บทที่๔...ห้ามตกหลุมรัก (๑)
บทที่๔...ห้ามตกหลุมรัก
การตกลงเรื่องที่อยู่อาศัยของคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันนั้นพบกันตรงกลางที่จันทร์ถึงศุกร์อยู่บ้านฝ่ายชาย ส่วนเสาร์อาทิตย์ต้องไปนอนบ้านฝ่ายหญิง คราวแรกหล่อนก็ยืนยันว่าอย่างไรก็ไม่ยอม แต่บิดาของตนกลับตกลงไม่คัดค้าน สร้างความหงุดหงิดใจเหลือเกิน
ส่วนการทำงานของพรณัชชาก็ไม่ได้ยุ่งยาก เธอเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ เพียงแค่ไปรับงานที่บริษัทแล้วกลับมาทำอยู่บ้านก็ได้ ไม่มีเวลาตายตัวแต่มีกำหนดส่งที่แน่นอน ซึ่งต้องเร่งทำทั้งวันทั้งคืนถ้ามัวเถลไถลไม่ยอมทำตั้งแต่แรก
ร่างสูงที่นอนขดอยู่บนโซฟาค่อยลืมตาเมื่อแสงแดดลอดผ่านม่านเข้ามาได้ ลืมตาแล้วมองดูนาฬิกาข้างหัวเตียงก่อนจะพบว่าหกโมงครึ่งแล้ว ค่อยลุกนั่งพลางบิดกายด้วยความเมื่อย การนอนโซฟาไม่ใช่ทางเลือกที่ดี กว่าจะหาท่าสบายแล้วหลับได้ทำเอาผ่านไปครึ่งค่อนคืน ต่างจากคนบนเตียงที่นอนหลับสบาย
แถมตื่นแต่เช้าอีก เพราะมองไปบนเตียงก็ไม่เห็นหล่อนแล้ว ผ้าห่มถูกปูเรียบตึงราวไม่มีคนนอน ก็ยังดีที่ไม่ปล่อยให้ผ้าห่มเป็นก้อน ถือว่ายังมีความเป็นระเบียบบ้าง
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเขาก็เดินมายังบ้านใหญ่โดยผ่านทางเชื่อม เห็นครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตายกเว้นก็แต่สะใภ้คนโต
“อ้าวหลานปู่ มากินข้าวเช้าด้วยกันสิ” วันหยุดแบบนี้ไม่มีใครออกไปข้างนอก จะยกเว้นก็แต่เรรินที่ต้องไปอ่านหนังสือเตรียมสอบ ทว่ายังคงนั่งกินขนมด้วยความเอร็ดอร่อย
“ครับ” ร่างสูงนั่งลงพลางมองซ้ายแลขวา เห็นคุณปู่คุณย่า บิดามารดาและเด็กแฝดจับจองที่ของตนเอง
หายไปไหน...
“มองหาเมียอยู่เหรอ” คุณศรัณเอ่ยแซว เรียกสายตาล้อเลียนจากทุกคนบนโต๊ะจนเจ้าบ่าวต้องรีบส่ายหน้า
“ปะ เปล่าครับพ่อ ก็แค่มองดูว่าคุณปู่คุณย่าสบายดีไหมเท่านั้นเอง” ค้อมศีรษะขอบคุณแม่บ้านที่นำข้าวต้มมาเสิร์ฟ ก่อนได้ยินคุณย่าพูดด้วยโทนเสียงนุ่มและแววตาเอ็นดูหลานคนโตไม่เสื่อมคลาย
“ย่าสบายดี เราไม่ต้องห่วงย่าหรอก ดูแลตัวเองกับเมียให้ดีก็พอแล้ว” เห็นไรวินทร์เป็นฝั่งเป็นฝาก็มีความสุข ต่อจากนี้คงรอเลี้ยงเหลนตัวน้อยที่อาจจะกำลังมาในเร็ววัน
“ใช่ค่ะ หน้าที่ห่วงคุณย่าเป็นของฟ่างเอง เดี๋ยวต่อจากนี้ถ้าคุณย่ามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากบอกฟ่างเลยนะคะ ดูแลให้ฟรีไม่คิดค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น” ความทะเล้นไม่มีใครเกิน จนฝาแฝดต้องหัวเราะกับความเยอะของพี่ตนเอง
“กินเยอะๆ นะลูก หนูหมิงเขาเอาชุดเจ้าสาวไปคืนเพื่อน เดี๋ยวคงจะกลับ” คนเป็นแม่ที่นั่งใกล้ตักไข่ฟองโตลงถ้วยข้าวต้มของลูกชายแล้วบอกว่าหญิงสาวอีกคนที่หายไปจากโต๊ะอาหารเพราะต้องไปส่งชุดคืนกับทางร้านแต่งงาน
แต่ไปเช้าขนาดนี้เลยเหรอ เท่าที่ดูยังไม่ทันจะสิบโมงด้วยซ้ำ คิ้วพลางขมวดคิ้วแต่ก็รีบปัดทิ้งอย่างรวดเร็ว ไม่เห็นต้องเอามาใส่ใจเลย
“อ้อ ปู่มีของขวัญให้ด้วย” ซองสีขาวถูกยื่นมาตรงหน้า ถ้าอยู่ในบริษัทเขาคงตกใจแล้ว แต่เพราะเป็นคนในครอบครัวจึงหยิบมาเปิดดูด้วยความฉงน
และข้างในก็เล่นเอาหนุ่มฝ่ายการตลาดถึงกับพูดไม่ออก...
