๑.๒ เตือนความจำ
วางสายจากพี่สาวแค่นั้น ก็เบนสายตาไปยังช่อดอกกล้วยไม้ทับแห้งอีกครั้ง ปลายฝนไม่รู้เจตนาของคนส่ง ว่าต้องการจะเตือนความจำเธอหรือเพื่อตอกย้ำให้เธอได้อาย แต่เขาจะทำเพื่ออะไร ในเมื่อเขาก็ไม่ได้สนใจเธอแล้ว เธอได้เจอเขาครั้งสุดท้ายในงานแต่งงานของปอไหมกับชาร์ล และหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ตอแยเธออีก
ก็แน่ล่ะ เขาจะมาสนใจทำไม ในเมื่อวันนั้นเขาควงสาวสวยมาด้วย
สาววัยยี่สิบสองครุ่นคิด พลางระบายลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะหยิบช่อดอกไม้เจ้าปัญหาขึ้นมาเพื่อจะเอาไปทิ้งให้มันจบๆ ทว่าพอเดินไปถึงถังขยะที่วางอยู่ข้างตู้เสื้อผ้า ความลังเลก็แล่นเข้ามาท่วมท้นหัวใจ ตาคู่สวยมองช่อดอกไม้ช่อนั้นที่ยังคงสภาพความงดงาม แม้จะไม่ได้สดเหมือนตอนที่ถูกเด็ดจากต้นใหม่ๆ แต่ทว่าเธอก็เป็นคนเด็ดมันมาจากต้นไม่ใช่หรือ แล้วทำไมจะทิ้งมันเสียเล่า
เธอโกรธเกลียดเจ้าของดอกไม้ก็จริง แต่ไม่ได้เกลียดดอกไม้ช่อนี้เสียหน่อย มันไม่ได้มีความผิดเลยสักนิด เพราะฉะนั้นมันจึงไม่สมควรจะโดนทิ้ง
บรรยากาศยามเย็นของคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่บนเกาะภูเก็ตเป็นไปอย่างอบอุ่น สมาชิกของบ้านอยู่กันพร้อมหน้า เมื่อชาร์ลที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ บินตามภรรยาสาวอย่างปอไหมมาทันทีที่รู้ว่าเธอกลับบ้าน
ก่อนรับประทานอาหารเย็น ชาร์ลและเก้าแยกตัวไปอาบน้ำ ส่วนปานระพีตัดดอกกุหลาบที่ปลูกอยู่ในแปลงมาจัดแจกัน โดยมีน้องน้อยอย่างปลายฝนคอยช่วย ส่วนปอไหมนั่งเป็นกำลังใจ เพราะไม่มีฝีมือและไม่ถนัดงานด้านนี้
“กุหลาบดอกโตมากเลยพี่ป่าน นี่พี่ป่านปลูกเองทั้งหมดเลยเหรอคะ” ปลายฝนถามพลางใช้กรรไกรตัดกิ่งในมือ เล็มหนามกุหลาบออกจากก้านก่อนจะส่งให้พี่สาว
“จ้ะ ปลูกเองหมดเลย แต่หลังจากคลอดแล้ว คงไม่มีใครช่วยดูแลดอกไม้พวกนี้ ปลายกลับมาช่วยพี่นะ” ปานระพีพูดยิ้มๆ มือบางวางบนท้องที่โตขึ้นตามอายุครรภ์
“ขอเวลาปลายอีกนิดไม่ได้เหรอคะพี่ป่าน”
“ทำไมล่ะ เห็นปลายบ่นอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่เหรอว่าเบื่อกรุงเทพฯ”
“ปลายไม่อยากห่างแฟนน่ะพี่ป่าน” คนตอบไม่ใช่ปลายฝนแต่เป็นปอไหมที่แทรกขึ้น แล้วอมยิ้มเมื่อน้องสาวคนเล็กทำสีหน้าเดือดเนื้อร้อนใจ
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ปลายมีแฟนซะที่ไหนล่ะ พี่ปออ่ะปรักปรำปลายอีกแล้ว”
“ใครจะรู้ เราอาจแอบมีโดยไม่บอกพี่ก็ได้” ปอไหมย้ำคำถามเช่นเดียวกับตอนที่โทรศัพท์คุยกัน
“ยังไม่มีจริงๆ” ปลายฝนยืนยันหนักแน่น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้พี่สาวคนรองคลายข้อสงสัยในตัวเธอได้
“แล้วไอ้ที่หนีไปค้างกับพี่บ่อยๆ ไม่ใช่งอนแฟนเหรอ”
