๑.๓ เตือนความจำ
หลังจากอาหารมื้อค่ำผ่านไป ปอไหมกับชาร์ลขอตัวขึ้นห้อง ส่วนปานระพีกับเก้าเข้าไปดูโทรทัศน์ด้วยกันในห้องนั่งเล่น คนโสดอย่างปลายฝนจึงออกไปเดินเล่นเตร็ดเตร่คนเดียว ตาคู่สวยทอดมองดูความงดงามของดอกกุหลาบในแปลง ที่พี่สาวอย่างปานระพีปลูกไว้ พลางคิดว่าบ้านของเธอช่างสวยงามและอบอุ่นเหลือเกิน ที่นี่รายล้อมด้วยธรรมชาติ และเต็มไปด้วยคนที่รักเธอ ใจจริงเธอก็อยากกลับมาทำงานกับครอบครัว แต่ติดตรงที่ว่า เธอกลัวจะต้องเจอใครบางคน ที่แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในชายคาเดียวกัน แต่เขตแดนอาณาจักรของเขา ก็ติดกับเขตแดนของที่นี่ มันอันตรายเกินไปที่จะพาตัวเองกลับมาอยู่ใกล้กับศัตรูของอา ถ้าอาเก้ารู้ว่าเธอเพลี่ยงพล้ำจนเกือบเสียสาวให้นายหัวสิงห์ อาเก้าจะต้องโกรธมากแน่ๆ
ใบหน้าหวานละมุนแดงระเรื่อขึ้น ท่ามกลางแสงไฟสปอตไลต์ที่ส่องสว่างทั่วสวน เธอเลือกใช้คำว่า ‘เกือบเสียสาว’ เพื่อให้ตัวเองสบายใจ อีกทั้งไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้น มันคือการเสียสาวหรือเกือบเสียสาวกันแน่ อีกทั้งไม่มั่นใจว่าเยื่อบางๆ ที่เรียกว่าพรหมจารีนั้นยังอยู่หรือไม่ ทว่าที่รู้แน่ๆ ก็คือร่างกายนี้ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องอีกต่อไปแล้ว ผู้ชายคนนั้นได้ล่วงล้ำเข้ามาในตัวเธอ แม้จะไม่ถึงที่สุด แต่เขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้กระทำ
“มาเดินเล่นเหรอคะคุณหนู”
เสียงที่ดังขึ้นเป็นเสียงของคนเก่าคนแก่อย่างป้าแย้ม ทำให้คนที่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดตัวเองต้องหยุดคิด แล้วหันไปมองต้นเสียงก่อนจะยิ้มให้
“ค่ะป้าแย้ม แล้วป้าแย้มล่ะคะ ทำไมยังไม่นอน”
“ป้ามาเดินดูความเรียบร้อยน่ะค่ะ เดี๋ยวก็จะไปนอนแล้ว คุณหนูเหงามั้ยคะ อากับพี่ๆ แต่งงานกันหมดแล้ว” ป้าแย้มถามอย่างคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปี ย่อมเข้าใจดีว่าแต่ละช่วงชีวิต แต่ละเหตุการณ์จะทำให้ใครรู้สึกเช่นไร
“ก็มีบ้างค่ะ แต่ปลายดีใจมากกว่าที่เห็นอาเก้า พี่ปอ พี่ป่าน มีความสุข”
“แล้วเมื่อไหร่คุณหนูจะมีข่าวดีบ้างคะ”
“หูย อีกนานค่ะป้าแย้ม ปลายยังไม่มีแฟนเลย อีกอย่างเด็กกะโปโลอย่างปลายจะมีใครเอาคะ”
“ปีนี้คุณหนูของป้าเป็นสาวเต็มตัวด้วย หน้าตาสะสวย ผิวพรรณก็ดี ที่สำคัญกิริยามารยาทก็งดงามไม่แพ้หน้าตา ป้าว่าอีกไม่นานคุณหนูของป้าต้องมีแฟนแน่”
“ป้าแย้มปากหวานที่ซู้ดดด รักป้าจังค่ะ” ปลายฝนเข้าไปกอดคนเก่าคนแก่แล้วพูดอย่างอ้อนๆ ซึ่งนั่นทำให้ป้าแย้มยิ่งเอ็นดู
“ป้าก็รักคุณหนูค่ะ ว่าแต่คุณเก้าบอกคุณหนูหรือยังว่าช่วงนี้อย่าไปแถวชายป่านะคะ”
“ทำไมล่ะคะ” ร่างบางผละออกห่าง คิ้วเรียวขมวดมุ่นขณะมองหน้าคนพูด สีหน้าและท่าทางจริงจังขึ้นทันที หลังจากได้ยินประโยคนั้น