“ตั๋วพร้อมที่พักไปฮันนีมูนที่เกาะส่วนตัวฟรี แถมดำนำดูปะการัง ชอบไหม” คุณธรณ์เทพถามหลานชายที่มีสีหน้าอีหลักอีเหลื่อ ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ไม่คิดมาก่อนว่าคุณปู่จะให้ของขวัญเป็นการฮันนีมูน
“แต่ว่าช่วงนี้งานเยอะนะครับ ผมคิดว่า..” กำลังจะหาทางหนีทีไล่ ก็เจอบิดาขัดอย่างรวดเร็วเล่นเอาเบรกแทบไม่ทัน
“งานเยอะอะไร ช่วงนี้ว่างจะตายไป เราไปเที่ยวกับเมียเถอะ จะได้กระชับความสัมพันธ์” ทุกคนรู้ว่าการแต่งงานไม่ได้เกิดจากความรัก แต่ในเมื่อได้ร่วมหอลงโรงกันแล้วก็อยากให้อยู่ตลอดรอดฝั่ง ควรเรียนรู้กันและกันเอาไว้ตั้งแต่ต้น
ชายหนุ่มคร้านจะเถียงจึงทำได้เพียงมองของขวัญในมือ อยากยกมือขึ้นกุมขมับเหลือเกิน ตั้งแต่เจอกับพรณัชชาเขามีเรื่องให้เครียดเยอะแค่ไหนไม่อยากจะนับ ไม่รู้ชาติที่แล้วไปทำเวรทำกรรมอะไรกันไว้ ชาตินี้ต้องมาชดใช้ถึงขนาดนี้
แล้วทุกคนก็เห็นดีเห็นงามกันไปซะหมด น้องชายน้องสาวส่งยิ้มล้อเลียนไม่ได้คิดจะช่วยกันเลย ไหนจะรชานนท์ที่เดินมากระซิบข้างหูอีก
“เดี๋ยวผมซื้อถุงยางเพิ่มให้นะพี่ ไปฮันนีมูนครั้งนี้ต้องจัดเต็ม” ถ้าไม่ติดที่น้องชายรีบเดินแกมวิ่งออกไปก่อนเขาได้ทุบหลังสักทีแน่ เมื่อคืนยังไม่ได้ใช้สักชิ้น และเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องใช้ด้วยเพราะเขาไม่มีอารมณ์กับผู้หญิงปากร้ายคนนั้นหรอก
หล่อนหายไปทั้งวันทำเอาไรวินทร์อมยิ้มมีความสุข ไปช่วยคุณปู่ดูแลต้นกล้วยที่โรงเรือนหลังบ้าน ไหนจะมาชิมขนมที่มารดาทำ ก่อนจะเข้าห้องหนังสือหานิยายต่างประเทศอ่านสักเล่ม เป็นวันหยุดที่แสนมีความสุขจนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะก้องกังวานที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น
“คุณแม่สัญญาแล้วนะคะว่าจะสอน เดี๋ยวหมิงจะตั้งใจเป็นศิษย์ที่น่ารัก ไม่ดื้อไม่ซนค่ะ แต่อร่อยมากเลยนะคะ กินไม่เบื่อ แบบนี้หมิงต้องอ้วนขึ้นทุกวันแน่เลย” คำเยินยอเกินจริงทำเอาคนแอบฟังต้องส่ายศีรษะ
หายไปทั้งวันพอกลับมาก็ประจบมารดาเขา แบบนี้จะให้เอ็นดูได้อย่างไร พูดอะไรออกมาก็ไม่จริงใจสักอย่าง
“น้องหมิงกินเยอะๆ เลยนะ ตอนนี้ผอมเกินไปอ้วนสักหน่อยน่าจะดี” มองลูกสะใภ้พลางเอ่ยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตัวเล็กเกินไป
“หมิงอ้วนนะคะคุณแม่ ลงพุงจะตาย” ว่าแล้วก็ทำหน้าบึ้ง มือหยิบขนมเข้าปากไม่หยุดขณะที่นั่งกินอยู่ห้องอาหารยังชั้นหนึ่ง คุณรวิสุดาเห็นก็ยิ่งเอ็นดู มองออกว่าลูกสะใภ้คนนี้ช่างพูดช่างจาแถมเป็นคนน่ารักด้วยนิสัยจากภายใน ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใด
“มองอะไรน่ะเรา” คุณศรัณที่อยู่ชั้นสองของบ้านถามลูกชายพลางชะโงกหน้ามาดู เล่นเอาร่างสูงต้องถอยออกมาพลางกระแอมเล็กน้อย
“เปล่าครับ ผมว่าจะเข้าห้อง” เดินถือหนังสือไปยังห้องนอนของตนเองปล่อยบิดาคิ้วขมวดด้วยความสงสัย ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะของภรรยาและลูกสะใภ้ ก็เริ่มยิ้มออกมาพลางพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
สงสัยว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่ใช่แค่ถูกบังคับเสียแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดจากความเต็มใจของเจ้าตัวก็เป็นได้...
เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดออกเสียงเบา หญิงสาวที่ไปตะล่อนมาทั้งวันเพิ่งได้ย่างขาเข้ามาในบ้าน กังวลว่าจะถูกดุแต่ทุกคนก็ชวนพูดคุยเสียจนลืมเวลา ได้กินอาหารอร่อยจากคุณแม่ ได้ดูสวนกล้วยไม้ของคุณปู่ แถมคุณย่ายังมอบสร้อยเพชรให้อีก
แต่งงานครั้งนี้บอกได้เลยว่ามีแต่กำไร หล่อนกลายเป็นที่รักของคนบ้านวิมานมรกตอย่างไม่น่าเชื่อ
“จำทางกลับบ้านถูกด้วยเหรอ” ยกเว้นก็แค่คนเดียว...
สามีของตนเอง
“อุ้ย ลืมแล้วอ่ะ นี่บ้านใคร คุณเป็นใคร ผีบ้านผีเรือนเหรอ หน้าตาแบบนี้สงสัยอยากได้ส่วนบุญเยอะๆ เดี๋ยวจะทำไปให้แล้วกันนะ” พูดเป็นเรื่องเป็นราวเล่นเอาคนที่แสร้งนั่งอ่านหนังสืออยู่โซฟาลุกขึ้นมาแทบไม่ทัน
“นี่เธอ ฉันไม่ใช่สัมภเวสี”
“อ้าวเหรอ ตายแล้ว ไม่บอกไม่รู้เลยนะ เห็นนั่งหน้าขึงขังก็นึกว่าจะมาขอส่วนบุญซะอีก ไม่ใช่หรอกเหรอ” ท่าทางยียวนทำเอาคนมองอารมณ์ขึ้น แต่การทำร้ายทางร่างกายไม่ใช่วิถีของเขาสักเท่าไหร่ จึงได้ชี้ไปยังซองสีขาววางอยู่โต๊ะเล็กข้างหัวเตียง
“ซองสีขาวน่ะ คุณปู่ให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน ไม่รู้ว่าเธอจะชอบไหม” ตากลมโตลุกวาว รีบเดินมาเปิดซองอย่างรวดเร็วหวังเป็นเช็คสักล้านสองล้าน ทว่าพอเห็นเป็นตั๋วเครื่องบินกับที่พักสุดหรูก็อึ้ง
ไรวินทร์ตีความท่าทีเหล่านั้นว่าเธอไม่ชอบใจ จึงได้วางหนังสือลงบนโซฟาก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปหาภรรยาทางนิตินัย
“เธอคงไม่ชอบสินะถ้าได้ไปกับคนที่เกลียดหน้า แถมยังต้องอยู่ด้วยกันสองต่อสองอีก น่าสง...” ยังพูดไม่จบก็ถูกขัดเสียก่อน
“ใครบอกว่าฉันไม่ชอบล่ะ ชอบมากเลยต่างหาก เราจะได้อยู่ด้วยกัน มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกัน นายไม่ชอบเหรอ” หันมาหาสามีของตนเองก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้เขา ฉีกยิ้มราวมีความสุขแต่มันกลับดูน่ากลัวในสายตาของชายหนุ่ม
ราวกับว่าหล่อนกำลังจะผลักเขาตกหลุมอย่างไรไม่รู้
“ไปพรุ่งนี้เลยดีไหม ฉันพร้อมนะ งานของฉันเคลียร์หมดแล้ว เตรียมพร้อมสำหรับการไปฮันนีมูนกับสามีค่ะ” กอดแขนหนาเอาไว้จนไรวินทร์แกะออกแทบไม่ทัน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเล่นงานร่างบางได้เลย เธอพลิกแพลงเอาคืนตลอด
จนเมื่อเป็นอิสระก็ออกจากห้องปล่อยเธอเอาไว้คนเดียว ดวงตากลมจ้องมองที่พักในเกาะส่วนตัวพร้อมดำน้ำฟรีตลอดทั้งทริป แค่คิดก็อมยิ้มมีความสุขแล้ว