎิเสธทันควัน สมบัติของคนอื่นไม่ได้อยู่ในหัวสมองของเธอเลย “รินขอเวลาอีกนิดนะคะ”
ร่างเล็กยกมือขึ้นไหว้อ้อนวอน ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจเสยผมด้วยความหงุดหงิด ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป! จะเอาเงินให้ก็ไม่เอา!
“จะไม่ไปจริงๆ ใช่ไหม?”
“...”
“ฉันให้โอกาสเธอแล้วนะ”
“...”
“ถ้าเธอไม่รีบไปซะตั้งแต่ตอนนี้”
“...”
“เธอจะไม่มีโอกาสได้ออกไปจากที่นี่อีกเลย!!”