MyArchitect 3
"คุณณภัทร ไปไหน"
ไม่ต้องทายเลยว่าใครเอ่ยถามประโยคนี้ น้ำเสียงเรียบนิ่งในที สายตาคมจ้องที่คนมาใหม่ ใบหน้าไม่สื่ออารมณ์ใด ๆ พาคนทั้งห้องประชุมหุบยิ้ม แต่คนรู้ตัวรีบตอบ
"คุณณภัทรลาป่วยครับ วันนี้ผมเลยมาประชุมแทน"
เบยิ้ม น้ำเสียงตอบฉะฉาน
"ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ผมบรรณวิช์ครับ เรียกว่าเบ ก็ได้ครับ"
"คุณณภัทรเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ" นุชถามขึ้น
"ไข้หวัดธรรมดาครับ"
บทสนทนาที่ฟังดูการเอง ถูกตัดบท
"เสียเวลา" น้ำเสียงดุดังขึ้นอีกครั้ง ถามว่าเบใส่ใจมั้ย คำตอบคือ ไม่!
"เริ่มเลยนะครับ" เบถามย้ำอีกครั้ง เขาเองก็รีบไม่น้อย เพราะมีประชุมอีกที่ตอนบ่ายสองนี่นา ที่จริงก็ไม่อยากมาตอบคำถามที่ไม่เกี่ยวกับงานนักหรอก แต่การถามไถ่ถึงคนไม่มาก็เป็นเรื่องธรรมดา
"เริ่มเลย"
ศิวัชกล่าวเรียบ ๆ แต่หัวใจนั้นกลับเต้นระรัว แบบที่เจ้าตัวไม่เคยเป็นมานานแล้ว เขาละสายตาจากคนตัวขาวไม่ได้เลย แถมความกล้าพูดกล้าตอบนั่นอีก ผิดกับสถาปนิกอีกคนมาประชุมทีไรเหมือนมารบก็ไม่ปาน ดวงตาคู่คมมองเพียงผู้มาใหม่เท่านั้น จนเกือบลืมตัวว่าในห้องประชุมวันนี้มีอีกหลายคนเข้าประชุม และคงเป็นครั้งแรกที่เขาอยากให้การประชุมวันนี้ยาวไปจนหมดวัน!
ผู้นำประชุมเริ่มทวนสรุปการประชุมครั้งก่อน โดยมีใจความว่า ในการประชุมครั้งนี้ผู้ออกแบบต้องปรับแก้ขนาดและไทป์ของห้องพักของคอนโด ให้มีพื้นที่มากขึ้น และการจัดพื้นที่ในห้องให้เหมาะสมและลงตัวโดยคำนึงถึงทิศทางและวิวเป็นหลัก
"แบบแปลนที่ปรับแก้แล้วอยู่ตรงหน้าทุกคนนะครับ เชิญคุณเบ อธิบายต่อเลยครับ"
คุณวิชัย ที่ปรึกษาฝ่ายออกแบบและก่อสร้างกล่าวขึ้น
คนถูกเอ่ยถึงยิ้มน้อย ๆ ลุกขึ้นยืน หยิบแบบขนาด เอ 1 ขึ้นมากางตรงหน้า แล้วเริ่มอธิบายอย่างคล่องแคล่ว โดยเริ่มจากsite plan และอธิบายรายละเอียดของแต่ละtype อย่างละเอียด อ้างอิงจากแบบครั้งก่อนเทียบกับแบบล่าสุดวันนี้เพื่อให้ผู้ร่วมประชุมเห็นภาพ เห็นถึงการแก้ไขแบบ การกระทำแบบมืออาชีพ การพูดอธิบายที่ลื่นไหล ดูไม่เหมือนคนที่มาประชุมแทนเลยซักนิด ยิ่งทำให้สถาปนิก(ฝึกงาน)ดูมีเสน่ห์เข้าไปอีก โซ่มองคนตรงหน้าแบบไม่ละสายตา ให้ตายเถอะ ดึงดูดเขาเหลือเกิน!
