เพราะมึงเป็นของกู |Ep.5|
"นี่ของปุณ เช้าไปโรงเรียนวันจันทร์ค่อยเอาไปให้" ศศินาหยิบกล่องนาฬิกาข้อมืออีกอันให้ลูกชาย แม้ไม่ปลื้มใจกับความรู้สึกของทั้งคู่เท่าไหร่นักแต่ศศินาก็เห็นปุณมาตั้งแต่เล็กๆ ยังมีความเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานอยู่บ้าง
"ทำไมต้องเป็นวันจันทร์ครับแม่?" ดวงตาคมรีเหลือบมองใบหน้ามารดาด้วยความไม่ไว้วางใจ ทั้งๆ ที่พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์ เขาสามารถไปหาปุณได้
ศศินาหยุดรื้อของแล้วถอนหายใจ ก่อนจะพาตัวเองขึ้นมาจากพื้นห้องโถงแล้วหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาข้างลูกชาย
"คุณโทมัสกับน้องสาวแกก็บินมากับแม่เมื่อวาน เขากลัวแกไม่สบายใจเลยไม่ได้กลับมาที่บ้านด้วยกัน แกก็โตแล้ว ถึงเวลาที่ต้องเปิดใจให้คุณโทมัสกับน้องสาวแกได้แล้ว"
"แม่จะให้ผมไปเรียนที่เยอรมันจริงๆ เหรอครับ ผมไม่อยากไป!..."
"แกต้องไปติณภพ! แกรู้ไหมว่าแม่ทุ่มทุนทุ่มแรงทุ่มสมองให้กับบริษัทคุณโทมัสแค่ไหน และแกก็ต้องไปบริหารต่อเพราะฉันจะไม่ยอมเสียบริษัทนี้ให้ใคร!"
"......"
"แม่รู้นะว่าแกคิดยังไงกับลูกชายคุณนุกูล"
".....!" ได้ยินคนเป็นแม่พูดแบบนั้น ติณก็ถึงกับเบิกตากว้าง ก่อนกะพริบตาลงแล้วหลบตามารดาไปอีกทาง "มะ..แม่พูดอะไรของแม่"
"แม่พูดตามตรงนะ ความรู้สึกของแกกับปุณน่ะ มันยากมากที่คนรอบตัวจะรับได้ แกคิดว่าคุณนุกูลกับพี่นางจะรับได้เหรอที่แกกับลูกชายเขาจะรักกัน"
"ผมจะไปอาบน้ำ!"
"ตาติณ!" ศศินารีบคว้ามือลูกชายที่พึ่งลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินขึ้นห้องเพื่อหนีปัญหา "ถ้าแกกับปุณเป็นอย่างที่แม่คิดจริงๆ แกต้องไปเยอรมันและรับช่วงต่อจากคุณโทมัสให้ได้..."
"ผมจะคิดยังไงกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับแม่ อย่ามายุ่งกับผม!" ติณบิดข้อมือออกจากมือเรียวของมารดา ก่อนจะก้าวขาเดินต่อ ทว่าก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าวเท้าหนาก็ต้องหยุดชะงักให้กับคำพูดของคนเป็นแม่
"แกจะสมหวังก็ต่อเมื่อแกมีเงิน มีอำนาจ และมีความรับผิดชอบ!" ประโยคนี้ของศศินาทำให้ลูกชายยอมหันกลับมาเผชิญหน้าด้วยความไม่เข้าใจ
"แม่จะพูดอะไร?"
"ไปรับช่วงต่อจากคุณโทมัสซะ แกประสบความสำเร็จเมื่อไหร่จะกลับมาหาปุณและอยู่ด้วยกันในฐานะอะไรแม่ก็สนับสนุนแก แต่ถ้าแกยังเป็นแค่คนไม่มีอะไร หาเช้ากินค่ำไปวันๆ ไม่เพียงแต่แกจะถูกคนรอบข้างด่าทอว่าเป็นพวกไม่ปกติ แต่ปุณเองก็จะโดนมองไม่ดี แกไม่รู้เหรอว่าเงินมันมีอำนาจมากแค่ไหน แม่ไม่ได้ให้แกไปคดโกงใคร แล้วก็ไม่ได้ให้แกไปทำเรื่องเสียๆ หายๆ ด้วย แต่แม่กำลังสร้างตัวตนให้แก วันที่แกมีเงินมีอำนาจ หมาที่ไหนจะด่าว่าแกยังไงแกก็ไม่ต้องไปสนใจแล้ว แกเข้าใจไหมติณ?"
เช้าวันจันทร์
คาบเรียนช่วงเช้า
"ไอ้ติณ ไอ้ติณ ไอ้ติณ!"
"ฮะ! มึง...เรียกกูเหรอ?" ติณสะดุ้งเล็กน้อยหลังได้ยินเสียงกระเส่าของปุณเรียกชื่อแรงขึ้นข้างๆ หู และขณะนี้อาจารย์ก็ยังสอนอยู่ แต่สอนอะไรนั้นติณไม่รู้เรื่องเลยเพราะไม่ได้ตั้งใจฟัง
"กูเรียกมึงหลายรอบละ เป็นเหี้ยไรของมึงเนี่ย เหม่อแต่เช้าเลย เมื่อวานไปไม่สวยเหรอ?" ปุณรู้ว่าเมื่อวานติณไปเจอพ่อเลี้ยงกับน้องสาวมา เพราะเมื่อคืนโทรคุยกันอยู่ ไม่เห็นเพื่อนบ่นอะไรปุณเลยคิดว่าไม่มีปัญหา แต่ดูจากสภาพติณตอนนี้ ไม่น่าจะปกติ
"ฮะ? เปล่าหรอก ก็ดี คุณโทมัสก็คุยดีอย่างที่กูบอกมึงเมื่อคืนนั่นแหละ" ใช่แล้ว การพบปะสามีของแม่และน้องสาววัยเจ็ดขวบเป็นไปอย่างราบรื่น เพียงแต่เขาเอาแต่คิดเรื่องที่ตัวเองตบปากรับคำมารดาไปว่าจะไปเยอรมันและรับช่วงต่อธุรกิจ
ตอนนั้นติณยอมรับว่าคิดถึงความรู้สึกตัวเองเป็นลำดับแรกจึงยอมตกลง เขารู้ใจตัวเองดีว่าคิดยังไงกับปุณ เลยถูกการอยากครอบครองครอบงำเข้า ตอนนี้เลยต้องมาคิดหนักว่าจะบอกปุณยังไง
"ว่าแต่น้าปรางมาคราวนี้ บังคับให้มึงทำอะไรที่ไม่ชอบหรือเปล่าล่ะ บอกกูได้นะ เดี๋ยวกูบอกพ่อให้คุยให้"
"มะ..ไม่เป็นไร กูโอเค"
"......" ปุณถึงกับรีบขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ ของเพื่อน ปกติติณจะทำหน้าหมดอาลัยตายอยากเวลาพูดถึงแม่ แต่คราวนี้กลับรีบตอบปัดราวกับจะปกป้อง "มึงโอเคจริงป๊ะเนี่ย?"
"ฮะ? อ้อ!...นาฬิกามึง แม่กูซื้อมาฝาก" ติณเลี่ยงการตอบคำถามโดยหันไปเอากล่องนาฬิกาในกระเป๋าโยนให้ปุณแทน ซึ่งพอปุณเห็นว่าเป็นแบรนด์ที่อยากได้ก็ลืมเรื่องเมื่อครู่ไปเสียสนิท