ตอนที่ 5 ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา
ก็อก~ก็อก~
“เข้ามาได้จ้า” เสียงของคุณหญิงกำลังนั่งชมความงามของเครื่องเพชรที่หลานชายสุดที่รักซื้อมาฝาก ชายหนุ่มหน้าคมเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงข้างๆผู้เป็นน้า
“ว่าไงจ๊ะหลานรัก น้ากำลังจะเก็บของกลับคอนโดพอดีเลย” คุณหญิงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน เพราะมีปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆกลุ่มไฮโซ
“ผมอยากถามเรื่องดารินครับ” พอได้ยินชื่อของดารินคุณหญิงถึงกับวางเครื่องเพชรลงพร้อมสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง "เมื่อช่วงสายผมไปเจอดารินมา ตอนแรกผมคิดว่าเธอจะไปจากที่นี่แล้วซะอีก”
“หึ! แม่นั่นน่ะหรอจะไปไหน นี่ถ้าไม่ติดว่าพินัยกรรมที่พ่อของหลานเขียนไว้ ป่านนี้น้าเฉดหัวมันทิ้งไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้อยู่รกหูรกตานานขนาดนี้หรอก!”
“ก็ปล่อยเธอไว้นั่นแหละครับ”
“หลานอย่าไปใจดีกับมัน! นังนั่นจะมาฮุบสมบัติของเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มันกับแม่ของมันร้ายจะตาย..ถ้าไม่มีแม่ลูกคู่นี้ ป่านนี้พวกเราคงอยู่กันอย่างมีความสุขไปนานแล้ว”
ร่างสูงขบกรามแน่น!
ใช่! สองแม่ลูกคู่นี้เป็นต้นเหตุทำให้พ่อกับแม่ของเขาจากไป ทำให้เขาต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น!
“แต่ก็อย่างว่าแหละ..ในพินัยกรรมเขียนไว้ขนาดซะนั้น แถมยังยกบ้านหลังเล็กให้มันอีก ดูสิ..เป็นแค่ลูกคนรับใช้ เข้ามามือเปล่าแต่กลับได้ของติดไม้ติดมือไป”
“...”
“มันนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้น้าไม่อยากอยู่ที่นี่ น้าไม่อยากเห็นหน้ามัน! เจอมันทีไรอารมณ์เสียตลอด!” คุณหญิงแก้ตัวเป็นต่าง ความจริงที่อยู่ไม่ได้เพราะไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ มีทั้งสายตาของป้าเนียมและคนรับใช้อีกหลายคน
และดูเหมือนว่าสิ่งที่คุณหญิงพูดไปจะได้ผล ความทรงจำอันแสนเลวร้ายทำให้สิงห์เปลี่ยนเป็นคนละคน จากเด็กร่าเริงแจ่มใส กลายเป็นเด็กเคร่งขรึมอารมณ์ร้ายภายในพริบตา หากไม่ใช่ฝีมือของดารินกับแม่...ชีวิตของเขาก็คงไม่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้
สองแม่ลูกพรากชีวิตพ่อกับแม่ของเขาไปตลอดกาล..และเขาก็จะพรากความสุขไปจากเธอตลอดกาลเช่นกัน!
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะทำให้แม่นั่นเจ็บจนทนไม่ได้แล้วกระเสือกกระสนไปจากที่นี่เอง!”
@เช้าวันถัดมา
ดารินกำลังนั่งรอรถประจำทางที่ป้ายรถเมย์ เหตุที่ไม่ได้ปั่นจักรยานไปเพราะใส่ทรงเอ แต่ทันใดนั้นก็มีรถสปอร์ตสีดำเงาคันหรูวิ่งเข้ามาจอดดักหน้า ทันทีที่คนข้างในลดกระจกลงหัวใจของดารินก็เต้นรัวสนั่น
“จะไปเรียนหรอ?”
“ค่ะ”
“ขึ้นรถ!”
“คะ?” ร่างเล็กทำหน้างง
“หูหนวกหรือไงฉันสั่งให้ขึ้นรถ นั่งบื้ออยู่ได้!” ชายหนุ่มสบถด่ากับท่าทางอันแสนใสซื่อของดาริน เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้ารำคาญดารินจึงเลี่ยงไม่ได้
“คาดเข็มขัดด้วย”
ความเงียบเข้าปกคลุม หญิงสาวแอบจิกเล็บเท้ากลัวใจกับอารมณ์ของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าวันนี้เขามาดีหรือมาร้าย
“คุณสิงห์รู้จักมหา’ลัยของรินด้วยหรอคะ”
“รู้! กำลังจะผ่านไปแถวนั้นพอดี”
ร่างสูงปรายตามองคนที่กำลังนั่งสั่นอยู่ข้างๆ ทันทีที่เห็นเครื่องแต่งกายของดาริน มุมปากหยักกระตุกยิ้มเยาะเย้ย ดูจากการแต่งตัวแล้ว แม่นี่คงร้ายไม่เบา!
“ใส่ทรงเอรัดติ้วขนาดนี้?”
“วันนี้มีกิจกรรมของคณะค่ะ"
“เสื้อนักศึกษาก็เหมือนกัน ถ้ามันตัวเล็กมากก็ไปซื้อใหม่ซะนะ กระดุมจะเด้งทะลุตาผู้ชายแล้วมั้ง”
ร่างเล็กรีบก้มสำรวจเรือนร่างของตัวเอง ยอมรับว่าเสื้อนักศึกษาค่อนข้างตัวเล็กเพราะหน้าอกของเธอใหญ่ และไม่ได้ซื้อใหม่ซักที อย่างเช่นเสื้อตัวนี้ก็ใส่มาตั้งแต่ตอนเข้าเรียนปีหนึ่งจนเสื้อหมอง ดารินคิดว่ามันไม่จำเป็นเพราะเธออยากเก็บเงินไว้เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังเรียนจบ อีกอย่างเงินเก็บของเธอก็ได้ร่อยหรอลงทุกทีเพราะเสียไปกับปัจจัยต่างๆที่ใช้ประกอบการเรียน
“ผู้ชายเขาชอบนักล่ะของที่มันหาได้ทั่วไปตามข้างถนน แต่งตัวยั่วมากๆ ระวังจะโดนฉุดไปข่มขืนล่ะ”
ดารินคร้านจะเถียง เพราะเถียงไปเขาก็ไม่ได้มองด้านดีของเธออยู่ดี
จนกระทั่งถึงหน้ามหาวิทยาลัย...ดารินกล่าวขอบคุณโดยไม่สบตา ใจหนึ่งก็อยากถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่กล้า เพราะดูจากสายตาแล้ว เขายังมีอคติต่อเธออยู่
"หึ!"
ชายหนุ่มมองตามร่างบางจนกระทั่งหายเข้าไปกับกลุ่มนักศึกษา เขานั่งเคาะนิ้วอยู่บนรถพักหนึ่งพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่างในใจ ต้องทำอย่างไรแม่นี่ถึงจะไปให้พ้นจากบ้านของเขา!