"จบแล้วครับ มีคำถามมั้ยครับ"
เบพูดอย่างสุภาพ พร้อมกับนั่งลงรอตอบคำถามอย่างตั้งใจ
"ผมชอบแบบแก้ไขวันนี้นะ ผมว่าลงตัวแล้ว"
คุณวิชัยเอ่ยก่อน
"ดิฉันเห็นด้วยค่ะ เรื่องของงบประมาณยังไหวอยู่ค่ะ "
นุชผู้คุมงบประมาณของโปรเจกต์นี้เห็นด้วยกับคุณวิชัย
คงเพราะคนมาพรีเซนต์ด้วยนั่นแหละ งานดีอธิบายดี งานมักจะผ่านฉลุย
"ลงตัวเลยครับ ผมว่าเราแอ้ปพูฟได้แล้วนะครับ จะได้พัฒนาแบบต่อได้เลย"
"การจัดทิศทางรับลมและแสงธรรมชาติที่คอมเมนต์ให้ปรับปรุงคราวก่อน ก็แก้ไขมาโอเคแล้วครับ"
เสียงในที่ประชุมเป็นไปในทางเดียวกัน
คนมารับหน้าแทนยิ้มร่า งานที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่การนำเสนอนั้นก็เป็นส่วนสำคัญมากทีเดียว การอธิบายถึงวิธีการและแนวความคิดทั้งหมดให้เข้าใจได้ง่าย ก็จะทำให้งานผ่านได้ง่าย งานวันนี้กำลังจะผ่านไปด้วยดี
แต่ - มันคงไม่ง่ายแบบนั้น
"ผมขอปรับรูปแบบของห้องพักทั้งหมดใหม่ ทั้ง 5 type ผมว่า function ภายในห้องมันดูลวกๆ เหมือนจับยัดๆ ไม่ได้ใช้ความคิดอะไรมากขนาดนั้น"
ทุกคนในที่ประชุมหันไปตามเสียง ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้เลย คนนั่งขรึมอยู่หัวโต๊ะนั่นเอง แล้วไอ้การคอมเม้นต์แบบไม่ไว้หน้าใครนี่อีก ถึงคนในห้องประชุมจะชินกันหมดแล้ว แล้วก็ยิ้มหน้าเจื่อน... คงมีแต่เบที่ยังคงยิ้ม ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่คอมเม้นต์อยู่คือลูกค้า!
อันที่จริง...โซ่ไม่ได้สนใจเนื้อหาในการประชุมครั้งนี้ด้วยซ้ำ สายตานั้น...มองแต่คนนำที่เสนองาน จ้องจนแทบจะสิง เขาไม่ได้ฟังเลยซักนิดว่ารายละเอียดงานเป็นอย่างไร แต่เพราะเจ้าตัวดูแบบก่อนเข้าประชุมอยู่แล้ว อันที่จริง...มันก็ใช้ได้แล้วล่ะนะ
"ได้ครับ"
เบรีบตอบรับทันทีเพราะตอนนี้ใกล้บ่ายโมงแล้ว เจ้าตัวกลัวไปไม่ทันประชุมตอนบ่ายสอง ถึงปากจะอยากถามว่าต้องแก้ไขอะไรอีก แต่ด้วยความที่อยากให้การประชุมจบเร็วๆ จึงได้แต่รับคำ เพราะยังไงงานนี้ก็ของไอ้พี่นายอยู่แล้ว
"ผมขอดูแบบพรุ่งนี้ 9 โมงเช้า เจอกันที่ห้องทำงานผม วันนี้ปิดประชุม"
ไม่พูดเปล่าคนตัวสูงทำท่าจะลุกทันที
"พรุ่งนี้ 9 โมง หรือครับ" เบถามทันควัน
" ทำไม ทำไม่ทันหรือไง "
น้ำเสียงดูแคลนนิดๆ คิ้วหนาเลิกขึ้นเหมือนตั้งคำถาม
ทุกคนมองเขาอย่างแปลกใจ ถึงคุณศิวัชจะค่อนข้างดุและจริงจังกับงานแต่เขามีเหตุผลในการสั่งงานเสมอ แต่คราวนี้กลับไม่มีเหตุผลเอาซะดื้อๆ เจ้าตัวเองก็รู้ตัวเช่นกัน อยู่ๆเขาก็นึกอยากแกล้งคนตัวขาวที่ดูจะมั่นอกมั่นใจซะเหลือเกิน แล้วไอ้การนัดพบแขกในห้องทำงานส่วนตัวนั่นอีก....ไม่เคยมี!
