เผลอรัก(ฅนเถื่อน) ซีรีส์ชุดเพราะรักเกินห้ามใจ ลำดับที่๓

105.0K · จบแล้ว
เทียนธีรา
61
บท
43.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คนที่ผยองตัวอยู่เสมออย่างนายหัวสิงห์ไม่เคยยอมให้ใครมากระตุกหนวดได้ง่ายๆแม้แต่ดอกไม้ช่อเดียว ที่คนบังอาจมาเด็ดให้หลุดจากต้นในอาณาเขตของเขาคนเด็ดก็ต้องชดใช้ด้วยสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตสาวเธอจะต้องคลั่ง เธอจะต้องหิว เธอจะต้องลุ่มหลงในรสสวาทของเขาตลอดเวลาเธอจะต้องเรียกร้อง ครางคร่ำ และอ้อนวอนให้เขาปรนป้อนให้แต่เขาจะให้ก็ต่อเมื่อ เขามีความปรารถนาเท่านั้นนั่นคือบทลงโทษที่นายหัวสิงห์ตั้งใจจะมอบให้กับเด็กสาวขี้ขโมยเพราะนอกจากเธอจะย่องเข้ามาเด็ดดอกไม้ของเขาไปแล้วเธอยังมาเด็ดหัวใจของเขาติดมือไปด้วย***นิยายเรื่องนี้ไม่เน้นสาระ ไม่เน้นพล็อต โฟกัสที่ความรักความปรารถนาของพระนางเป็นหลัก เหมาะกับท่านที่ชอบอ่านแนวสบายๆ ฟินๆ โปรดโหลดตัวอย่างก่อนซื้อนะคะ***ซีรีส์ เพราะรักเกินห้ามใจ๑. มิวายรัก (ปานระพี-เก้า)๒. มิปองรัก (ปอไหม-ชาร์ล)๓. มิอาจห้ามใจรัก (อุมารินทร์-พาทิศ)๔. เผลอรัก (ปลายฝน-สิงห์)ฝากติดตามด้วยนะคะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบัน

๑.๑ เตือนความจำ

เตือนความจำ

“น้องปลายมีพัสดุมาส่ง”

ประโยคนั้นดังขึ้นจากคนดูแลหอพัก ในตอนที่เจ้าของชื่อเดินผ่านหน้าสำนักงานเพื่อจะขึ้นห้องของตัวเอง ทำให้ปลายฝนต้องแวะไปหาคนเรียกอย่างงงๆ

“จากไหนเหรอคะ”

“ไม่รู้สิ ด้านหน้ากล่องไม่ได้เขียนชื่อไว้”

“แล้วใครมาส่งคะ” ปลายฝนยังซักต่อขณะหลุบตามองกล่องสีแดงผูกโบสีขาว ซึ่งมันไม่น่าใช่พัสดุธรรมดาทั่วไป

“แมสเซนเจอร์น่ะ อาจจะเป็นของขวัญแสดงความยินดีกับการเรียนจบก็ได้นะ ปลายเอาขึ้นไปแกะดูสิ” เจ้าหน้าที่หอพักบอกยิ้มๆ จากนั้นก็นั่งลงทำงานต่อ ทำให้ปลายฝนต้องถือกล่องสีแดงนั้นขึ้นไปยังห้องของตัวเอง

ร่างบางทรุดตัวนั่งลงบนเตียง หลังจากวางกระเป๋าและชี้ตไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ส่วนกล่องสีแดงที่ถือขึ้นมาด้วยถูกวางไว้ข้างๆ ตัว คราแรกเธอว่าจะไม่สนใจ แต่ด้วยความสงสัยว่าใครเป็นคนส่งมา ทำให้ต้องวาดมือไปหยิบกล่องกล่องนั้นมาไว้บนตัก แล้วค่อยๆ แกะอย่างเบามือ เพราะเสียดายกระดาษและริบบิ้นที่คนห่ออุตส่าห์บรรจง

เทปที่ติดเชื่อมกระดาษสีแดงหลุดออกทีละอันๆ เธอเดาว่าคนที่ส่งของขวัญมาให้ น่าจะเป็นอาหรือพี่สาวคนใดคนหนึ่ง เพราะคนที่ใส่ใจเธอทุกรายละเอียดขนาดนี้ ก็คงมีแต่คนในครอบครัวเท่านั้น ตั้งแต่โตเป็นสาวจนตอนนี้อายุยี่สิบสองปีแล้ว เธอยังไม่เคยมีแฟนเลย แม้จะมีคนมาตามจีบหลายคนตั้งแต่เรียนมัธยมปลายกระทั่งเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ผู้ชายในวัยไล่เลี่ยกันเหล่านั้น กลับไม่มีใครทำให้หัวใจเธอเต้นแรงได้สักคน

