เพราะมึงเป็นของกู |Ep.3|
"แล้วมึงชอบอะไรล่ะ?"
ปุณค่อยๆ ดึงมือที่ถูกปัดออกจากคางกลับมาด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก
แต่ติณกลับคิดว่าตัวเองคงแสดงความรู้สึกประหลาดๆ โจ่งแจ้งเกินไปจึงทำให้เพื่อนมีอาการอย่างที่เห็น
ทั้งที่ความจริงแล้วปุณเองก็กำลังใจเต้นแรงและคิดว่าตัวเองนั้นกำลังแสดงอาการประหลาดๆ ออกมาเช่นกันจึงหลบตาหันกลับมาวอร์มร่างกายต่อ
"กู...กูก็ชอบว่ายน้ำไง หรือมึงไม่ชอบเล่นบาส?"
ติณขำในลำคอเบาๆ หนึ่งทีพร้อมยกยิ้มที่มุมปากอย่างนึกขันความรู้สึกแปลกๆ ของตัวเอง
"เออ ไม่ชอบจะเล่นเหรอวะ"
17:40 น.
กรุ๊งกริ๊ง!
"เฮ้! ว่าไงพวก มาเลยๆ กูจองโต๊ะนี้ไว้ให้พวกมึงแล้ว" เพน เพื่อนชายคนสนิทในกลุ่มเดินออกจากบาร์มาต้อนรับเพื่อนสนิททั้งสองคนที่พึ่งเปิดประตูร้านเข้ามา ก่อนจะนำติณและปุณไปที่โต๊ะหลังสุดติดกระจกมุมเสา
"อ้อมอ่ะ วันนี้ไม่มาเหรอ?" ติณถามหาเพื่อนสาวคนสนิทในกลุ่มอีกคนเมื่อไม่เห็นเธอช่วยเสิร์ฟไอติมเหมือนทุกวัน นอกจากจะเป็นเพื่อนสนิทแล้ว อ้อมยังเป็นแฟนกับเพนมาตั้งแต่ ม.2 ด้วย
"ยายอ้อมไม่สบาย กูว่าปิดร้านแล้วจะไปเยี่ยมอ่ะ" เพนกล่าว พลางขยับผ้ากันเปื้อนที่มีโลโก้ร้านให้เข้าที่เนื่องจากมันเบี้ยวเพราะวิ่งไปวิ่งมา
"เป็นอะไรมากป่าววะ ให้พวกกูไปเป็นเพื่อนไหม?" เมื่อเห็นคนในครอบครัวเพื่อนสาวคนสนิทป่วย ปุณจึงอยากไปให้กำลังใจเพื่อน
"ไม่ต้องๆ โรคคนแก่แหละ ว่าแต่มึงสองคนจะแดกเหี้ยไร สั่งมาๆ"
"กูเอาเรนโบว์ปาร์ตี้"
"กูเอาช็อคโกแล็ตปาร์ตี้"
"เคๆ รอแพร๊บเพื่อน" เมื่อได้รับออเดอร์จากเพื่อนทั้งสองคน เพนก็รีบเข้าครัวไปจัดไอติม และในร้านก็มีลูกค้าพอสมควร
ส่วนมากก็จะเป็นเด็กนักเรียน มีตั้งแต่วัยอนุบาลไปจนถึงมัธยม เพราะร้านของเพนอยู่ใกล้โรงเรียนกลางชุมชนใหญ่
"แล้วนี่แม่มึงจะมาอยู่นานไหมวะ?" ระหว่างรอไอติมมาเสิร์ฟ ปุณก็ได้ชวนเพื่อนคุยเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอ
"ปีนึงเลย จบ ม.6 พอดีแหละ" พอวกกลับมาเรื่องแม่ แววตาของติณก็อดที่จะเศร้าหมองไม่ได้
เพราะการกลับมาของแม่บังเกิดเกล้าในครั้งนี้ มันมีผลลัพธ์ที่น่ากลัวซ่อนอยู่ ซึ่งติณเองก็ได้ฟังคร่าวๆ จากในสายที่โทรมาล่าสุดเมื่อสองวันก่อนบ้างแล้ว