ทุกคนในบริษัทรู้ดีว่า ชายหนุ่มชอบความเป็นส่วนตัว ใครอยู่ในห้องทำงานเขาได้เกิน 5 นาที ถือว่าเก่งมากแล้ว
"ไม่ทันครับ"
เบตอบแบบสุภาพที่สุด
คนทั้งห้องอึ้งที่มีคนกล้าขัดคำสั่งคุณศิวัช คำตอบธรรมดาๆนั้นกลับทำให้ผู้ร่วมประชุมหายใจไม่ทั่วท้อง และแน่นนอนว่าคนที่อึ้งกว่าคือศิวัชเอง คนผิวเข้มทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย คิ้วขมวดเข้าหากัน ไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่งเขา!
"ผมต้องการดูแบบวันพรุ่งนี้ "
ปากยังคงย้ำด้วยน้ำเสียงเข้ม ผิดกับหัวใจที่ตอนนี้อ่อนยวบ เพราะไม่คิดว่าจะเจอคนที่กล้าพูดออกมาตรง ๆด้วยท่าทางสบายๆทั้งยังคงยิ้มแย้ม กล้าตอบแบบไม่ได้สนใจว่าเขาเป็นใคร คำว่าส่งงานไม่ทัน ศิวัชไม่ได้ยินคำนี้มานานมากแล้ว ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้!
"ทำไมหรือ อย่าบอกนะว่า บริษัทจำกัดมหาชน ไม่มีความสามารถพอที่จะทำงานตามใจลูกค้า"
ชายหนุ่มย้ำขึ้นอีกครั้ง เพื่อเร่งให้คนตัวขาวตอบรับ
.... เงียบกันทั้งห้องประชุม ...
ถ้าเบเป็นแค่พนักงานในบริษัท หรือนักศึกษาฝึกงานทั่วไป เขาคงเฉยๆ หากแต่เบเป็นลูกเจ้าของบริษัท จะปล่อยให้บริษัทมาเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ได้!
"ได้ครับ 9 โมงตรงนะครับ"
เบเอ่ยพร้อมรอยยิ้มบาง
อีกอย่างเขาไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้ เลยรีบรับปาก 'ยังไงก็งานพี่นายนี่หว่า' และเพราะยังมีประชุมต่อ เบยิ้มให้ศิวัชอีกครั้ง ถึงเขาจะหน้าตึงแต่เขาก็เป็นลูกค้า พร้อมกับยิ้มให้ทุกคนในห้อง
"งั้นวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ" เบยกมื้อไหว้ทุกคนในห้อง
"กลับเลยหรือคะ" นุชถาม
เพราะปกติจะมีการคุยกันนอกรอบบ้างหรือไปกินกาแฟกันต่อบ้าง
"ครับ พอดีผมมีประชุมต่อครับ"
ชายหนุ่มตอบอย่างเป็นกันเอง พลางเก็บของส่วนตัวมาถือไว้ แล้วกล่าวลา
"วันนี้ขอบคุณมากนะครับ สวัสดีค้าบ"
ผู้ร่วมประชุมคนอื่น ๆ ทยอยออกจากห้องประชุมกันหมดแล้ว เหลือแค่ผู้บริหารหนุ่มผิวเข้ม ที่ยังคงนั่นอยู่ที่เดิม ตาคู่คมปิดลง มือทั้งสองกุมกันแน่น รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้าเข้ม....
ผิวขาว ใบหน้าหวาน น้ำเสียงน่าฟัง รูปร่างบาง ....นะ-น่ากอด!
เพียงแค่นึก...เจ้าตัวถึงกับต้องผ่อนลอมหายใจออกมา ดวงตาคมปิดลงช้า ๆ....
"น่ารัก"
คำ ๆนี้หลุดปากออกมา เขาเผลอเอาแต่ใจแบบไม่มีเหตุผล ใช้หน้าที่ในทางที่ผิด เพียงเพราะอยากเจอสถาปนิกคนนี้อีกครั้ง อย่างไวที่สุด นี่เขาเป็นอะไรไป !