วันนี้เป็นการสอบวันสุดท้าย ซึ่งก็น่าจะเป็นวันสุดท้ายของการเรียนในระดับปริญญาตรีด้วย โพรเจกต์และการสอบทุกวิชาที่ผ่านมา ปลายฝนมั่นใจว่าตัวเองผ่านหมด และอาของเธอเคยเปรยๆ ว่าหลังจากเรียนจบ อยากให้เธอกลับไปทำงานช่วยที่บ้าน แต่เธอก็ยังไม่พร้อมจะกลับไป ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่บอกใครไม่ได้

เมื่อประหวัดคิดไปถึงเรื่องที่ตัวเองพยายามลืมมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ปลายฝนก็รีบดึงสติตัวเองกลับมา แล้วหันไปสนใจของในกล่องของขวัญซึ่งวางอยู่ตรงหน้า มือบางหยิบฝากล่องเปิดออก เพื่อจะได้รู้เสียทีว่าของที่อยู่ข้างในเป็นอะไร

หัวใจเต้นแรงโลดขึ้น ในทันทีที่เห็นว่า สิ่งที่อยู่ข้างในกล่องนั้น คือดอกกล้วยไม้ทับแห้ง ที่แม้ว่ามันจะแห้งแล้ว แต่ปลายฝนกลับจำได้แม่นว่ามันคือ ช่อดอกกล้วยไม้ป่าสีขาวแซมม่วงช่อนั้น ช่อที่เธอข้ามเขตลำธารรีสอร์ตไปเก็บมัน แล้วโดนเจ้าของอาณาเขตอีกฝั่งจับได้

‘เธอกำลังทำตัวเป็นเด็กขี้ขโมย’

นั่นคือคำพูดของเจ้าของกล้วยไม้ ก่อนที่เขาจะลงโทษเด็กขี้ขโมยอย่างเธอ ด้วยการประกบปากลงจูบ แต่เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่จูบ เขาทำมากกว่านั้น เขาแตะต้องลูบโลมเธอแทบจะทุกส่วน โดยที่เธอไม่มีสติสัมปชัญญะและไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านเลย เธอยอมเขาอย่างง่ายดาย ยอมถึงขั้นที่แก่นกายแกร่งโชนใหญ่โตรุกลึกเข้ามา แม้จะไม่ได้เข้ามาทั้งหมด ทว่าเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ทำแบบนั้นกับความสาวของเธอ และหากว่าอาของเธอไม่มาตามเสียก่อน การล่วงล้ำของเขามันคงจะไม่หยุดอยู่แค่ครึ่งๆ กลางๆ อย่างนั้นแน่

ความลับเรื่องนี้ถูกเก็บงำมาตลอดหนึ่งปี เธอไม่เคยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง แม้แต่พี่สาวที่สนิทกันมากอย่างปอไหมก็ไม่เคยปริปากเล่า หลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้นเธอหนีกลับมากรุงเทพฯ ทันที และหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็อยู่กับความหวาดระแวงมาตลอด

ผู้ชายคนนั้นเคยมาดักรอที่หน้าหอพักสองสามครั้ง โชคดีที่เธอเห็นก่อนจึงหนีได้ทัน เธอไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขา เพราะนอกจากเขาจะเป็นคนที่พรากความสาวไปจากเธอแล้ว เขายังเป็นศัตรูของอา เธอไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับผู้ชายต้องห้ามแบบนั้น อีกอย่างเธอไม่รู้ว่าเขามีเมียหรือยัง ถ้ามีแล้ว นั่นเท่ากับว่าเธอเป็นชู้กับผัวชาวบ้าน แม้จะโดยไม่ตั้งใจก็ตาม

กริ๊งงง…

ร่างบางสะดุ้งเบาๆ แต่ก็ขอบคุณที่เสียงโทรศัพท์มือถือทำให้ตัวเองหลุดออกมาจากภวังค์ที่กำลังว้าวุ่นได้

“ว่าไงพี่ปอ” ปลายฝนพยายามทำเสียงร่าเริง หลังจากกดรับสายจากพี่สาว

“สอบเสร็จแล้วใช่มั้ย”

“เสร็จแล้ว วันนี้วันสุดท้ายเลย ว่าแต่พี่ปอถามทำไม จะส่งของขวัญมาแสดงความยินดีกับน้องเหรอ” เสียงหวานใสเอ่ยสัพยอก พร้อมกับชำเลืองมองดอกกล้วยไม้ทับแห้งอย่างเป็นอัตโนมัติ ก่อนจะรีบเบนสายตาหนี เพราะกลัวว่าดอกไม้ช่อนั้นจะทำให้ตัวเองวอกแวกอีก

“เอาไว้ประกาศผลสอบก่อนสิ ถ้าผ่านพี่ถึงจะให้ของขวัญ”

“ผ่านอยู่แล้ว รุ่นนี้แล้ว”

คำพูดซุกซนแกมขี้เล่นของน้องสาว ทำให้คนปลายสายยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ปอไหมรู้ดีว่าแม้น้องสาวจะไม่ใช่คนที่เรียนเก่งมาก แต่ก็มีความรับผิดชอบกับเรื่องการเรียนดีพอ

