บท
ตั้งค่า

บทที่๔...ห้ามตกหลุมรัก (๒)

ต้องเตรียมทูพีชไปด้วย เล่นน้ำทะเลใครเขาใส่แขนยาวขายาวกัน ถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว คราวนี้จะไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอย ต้องทำให้ต้นกล้าสยบอยู่ใต้เท้าตนเองให้ได้

คอยดู!

นกยักษ์บินลงจอดยังสนามบินภูเก็ตก่อนจะมีคนมารับเพื่อไปขึ้นเรือแล้วขับไปเกาะส่วนตัวที่จองเอาไว้ ระหว่างทางหญิงสาวก็ถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกจนชายหนุ่มที่มาด้วยต้องส่ายศีรษะเบื่อหน่าย เท่านั้นไม่พอเธอยังพยายามนำเขาเข้าเฟรมด้วย

“มาเที่ยวทำหน้าให้มันร่าเริงหน่อย ฉันไม่ได้พานายมาฆ่านะ” แหวเสียงดังขณะที่เรือกำลังแล่นกลางทะเล ร่างบางอยู่ในชุดเดรสสีสดใสและสวมหมวกปีกกว้างเพื่อบดบังแสงแดด ขณะที่ร่างสูงสวมเสื้อยืดทับด้วยเชิ้ตแขนสั้นไม่กลัดกระดุม และกางเกงขาสามส่วนพร้อมรองเท้าแตะ

ถึงจะใส่ชุดธรรมดาแต่เพราะหน้าตาหล่อเหลาเล่นเอาเป็นจุดสายตาของใครหลายคนตั้งแต่อยู่สนามบินแล้ว

“ก็เหมือนพามาฆ่านั่นแหละ” พึมพำเสียงเบาแต่ก็ยอมให้หญิงสาวถ่ายเซลฟี่ด้วย เมื่อได้รูปจนพอใจก็ปิดโทรศัพท์ค่อยซึมซับบรรยากาศของท้องทะเลสีครามในยามที่แดดแรงจ้า

“นายๆ ถึงที่พักแล้วเรามาดำน้ำกันนะ ฉันอยากลงไปใต้ท้องทะเลแล้ว” ตีแขนสามีแล้วชวนโดยสายตาเอาแต่มองทะเลด้วยดวงตาเป็นประกาย จนชายหนุ่มอดหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางราวเด็กน้อยไม่ได้

“พรุ่งนี้ค่อยมา ยังไงเราก็อยู่ที่นี่ตั้งสามวันอยู่แล้ว” ตวัดสายตามามองเขาไม่ชอบใจ แล้วค่อยกลับไปชมทัศนียภาพตรงหน้า เหมือนเป็นการผ่อนคลายหลังทำงานมาทั้งปี

เธอบอกคนที่บริษัทห้ามติดต่อมาเพราะว่าไม่ว่าง มาฮันนีมูนถ้าใครบังอาจโทรมาขัดขวางความสุขจะแช่งให้โสดไปทุกชาติ และดูเหมือนทั้งเพื่อนสนิทและคนในบริษัทไม่กล้าโทรมาสักราย ทำให้พรณัชชามีรอยยิ้มประดับใบหน้าตลอด

ถึงเกาะส่วนตัวก็เดินตามสะพานไม้มายังพูลวิลล่า รีสอร์ทสวยแฝงตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน ที่พักทำเป็นแบบขั้นบันไดและห้องพักค่อนข้างมีพื้นที่เยอะพอสมควร มองจากข้างนอกมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กส่วนตัวแทบทุกห้อง

พวกเขามาเช็คอินก่อนจะขึ้นลิฟต์มายังห้องพัก เพียงแค่เปิดประตูเข้ามาข้างในก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ที่มาจากเครื่องพ่นอากาศ สวมสลิปเปอร์ที่วางไว้ด้านข้างแล้วเดินมายังโถงกลางกรุด้วยกระจกเห็นวิวโดยรอบ เป็นทะเลกว้างใหญ่ก่อนจะบรรจบที่ปลายท้องฟ้า