“ไม่ใช่ซะหน่อย อีกอย่างถ้าปลายไม่ทำแบบนั้น ปลายจะรู้เหรอว่าพี่ปอแอบมีคุณชาร์ล แอบกินเงียบๆ แบบไม่คิดจะบอกปลายหรือบอกพี่ป่านด้วยสิ” คราวนี้ปลายฝนได้ทีล้อเลียนพี่สาวคืนบ้าง ทำให้ปอไหมหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขิน
“เรานี่มันแสบจริงๆ เลย ชอบไปแอบรู้ความลับคนโน้นคนนี้” ปอไหมหมายถึงเรื่องที่ปลายฝนเคยโทร.ไปหาตัวเองกลางดึก เพราะบังเอิญไปได้ยินเสียงครางของพี่สาวคนโตอย่างปานระพีตอนที่แอบมีสัมพันธ์สวาทกับอาเก้า
“ทำไงได้ ก็พี่ๆ ชอบมีความลับกับน้องเอง แอบมีแฟนก็ไม่ยอมบอก ต้องให้น้องไปรู้ไปเห็นเอง”
“แปลว่าอะไรเหรอปลาย ปลายบอกว่าพี่ๆ แสดงว่ารวมพี่ด้วยใช่มั้ย” คราวนี้ปานระพีที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ อยู่พักหนึ่งแทรกขึ้นบ้าง เพราะรู้สึกว่าตัวเองโดนพาดพิง
“เอ่อ...” ทั้งปอไหมและปลายฝนต่างก็อ้ำอึ้ง ทำให้ปานระพีมั่นใจว่าน้องสาวล่วงรู้เรื่องน่าอายของตัวเองแน่ๆ
“ที่ไหน เมื่อไหร่ สารภาพมาเลยนะ”
“ปลายขอโทษนะคะพี่ป่าน ปลายไม่ได้ตั้งใจจะไปแอบฟังเลย คืนนั้นปลายนอนไม่หลับ ก็เลยว่าจะไปชวนพี่ป่านคุย จะถามพี่ป่านน่ะค่ะว่าไปงานเลี้ยงรุ่นมาเป็นยังไงบ้าง ก็เลยบังเอิญไปได้ยินเสียงพี่ป่านกับอาเก้า คือ...ปลายแค่ตกใจ เพราะไม่รู้ว่าพี่ป่านกับอาเก้าชอบกันตอนไหน ก็เลยโทร.ไปเล่าให้พี่ปอฟัง”
“น่าตีทั้งพี่ทั้งน้องเลยนั่นแหละ พี่ขายหน้าจะแย่แล้วเนี่ย”
“ไม่เห็นมีอะไรน่าขายหน้าเลยค่ะพี่ป่าน คนรักกันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะอยากผูกพันลึกซึ้ง” ปลายฝนพูดเหมือนเข้าใจธรรมชาติของชายหญิง ทั้งที่ความจริงแล้วเธอเองก็ยังไม่ชินกับเรื่องพวกนี้ แม้จะเคยผ่านประสบการณ์แบบนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็เป็นแบบครึ่งๆ กลางๆ อีกทั้งประสบการณ์ที่เกิดขึ้น มันก็ไม่ได้เกิดจากความรัก
“ตอนนั้นอาเก้ากับพี่ยังไม่ได้รักกันหรอก”
“แล้วทำไม...”
“อาเก้าเขาโกรธที่พี่ไปงานเลี้ยงแล้วไม่ยอมบอกก่อน เราทะเลาะกันแล้วมันก็เลยเลยเถิด” ปานระพีอธิบายแต่พวงแก้มแต้มไปด้วยริ้วสีแดงระเรื่อ ด้วยไม่คิดว่าน้องสาวจะได้ยินเสียงที่น่าอายนั้นเล็ดลอดออกมาจากห้องตัวเอง
“อาเก้าโมโหหึงต่างหากค่ะ ช่วงนั้นปลายจำได้ว่าพี่ป่านฮอตมาก มีหนุ่มๆ ตามจีบหลายคน อาเก้าคงกลัวว่าพี่ป่านจะชอบคนอื่น ก็เลยรีบตีตราจอง”
“เรานี่นะ เข้าใจทุกคนไปหมด พี่อยากจะรู้จังเลยว่าผู้ชายคนไหนจะโชคดีได้ปลายเป็นแฟน” ปานระพีมองและยกมือขึ้นขยี้ผมน้องสาวคนเล็กอย่างอ่อนโยน
“ปอว่าผู้ชายคนนั้นต้องโชคร้ายมากต่างหากพี่ป่าน” ปอไหมแม้จะพูดเหมือนกัดจิกน้อง แต่สีหน้ากลับยิ้มแย้ม
“ไม่มีผู้ชายคนไหนโชคดีหรือโชคร้ายหรอกค่ะ เพราะปลายจะไม่ยอมมีแฟนง่ายๆ ปลายจะอยู่เป็นโสดให้ทุกคนเลี้ยงแบบนี้แหละ” พูดฉอเลาะเสร็จก็โอบเอวพี่สาวคนโตทีคนรองที ซึ่งการเป็นคนช่างอ้อนเช่นนั้น ก็ทำให้ทั้งปานระพีและปอไหมอดส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูไม่ได้