“งั้นเอาไว้กลับบ้านแล้วจะซื้อให้ ไปเลือกเองเลยจะได้ถูกใจ”

“ว้า แบบนี้ก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”

“จะอยากเซอร์ไพรส์อะไรนักหนาหือ ไม่ใช่เด็กแล้วนะเรา เรียนก็จบแล้ว อีกไม่กี่ปีก็น่าจะได้แต่งงาน”

“แต่งกับใครพี่ปอ ขนาดแฟนปลายยังไม่มีเลย”

“ก็ดูอย่างพี่สิ เคยมีแฟนที่ไหน มาทีเดียวก็มีผัวเลย” ปอไหมใช้คำตรงๆ กับน้องสาวเพราะสนิทสนมกันมาก การแต่งงานมีครอบครัวทำให้มุมมองชีวิตของปอไหมเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากพอสมควร

“ก็พี่ปอทั้งสวยทั้งน่ารัก ไม่ได้กะโปโลเหมือนปลาย”

“เราก็ไม่กะโปโลแล้ว ปีนี้เป็นสาวเต็มตัวเลยล่ะ อืม ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า พี่ว่าปลายดูมีน้ำมีนวลขึ้น นี่ถ้าพี่ไม่รู้จักปลายดีนะ ต้องคิดว่าปลายไปแอบเสียตัวมาแน่ๆ หรือว่าปลายแอบมีใครแล้วพี่ไม่รู้ สารภาพมาเดี๋ยวนี้”

คำถามของพี่สาวทำเอาปลายฝนหน้าร้อนผ่าว สิ่งที่เกิดขึ้นที่ชายป่าวันนั้นมันคือการเสียสาว แม้จะไม่ถึงขั้นสำเร็จลุล่วงแต่เธอก็ถูกล่วงล้ำ ถูกความเป็นชายสอดประสาน

“ไม่มีซะหน่อย อย่ามาปรักปรำน้องนะ น้องงอนจริงๆ ด้วย” ผู้ร้ายปากแข็งปฏิเสธทันควัน แถมยังแกล้งทำเสียงงอนๆ ใส่ เธอจะกล้ายอมรับได้ยังไงในเมื่อ...

“พี่ล้อเล่นน่า ว่าแต่สอบเสร็จแล้วจะทำอะไรต่อ”

“ก็คงพักแล้วก็หางานทำแหละ”

“แต่อาเก้าอยากให้ปลายกลับไปทำงานที่บ้านนะ” ปอไหมบอกคล้ายเตือนความจำ แต่ไม่ได้จะขู่เข็ญบังคับน้อง เพราะเธอเองก็เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน จึงเข้าใจดีว่านกน้อยอย่างปลายฝนก็คงยังไม่อยากกลับกรงทอง เหมือนกับที่เธอเคยเป็น

“ปลายก็อยากกลับไปช่วยอาเก้านะ แต่ปลายยังไม่พร้อม”

“พี่เข้าใจ แต่ยังไงเราก็ควรจะกลับไปคุยกับอาเก้าก่อน วันมะรืนพี่จะกลับบ้าน ปลายกลับพร้อมพี่นะ พี่ไม่มีเพื่อนกลับ”

“แล้วคุณชาร์ลล่ะคะ” คราวนี้ปลายฝนถามกลับอย่างสงสัย ปกติพี่เขยไม่เคยให้พี่สาวของเธอห่างตา และยิ่งตอนนี้ปอไหมท้องโต เขายิ่งไม่น่าจะปล่อยเมียไปไหนมาไหนคนเดียว

“คุณชาร์ลต้องบินด่วนไปต่างประเทศน่ะ”

“แหม คุณสามีไม่อยู่นี่เอง ก็เลยคิดถึงน้อง” ปลายฝนสัพยอกกลับไป แต่อดที่จะยิ้มกับตัวเองไม่ได้ เธอรู้ดีว่าพี่สาวมีความสุขมากจริงๆ แม้ปอไหมจะแต่งงานกับผู้ชายที่เป็นพ่อหม้ายและอายุห่างกันหลายปี ทว่าชาร์ลก็ยังหล่อเหลา แถมทั้งรักทั้งหวงปอไหมมาก จนใครต่อใครต่างก็พูดว่าปอไหมเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งจะว่าไปพี่สาวของเธอทั้งสองคนต่างก็ได้สามีแก่คราวอากันทั้งนั้น แล้วเธอเล่า เธอจะได้ลงเอยกับผู้ชายวัยไหน คำถามนั้นเกิดขึ้นพร้อมกับที่ใบหน้าหล่อเหลาดุดันของเจ้าของดอกกล้วยไม้แวบเข้ามาในสมองอีกครั้ง

“อย่ามาทำเป็นงอนพี่ สรุปว่ากลับกับพี่นะ พี่จะได้จองตั๋วเผื่อ”

“โอเคพี่ปอ กลับก็กลับ”

“งั้นวันมะรืนเจอกันที่สนามบิน”

“ค่ะ”