เขาวางกระเป๋าลากของหล่อนและกระเป๋าถือของตัวเองไว้กลางห้อง เดินไปเปิดประตูที่อยู่ตรงข้ามกันคิดว่าเป็นสองห้องนอน แต่กลับพบว่าห้องที่เขาเปิดคือห้องน้ำ ขณะที่ห้องตรงข้ามที่พรณัชชาเข้าไปเป็นห้องนอน ดวงตาคมเบิกกว้างขึ้นแล้วเดินตามหล่อนเข้าข้างในอย่างรวดเร็ว

พยายามมองดูว่าที่พักมีสองห้องนอนแต่กลับพบว่าเป็นแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ คุณธรณ์เทพจองห้องพักสุดหรู 1 ห้องนอนให้หลานชาย ไม่ใช่พูลวิลล่าสำหรับครอบครัว แต่ใช้กับการฮันนีมูนต่างหาก เพราะนอกจากวิวจะสวยแล้วยังโปรยกลีบกุหลาบที่เตียงนอนอีก

คุณปู่นะคุณปู่ มาครบสูตรเลย

“สวยชะมัด แบบนี้สิที่ฉันต้องการ คุณปู่ช่างรู้ใจหลานสะใภ้คนนี้จริงๆ” ประโยคเหล่านั้นสร้างความเจ็บแสบให้ร่างสูง ซึ่งต่างจากคนตัวเล็กยิ้มอย่างมีความสุข

“ห้ามขึ้นเตียงทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำนะ อย่าเด็ดขาด” หันมาสั่งเมื่อเห็นว่าสามีกำลังจะนั่งลงบนเตียงอย่างคนหมดแรง

“รู้แล้วน่า” เดินออกไปข้างนอกแล้วนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเพื่อใส่ตู้ ขณะที่ร่างบางเปิดกระเป๋าของตนเองแล้วจัดการรื้อชุดที่จะใส่ เล่นเอาชายหนุ่มขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

“ทำไมไม่เอาเสื้อผ้าใส่ตู้” ถามด้วยความสงสัย

“ใส่ทำไม เดี๋ยวก็ต้องเก็บ เอาไว้ในนี้แหละฉันค้นใส่เอง” แปลกคน ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน เพราะคนรอบตัวเขาทั้งแม่และน้องสาวก็ถูกสอนว่ายามไปเที่ยวให้นำเสื้อผ้าออกมาห้อยไว้ที่ตู้ของทางโรงแรมให้เป็นระเบียบ จะได้เลือกใส่ง่าย

“เป็นผู้หญิงยังไงเนี่ย” พึมพำเสียงเบา แต่คนตัวเล็กก็ยักไหล่ไม่สนใจ เข้าห้องน้ำไปชำระกายแล้วเปลี่ยนเป็นชุดที่ตนเองเตรียมมา

ขณะที่หนุ่มฝ่ายการตลาดเลือกจะออกไปรับลมริมระเบียง มีสระน้ำขนาดเล็กค่อนข้างเป็นส่วนตัว จึงได้หย่อนขาลงไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดแอพพลิเคชั่นถ่ายรูป กดชัตเตอร์ภาพทะเลแสนสวยก่อนจะลงให้คนอื่นได้เห็น

มีเพื่อนสนิทและคนรู้จักเข้ามาคอมเมนต์ภายในเวลาไม่กี่นาที เขาอมยิ้มเล็กน้อยแล้วกดปิดหน้าจอค่อยซึมซับภาพตรงหน้าด้วยตาเปล่า ไม่ได้พักผ่อนแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วก็จำไม่ได้ เขาเคร่งกับการทำงานเพื่อไต่เต้าให้ถึงระดับผู้บริหารโดยความสามารถของตนเอง

“นี่ ถ่ายภาพให้ฉันหน่อย” หันมองก่อนจะตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ไม่อยากไล่สายตาเหมือนพวกหื่นกระหายแต่ก็อดไม่ได้จริงๆ

พรณัชชาในชุดทูพีชไหมพรมถักสีเหลืองอ่อนขับให้ผิวขาวสว่างกว่าเดิม เสื้อชั้นในไหมพรมมีระบายลงมาเล็กน้อย เข้ากับกระโปรงไหมพรมที่สั้นแค่คืบเพิ่มความน่ารักด้วยการปักลายเป็ดไว้ด้านขอบ

