เพราะมึงเป็นของกู |Ep.2|
"ได้เหรอ? มึงคิดว่าจะมีคนอยากคบกับพวกไม่มีเวลาอย่างกูด้วยเหรอ" มือเรียวเก็บหนังสือใต้โต๊ะยัดใส่กระเป๋าขณะถาม เพราะใกล้จะเลิกเรียนแล้วเลยต้องรีบเคลียร์ของ
"ถ้ารักกันมันก็คบกันได้ทั้งนั้นแหละ"
"....." มือเรียวขาวที่กำลังยัดหนังสือใส่กระเป๋าชะงักไปเมื่อได้ยินประโยคนั้นของติณ
ดวงตากลมเบือนไปด้านข้างเล็กน้อยคล้ายกำลังครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างที่มันอึดอัดอยู่ในใจ
แต่ไม่กี่วินาทีมือเรียวขาวข้างนั้นก็ขยับยัดหนังสือเข้ากระเป๋าต่อ ส่วนคนพูดตอนนี้ก็กำลังเก็บข้าวของตัวเองอยู่
16:20 น.
"สวัสดีครับครูต๊ะ"
"หวัดดีครับครูต๊ะ"
ปุณและติณยกมือไหว้โค้ชสอนว่ายน้ำหลังจากที่ทั้งคู่เดินมาถึงขอบสระ
"หวัดดีๆ มาแล้วเหรอปุณ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ วันนี้ซ้อมชั่วโมงเดียวนะ ครูต้องไปงานศพญาติ"
"โอเคครับครู" ปุณที่สะพายกระเป๋าเป้ไว้ที่ไหล่ข้างเดียวยักคิ้วขวาให้ติณแล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ส่วนติณก็เดินตามครูต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างสระซึ่งเป็นที่ประจำ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ติณมาเฝ้าปุณซ้อมว่ายน้ำ
...มาจนนับครั้งไม่ได้
"เป็นไงบ้างติณ คิดได้หรือยังว่าอยากเป็นอะไร จบหกจะไปต่อไหน" ครูต๊ะ ถามขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่หย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้ ก่อนจะส่งน้ำให้ติณขวดหนึ่ง ซึ่งติณก็ยกมือไหว้แล้วรับน้ำขวดนั้นไป
"ยังเลยครับครู ผมเหรอจะมีสิทธิตัดสินใจเอง" ติณแสยะยิ้มมุมปากเบาๆ แล้วกลั้วหัวเราะในลำคออย่างสมเพศตัวเอง
"ทำไมล่ะ ตัวเราชีวิตเรา เรามีสิทธิเลือกว่าเราจะเป็นอะไรหรือทำอะไร เธอเองก็ตัวตึงของทีมบาสประจำโรงเรียน ครูคิดว่าเธอจะไปด้านนี้ซะอีก ดูอย่างปุณสิ เป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาตั้งแต่ ม.ต้น ตอนนี้ก็ยังมุ่งมั่นในสายนี้อยู่ อนาคตข้างหน้ามีแววที่จะประสบความสำเร็จสูงเลยนะ"
"ถ้าครอบครัวผมสนับสนุนผมเหมือนปุณก็ดีน่ะสิครับ" ติณหันไปมองครูต๊ะด้วยแววตาตัดพ้อ
"เฮ้อ!..." ครูต๊ะถอนหายใจหนักอย่างช่วยไม่ได้ "ถ้าเป็นเรื่องครอบครัวมันก็พูดยาก ครูเองก็สามสิบหกแล้วมีลูกก็สองคนแล้ว ในใจก็ยังคาดหวังจะให้ลูกเป็นนู่นเป็นนี่เหมือนกัน แต่นั่นก็สุดแล้วแต่ความสามารถของคน ถ้าไม่ถนัดด้านนี้บังคับไปก็เปล่าประโยชน์"
"ก็ถ้าแม่ผมเข้าใจผมเหมือนครูก็คงจะดี"
"เอาน่า สู้ๆ! วันพรุ่งนี้ยังมีเสมอ อะไรก็เปลี่ยนแปลงได้" ครูต๊ะตบไหล่ติณให้กำลังใจ แม้เขาจะไม่ได้สอนติณในคลาสเรียน แต่เขาก็เห็นติณมาตั้งแต่เด็กหนุ่มอยู่มัธยมตอนต้น เพราะติณมักมาเฝ้าตัวตึงนักว่ายน้ำประจำโรงเรียนอย่างปุณเป็นประจำ จึงรักใคร่เอ็นดูเหมือนลูกศิษย์คนนึง
"คุยอะไรกันอยู่ครับ หน้าตาซีเรียสเชียว" ปุณที่พึ่งเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตะโกนถามพลางเอามือยีผมหน้าม้าที่ปกหน้าลงมาถึงปลายคิ้ว
"อ่าว มาแล้วก็รีบทำเวลากันเลย วอร์มร่างกายรอครูก่อนนะ ครูไปโทรศัพท์เดี๋ยวมา"
"ครับครู" ปุณพยักหน้ารัวๆ ให้ครูต๊ะพร้อมกับคลี่ยิ้มบางส่งไป ก่อนที่ร่างสูงโปร่งที่มีมัดกล้ามพอสวยงามจะเดินมาวอร์มร่างกายอยู่ข้างหน้าติณ
"เครียดเรื่องแม่มึงเหรอ ไม่ชินหรือไงที่บ้านจะมีแม่"
"อืม" ติณพยักหน้ารับสั้นๆ แล้วกดตาลงมองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้าง
เขาเองที่เห็นปุณเปลือยท่อนบนอวดแผงอกขาวผ่องมาตั้งแต่ ม.ต้น แต่ไม่เคยรู้สึกอะไรเลย แต่พักหลังๆ มานี้เขากลับมีความรู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นร่างกายปุณ
มันเริ่มขึ้นตอนช่วง ม.5 เทอมสอง ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เริ่มมีความคิดแปลกๆ จินตนาการถึงปุณแปลกๆ จนบางทีก็คิดว่าตัวเองเริ่มเป็นคนพิลึกหรือโรคจิต
"มึงก็รู้ว่ากูอยู่คนเดียวมาตั้งแต่พ่อกูตายได้ปีเดียว"
ปุณหยุดวอร์มร่างกายเมื่อได้ยินประโยคนั้น และรู้ว่าติณกำลังเศร้าเมื่อพูดถึงพ่อตัวเอง มือเรียวขาวจึงยื่นไปจับปลายคางแหลมงัดใบหน้าหล่อเหลาของติณให้เงยขึ้นมาสบตา
"มึงจะเศร้าทำไมวะ กูไม่ชอบ"
ดวงตาคมรีมีเสน่ห์สบตาปุณกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะกดมือปุณให้หลุดออกจากปลายคางแล้วเลิกคิ้วถามเพื่อนด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายลงแต่แอบมีความจริงจังเกิดขึ้นในแววตา
"แล้วมึงชอบอะไรล่ะ?"