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขานั่งเหม่อเหมือนคนเจอทางตันแล้วหาทางออกไม่เจอ
"มึง...โอเคป่าววะ?" เมื่อเริ่มรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูจะวิตกกังวลจริงจังกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ปุณก็อดห่วงติณไม่ได้ วันนี้ทั้งวันติณไม่ค่อยพูดหรือคุยอะไรเลย บางทีก็นั่งเหม่อเหมือนมีเรื่องกังวลใจตลอดเวลา
"กู...โอเค"
"ถ้ามึงไม่ไหวก็บอกกูได้นะไอ้ติณ กูจะพยายามช่วยมึง"
"อืม" ติณพยักหน้ารับความหวังดีจากเพื่อน ขณะนั้นเพนก็ยกไอติมมาเสิร์ฟพอดี จึงทำให้ทั้งคู่หยุดคุยเรื่องนี้กันไป
หลังจากกินไอติมเสร็จ ปุณกับติณก็ได้พากันเดินกลับบ้าน บ้านของทั้งคู่นั้นอยู่ติดกันและไม่ไกลจากตัวชุมชน เดินไปคุยไปไม่นานก็ถึงแล้ว และทั้งคู่ก็เดินจนชินเพราะรถเมล์ไม่ได้วิ่งเข้ามาในซอย ยังไงก็ต้องลงที่ป้ายหน้าปากซอยอยู่แล้ว
"มึงคิดไว้หรือยังว่าจะต่ออะไร มึงจะต่อมหาลัยที่เดียวกับกูใช่ไหม หรือมึงแอบคิดจะทิ้งกู?" ระหว่างเดินปุณก็ได้ถามถึงเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัย พวกเขาเคยคุยกันตั้งแต่ ม.4 ว่าจะเรียนต่อที่เดียวกันโดยการใช้โคต้านักกีฬาเข้าเรียนมอดัง
"กู...ยังไม่ได้คิดอะไรเลยว่ะ เหลืออีกเป็นปี มึงจะรีบคิดไปไหน" ติณยังคงแสร้งทำสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน แต่ในใจกระวนกระวายสุดๆ หากบอกเพื่อนไปว่าเขาอาจไม่ได้เรียนต่อด้วย ก็กลัวว่าปุณจะคาดคั้นถามเหตุผล ซึ่งเขาเองยังไม่สามารถตอบอะไรตอนนี้ได้
"กูเองก็ไม่ได้อยากจะไปในด้านนี้ซะทีเดียว แค่ว่ายขำๆ หนุกๆ กูอยากเป็นโค้ชสอนว่ายน้ำมากกว่า"
"ว่ายขำๆ แต่คว้าเหรียญทองระดับภูมิภาคมาเนี่ยนะ" ติณว่าให้พลางยกยิ้มมุมปาก
"เออ มันฟลุ๊คเว่ย!"
"เออ! เพราะฟลุ๊คมึงเลยโดนเรียกซ้อมรักษาเวลาทุกวันรอแข่งระดับประเทศหลังสอบปลายภาคไง"
"และมึงก็ต้องไปเชียร์กู" ปุณตวัดแขนขึ้นกอดคอติณแล้วดึงร่างสูงที่ตัวหนากว่าเข้ามาแนบชิด
ติณเอาแต่หลบสายตาสดใสของเพื่อนที่มองมา ตอนนี้รู้แจ้งถึงความรู้สึกตัวเองแล้ว นอกจากครอบครัวจะไม่สมบูรณ์แล้ว ความรักของเขายังทำท่าจะพังโดยที่ยังไม่ได้เริ่มอีกด้วย