“เร็วๆ สิ” ไม่มีความเขินอายต่อสายตาคมที่กำลังมอง กลับเร่งเขาพร้อมยื่นโทรศัพท์ของตนเองให้สามี แล้วจัดแจงท่าทางด้วยความชำนาญ เล่นเอาคนมองถึงกับถอนหายใจ แต่ก็ยอมเป็นช่างภาพจำเป็นให้แก่ภรรยาของตน

มองหล่อนผ่านหน้าจอพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้เมื่อหญิงสาวแอคท่าเหม่อที่เป็นท่ายอดฮิต กดถ่ายไปเรื่อยโดยมีหล่อนกำกับ แถมชอบมาเช็คว่าเขาถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง สวยไหมหรือพลาดตรงไหน

“นายก็มีเซนส์ในการถ่ายรูปเหมือนกันนะ” ชมขณะที่เลื่อนดูรูปภาพ

“เรื่องง่ายๆ” ไม่มีการอ่อนน้อมแต่อย่างใด แปลกที่พอเป็นพรณัชชาเขากลับรู้สึกว่าสามารถพูดอะไรก็ได้ เป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องสนใจภาพลักษณ์ เพราะดูเหมือนหญิงสาวเองก็ไม่ได้มาเหนียมอายกับเขาเช่นเดียวกัน

“ป่ะ ไปถ่ายข้างล่างกัน” กำลังจะเดินนำก็ถูกดึงแขนไว้เสียก่อน

“ไปชุดนี้เหรอ” มองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้า

“ใช่สิ ก็จะไปถ่ายรูปชุดนี้นายจะให้ฉันใส่ชุดไหนไป” ร่างสูงไม่ได้ให้คำตอบแต่เดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ของตนมาถือไว้ ก่อนสวมให้หล่อนโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ยกแขนเรียวใส่เข้าไปในแขนเสื้อทำราวกับว่าเธอเป็นเด็กสามขวบ

“ฉันไม่ใช่เด็กนะ ไม่ต้องใส่ให้ขนาดนี้ก็ได้” แหวเสียงดัง แต่แก้มนวลกลับแดงปลั่ง ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีแฟนแต่เธอไม่เคยยอมให้ใครถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ต่างหาก

“ใส่ไปก่อน จะถ่ายรูปค่อยถอด อากาศมันหนาว” เหตุผลของเขาฟังไม่ขึ้นสักนิด ที่นี่แดดร้อนกว่าสามสิบองศาเอาอะไรมาหนาว อยากแก้ผ้าเดินด้วยซ้ำแต่ก็กลัวอุจาดตา

หล่อนไม่พูดอะไรกลับเดินไปหยิบกล้องมิลเลอร์เลสของตนเองแล้วยัดใส่มือร่างสูง จ้องดวงตาคมก่อนจะเสหลบอย่างรวดเร็ว ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์มากเกินไป แค่มองก็ทำเอาใจสั่นได้แล้ว

“ถ่ายให้ด้วย” เดินนำไปก่อนแล้วสวมรองเท้าสานที่ตนเองเตรียมมา ไม่ลืมหยิบหมวกเพื่อกันแดดโดยมีสามีตามมาไม่ห่าง

“ฉันคิดเงินนะ” หยิบของสำคัญแล้วค่อยไปสวมรองเท้า ไม่ลืมพูดเย้าคนตัวเล็กที่ยืนรอหน้าห้อง

“ฉันจ่ายด้วยร่างกาย เอาไหมล่ะ” ทำหน้าตาทะเล้นเชื่อว่าอย่างไรเขาก็คงปฏิเสธ และก็เป็นอย่างที่คิดจริงด้วย

“ฉันถ่ายให้ฟรี ไปได้แล้ว” มือหนาวางไว้ที่ไหล่เล็กอย่างลืมตัว และดูท่าทีจะไม่รู้สึกว่ามันผิดแปลกเนื่องจากพูดมาตลอดว่าไม่ชอบหล่อน