“ช่วงนี้สถานการณ์ระหว่างเหมืองเรากับเหมืองโน้นค่อนข้างตึงเครียดค่ะ อาทิตย์ที่แล้วคนงานก็เพิ่งมีเรื่องกัน”
“จริงเหรอคะ แล้วใครเริ่มก่อน” ปลายฝนถามต่ออย่างสนใจ แม้เรื่องการกระทบกระทั่งระหว่างสองเหมืองจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ทำไมยามนี้หัวใจของเธอร้อนรนแปลกๆ
“คราวนี้เป็นคนของเราค่ะคุณหนู เห็นว่าชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ผู้หญิงเป็นคนงานในรีสอร์ตของนายหัวสิงห์ค่ะ คนของเราข้ามเขตไปหา ก็เลยมีเรื่องชกต่อยกับคนของเขา นี่นายหัวก็เพิ่งเรียกมาเตือน ป้าก็เลยมาบอกคุณหนูไว้ค่ะ เพราะคุณหนูชอบไปเที่ยวที่ชายป่า” ป้าแย้มบอกอย่างห่วงใย โดยไม่รู้ว่าคุณหนูของนางเคยข้ามเขตไป และได้ประจันหน้ากับเจ้าของเหมืองฟากโน้นมาแล้ว ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุให้ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ปลายฝนแทบจะไม่กลับบ้านเลย
“ป้าแย้มไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะปลายจะไม่ไปที่นั่นอีกแล้ว”
“ได้ยินแบบนี้ป้าค่อยสบายใจหน่อย งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ เผื่อคุณหนูอยากเดินเล่นเงียบๆ ฝันดีค่ะคุณหนู”
“ป้าแย้มก็ฝันดีนะคะ”
ป้าแย้มผละไปดูความเรียบร้อยของบ้านต่อ ปล่อยให้คุณหนูมีความเป็นส่วนตัวตามเจตนารมณ์ แต่ทว่าเรื่องราวที่เพิ่งได้ยิน มันกลับทำให้หัวใจของปลายฝนว้าวุ่น เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มันคือการตอกย้ำความจริงว่า ไม่มีทางที่อาของเธอกับนายหัวสิงห์จะญาติดีกันได้
เช้านี้บรรยากาศในครัวสดใสเป็นพิเศษ เมื่อคุณหนูคนเล็กของบ้านเข้าครัวมาช่วยแม่ครัวและสาวใช้เตรียมอาหารเช้า ความช่างพูดช่างคุยและความน่ารักของปลายฝน ทำให้คนที่อยู่ในครัวต่างยิ้มแย้ม นานมากแล้วที่คุณหนูคนเล็กไม่ได้เข้าครัวด้วยตัวเอง ด้วยเพราะต้องไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ พอกลับมาก็มีทั้งป้าแย้มและพี่สาวอย่างปานระพีคอยดูแล แต่วันนี้เธอตั้งใจเข้าครัว เพื่อทำน้ำส้มคั้นให้กับพี่สาวทั้งสองที่กำลังท้องอยู่
มือบางเทน้ำส้มคั้นสดลงในเหยือกแก้วหลังจากเหยาะเกลือลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ เรียวปากอิ่มยิ้มแย้มกับผลงานของตัวเอง ทว่ารอยยิ้มนั้นก็หุบลงโดยพลัน เมื่อมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นที่หน้าบ้าน คล้ายกับเสียงคนกำลังทะเลาะกัน ปลายฝนจึงรีบล้างมือแล้วก้าวถี่ๆ ออกไปดู โดยมีป้าแย้มก้าวตามออกมาติดๆ
ภาพที่เห็นคือเก้ากับปานระพีและหัวหน้าคนงาน กำลังยืนเผชิญหน้ากับผู้ชายสามคนซึ่งล้วนแต่รูปร่างสูงใหญ่ และหนึ่งในสามคนนั้น ยืนเด่นหรา และดูทรงพลังกว่าใคร ที่สำคัญไปกว่านั้น หัวใจของปลายฝนกระตุกไหวแบบเต้นผิดจังหวะไปหมดในทันทีที่เห็นว่า ใครคนนั้นเป็นใคร