ขณะที่พรณัชชาหน้าแดงแปร๊ดกับการกระทำของเขา เพียงแค่แขนหนาพาดไหล่ตนเองก็ทำเอาร่างกายเริ่มร้อน เม้มปากแน่นไม่ให้เผลอยิ้มออกมา มายืนข้างไรวินทร์ทำไมหล่อนตัวเล็กลงทั้งที่ปกติก็ไม่ได้รู้สึกเช่นนี้

เขาสูงมากเกินไป นั่นแหละคือเหตุผล ไม่ใช่ว่าหล่อนกำลังตกหลุมรักสามีของตนเองแต่อย่างใด ผู้ชายปากร้ายอย่างนี้ไม่มีทางกลับไปชอบเด็ดขาด

ไม่มีทาง...

เดินมายังชายหาดสีขาวเธอก็ถอดเสื้อของเขาออก ท่าทางนั้นไม่ได้ยั่วสักนิดแต่คนที่มองกลับลอบกลืนน้ำลายลงคอ ทำไมรู้สึกว่าหล่อนเซ็กซี่ทั้งที่ไม่ได้โชว์เนื้อหนังมากเท่าที่ควรด้วยซ้ำ ยิ่งยามเสยผมเล่นเอาใจสั่นไหวไปหมด

“เอาแบบสวยๆ นะ รีบถ่ายด้วยฉันร้อน” เดินมาวางเสื้อสีขาวไว้บนไหล่หนา สวมหมวกปีกกว้างแล้วไปโพสท่าแสนน่ารักในความคิดเขา มันไม่ได้ดูเซ็กซี่หรือยั่วยวน แต่กลับดูน่าทะนุถนอมมากกว่าอาจจะเพราะหญิงสาวไม่ใช่คนสูงโปร่ง แต่ออกแนวน่ารักน่าพกพามากกว่า

ยิ่งยามยิ้มให้กล้องเล่นเอาคนถ่ายหายใจสะดุดไปจังหวะหนึ่ง พยายามรัวชัตเตอร์เก็บภาพให้มากที่สุด คราวนี้เหมือนไม่ได้ตามใจเจ้าของกล้องแล้ว ตามใจช่างภาพจำเป็นมากกว่า

“ไปถ่ายใต้ต้นไม้กัน ตรงนี้พอแล้ว” พรณัชชาไม่ใช่คนถ่ายรูปเยอะ ถ้าเห็นว่าได้แล้วก็เปลี่ยนมุมทันที หล่อนชอบที่จะไปนั่งดื่มด่ำบรรยากาศมากกว่า แต่ในเมื่อมาฮันนีมูนกับสามีทั้งทีก็อยากเก็บภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย

พยายามนั่งให้เซฟตัวเองมากที่สุด ก่อนจะเริ่มจิกกล้องจนเลนส์แทบแตก เอามือเท้าคางแล้วมองก่อนจะเปลี่ยนแววตาเป็นเว้าวอน เล่นเอาคนหลังกล้องถึงกับไปไม่เป็น ไม่ต้องมีคำพูดอะไรแต่หล่อนสื่อสารอารมณ์ผ่านทางดวงตา อยากแนะนำให้ไปเป็นนักแสดงท่าจะรุ่งกว่าคนออกแบบเว็บไซต์

“ขอโทษนะคะ ถ่ายรูปคู่ให้หน่อยได้ไหมคะ” เมื่อได้ภาพที่ต้องการก็หยิบกล้องจากมือของสามี เดินไปหานักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยราวน้ำผึ้ง จนอีกฝ่ายพยักหน้าหล่อนจึงได้ยิ้มดีใจ

“มาถ่ายรูปกัน” ดึงแขนหนาให้มาใกล้ตนเอง เขาขืนตัวไว้เล็กน้อย

“ไม่เอา” ถึงจะปฏิเสธแต่ตอนนี้ก็ยืนข้างหญิงสาวเรียบร้อย

“เถอะน่า มองกล้องแล้วยิ้ม” ว่าแล้วก็ยกแขนเขามากอดไหล่ตนเอง พร้อมเอนศีรษะไปทางชายหนุ่ม ฉีกยิ้มหวานให้กล้องจนได้ยินเสียงกดชัตเตอร์

“สวยมากเลยค่ะ ขออีกหลายๆ รูปนะคะ” คนที่มาถ่ายให้ก็รัวภาพเพราะทนความน่ารักของคู่นี้ไม่ไหว ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวย เหมาะสมกันจนเหมือนไม่มีอยู่จริง นึกว่ากำลังอยู่ในฉากละครสักเรื่อง

จนกระทั่งคู่รักบอกขอบคุณแล้วเดินมาเอากล้องจึงได้คืนอย่างเสียดาย พรณัชชากล่าวขอบคุณแล้วมาดูภาพพลางอมยิ้มมีความสุข ใบหน้าคมที่คิดว่าจะบึ้งตึงกลับอมยิ้มมุมปากให้กล้อง แถมมีบางภาพเขาหันมามองเธออีก

หล่อชะมัด สามีใครเนี่ย...

“จะทำอะไรอีก” บนชายหาดคนไม่ค่อยเยอะ อาจเพราะเป็นเกาะส่วนตัวและที่พักค่อนข้างแพง ทำให้มีคนไทยไม่มาก ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ ใส่ชุดบิกินี่ราวเรื่องปกติ ไม่มีใครมาสนใจกันทำกิจกรรมของตนเองได้อย่างสบาย เห็นนอนอาบแดดกันอย่างมีความสุข

“หิว ไปกินข้าวดีกว่า” พอจะเดินไปก็โดนคว้ามือ แล้วยื่นเสื้อสีขาวให้หล่อนสวมเอง

“ไม่เอา ฉันอยากโชว์ ใส่มาทั้งทีก็ต้องอยากให้คนมองสิ ดูพวกฝรั่งเขาใส่แทบไม่ปิดอะไรยังไม่เป็นอะไรเลย” ยกเหตุผลมาอ้างจนร่างสูงต้องถอนหายใจ มองหน้าหวานแล้วพยายามอธิบายด้วยความใจเย็นทั้งที่ก็ไม่รู้ทำไมต้องให้หล่อนใส่ด้วย มันเป็นสิทธิ์ของพรณัชชาที่จะใส่อะไรก็ได้อยู่แล้ว

“ลงไอจีคนก็ดูเป็นพันเหมือนกันนั่นแหละ ใส่เข้าไป” ยัดเสื้อใส่มือหล่อน แต่ร่างบางก็ทำเพียงแค่ถือไว้ไม่ยอมสวม

“ไม่เอา นายกำลังรุกล้ำสิทธิเสรีภาพในการใส่เสื้อผ้าของฉันนะ ให้มาเป็นสามีไม่ใช่พ่อ ฉันไม่ใส่” ยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่น เล่นเอาคนฟังถอนหายใจแล้วจ้องดวงตากลมโตนิ่ง

“เป็นห่วง” เพียงแค่คำเดียวทำเอาใจสาวสั่นสะท้าน หลุบตามองเสื้อสีขาวแทนการจ้องตาคมเพราะอีกฝ่ายกำลังทำให้ใบหน้าเธอร้อน

ไม่หรอก ร้อนเพราะอากาศต่างหากไม่ใช่ที่คำพูดชวนใจหวิวของคนเป็นสามี

“ใส่ก็ได้” พึมพำเสียงเบาแล้วสวมเสื้อสีขาวที่ยาวเกือบถึงเข่า เล่นเอาเหมือนขโมยเสื้อพ่อมาใส่ แต่ขอโทษทีพอดีเป็นเสื้อสามี

“กลัวเป็นปอดบวมตายซะก่อน” พูดจบก็เดินนำเล่นเอาหล่อนอ้าปากค้างมองตาม จากความหวานเมื่อสักครู่หายไปราวไม่เคยเกิดขึ้น อาการใจเต้นหน้าร้อนเพราะความเขินเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวแล้วพูดไล่หลังเสียงดัง

“ไอ้บ้า”

คอยดูนะคืนนี้หล่อนจะทำให้ร้องไม่ออกเลย มาเล่นกับใครไม่เล่น

รู้จักพรณัชชาน้อยไปแล้ว...นายต้นกล้า!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel