บทที่ 4 ชายในฝัน
และคืนนั้นปิ่นมุกก็นอนฝันร้ายทั้งคืน ฝันว่าผู้ชายคนนั้นตามมาหาที่บ้านพร้อมกับลูกน้องหลายคน และลงมือทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น ชักปืนออกมายิงจนทำให้เธอสะดุ้งตื่น
“ไม่!!”
เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นตามใบหน้า นี่เธอกลัวจนถึงขั้นเก็บมาฝันเลยหรอ ในฝันมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน เขาทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น แถมยังชักปืนออกมายิงอีก
“มันก็แค่ความฝันน่า” เธอปลอบใจตัวเองไม่ให้คิดมาก เขาคงไม่คิดอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอหรอก ก็แค่คิดมากไปเอง
ปิ่นมุกยกมือปาดเหงื่ออกจากใบหน้าแล้วล้มหัวลงนอนอีกครั้ง ปรากฏว่านอนไม่หลับ ร่างเล็กนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียงจนเกิดความหงุดหงิด เพราะใบหน้าของผู้ชายคนนั้นคอยตามหลอกหลอนไม่หยุด
หญิงสาวตัดสินใจวาดขาลงจากเตียง เดินลงไปยังชั้นล่างของบ้าน ไหนๆก็นอนไม่หลับแล้ว งั้นก็ลงไปซักผ้าเลยละกันเพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเช้าแล้ว และในจังหวะที่เธอกำลังหอบเอาตะกร้าเสื้อผ้าไปยังโซนซักล้าง จู่ๆก็เดินไปชนเข้ากับใครบางคนอย่างแรงจนเสื้อผ้าหล่นจากตะกร้า
ปึก!
“ว้าย!!”
“ขอโทษนะครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงนั้นดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามืออุ่นๆกอดเข้าที่เอว “น้องปิ่น!!”
“พะ...พี่เปรม!” ปิ่นมุกตกใจ อ้าปากค้าง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลสั่นระริก มือไม้อ่อนแรงจนเผลอปล่อยตะกร้าเสื้อผ้า
ผู้ชายคนนี้...คือคนที่เธอรอคอยมานานแสนนาน เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่?
“น้องปิ่นจริงๆด้วย” ปุณวิชญยิ้มกว้างด้วยความดีใจ กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
“พะ...พี่มาเปรม...เอ่อ...มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” ปิ่นมุกพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ดีใจจนเก็บอาการไว้แทบไม่อยู่ กระทั้งปุณวิชญ์ปล่อยร่างของเธอให้เป็นอิสระ
“พี่มาถึงเมื่อช่วงหัวค่ำ เห็นคุณพ่อบอกว่าน้องปิ่นออกไปทำงาน” สายตาคมกริบเอาแต่จับจ้องหน้างาม หลายปีที่ไม่ได้เจอกัน เธอดูโตขึ้น รูปร่างอวบอัดซ่อนอยู่ภายใต้ชุดนอน แต่ก็ซ่อนบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ไว้แทบไม่มิด แค่ประเมินจากสายตาก็พอจะรู้ว่าเธอเป็นคนซ่อนรูปพอสมควร แต่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั่นก็คือความสวย เธอสวยหมดจดจนหยุดมองไม่ได้
กาลเวลาเปลี่ยนแปลงเด็กหญิงให้เติบโตเป็นเด็กสาวสวยสะพรั่งทั้งๆที่เพิ่งแตกเนื้อสาว
ปิ่นมุกสวยขนาดนี้เลยหรอ?
“อ่าว ไหนคุณท่านบอกว่าพี่จะกลับอาทิตย์หน้า”
“พอดีคุณแม่พี่โทรมาบอกว่ามีเรื่องด่วน พี่ก็เลยบินกลับทันที” ปุณวิชญ์ก้มลงเก็บเสื้อผ้าใส่ตะกร้าให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน จนปิ่นมุกเผลอจิกเท้าลงบนพื้นเพราะเขิน
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนอ่อนโยนเท่าปุณวิชญ์มาก่อน
“ขะ...ขอบคุณค่ะพี่เปรม”
“น้องปิ่นจะไปซักผ้าหรอครับ”
“ค่ะ พอดีปิ่นนอนไม่หลับ แล้วพี่เปรม...เอ่อ...ไม่นอนหรอคะ”
“พี่ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน สงสัยอยู่ยุโรปนานเกินไป คงอีกสักพักถึงจะปรับตัวได้”
“ปิ่นดีใจนะคะที่พี่กลับมา คุณท่านบ่นคิดถึงพี่ทุกวันเลย”
“คนที่ท่านคิดถึง....คงไม่ใช่พี่หรอก” เขาส่งยิ้มอ่อนโยน ยกมือลูบศีรษะเล็กทุยเบาๆ ทำเอาคนตัวเล็กแทบละลายลงตรงนั้น ถ้าไม่ติดว่าต้องเก็บอาการ เธอคงกรี๊ดไปแล้ว “เอาผ้าไปซักได้แล้ว เดี๋ยวพี่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นนะ”
“คะ...ค่ะพี่เปรม”
ปิ่นมุกเผลอกอดตะกร้าไว้แน่น มองร่างสูงที่ค่อยๆหันหลังเดินออกไป เธอแอบชอบผู้ชายคนนี้มานานมากแต่ไม่มีใครรู้
ตอนเด็กๆแม่ของเธอมักจะพามาที่คฤหาสน์บ่อยๆจนได้เจอกับปุณวิชญ์ ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากคำว่าพี่ชาย พอโตขึ้นความรู้สึกนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
รู้ดีว่าไม่ควรรู้สึกเพราะปุณวิชญ์อยู่สูงเกินเอื้อม เธอเป็นแค่ผู้หญิงที่อยู่ในความอุปการะของประมุขในคฤหาสน์ ไม่มีอะไรคู่ควรเลยสักนิด และเธอก็ได้ยินคุณหญิงพูดว่ามีผู้หญิงเข้ามาขายขนมจีบไม่ซ้ำหน้า ทั้งไฮโซ เซเลป รวมไปถึงผู้หญิงในวงการบันเทิง แล้วเธอล่ะ ไม่มีอะไรเทียบได้เลย
เขาคงอยู่สูงเกินไปสำหรับเธอ ก็ได้แต่หวังว่าสักวันปุณวิชญ์จะชายตามองผู้หญิงธรรมดาๆคนนี้บ้าง ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนรอผู้ชายแค่คนเดียวได้นานขนาดนี้หรอก รอทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะมีสักเศษเสี้ยวหัวใจให้เธอบ้างหรือเปล่า
หลังซักผ้าเสร็จปิ่นมุกก็รีบเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะปุณวิชญ์รออยู่ที่ห้องนั่งเล่น เธอไม่อยากให้เขารอนาน
แต่แล้วปิ่นมุกก็ต้องเจอกับความผิดหวังเพราะในห้องนั่งเล่นไม่ได้มีแค่ปุณวิชญ์ แต่มีไฮโซสาวท่านหนึ่งนามว่า ‘จันทิมา’ แฟนเก่าของปุณวิชญ์นั่งอยู่ด้วย
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอ ก้มลงมองตัวเองแล้วก็อดสมเพชไม่ได้ เธอกับคุณจันทิมาช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ทำให้เธอเลือกที่จะหันหลังกลับ ปล่อยให้เขาอยู่กับคนที่เหมาะสมจะดีกว่า
“จะไปไหนครับน้องปิ่น” น้ำเสียงอันแสนคุ้นเคยดังขึ้น ปิ่นมุกที่กำลังจะเดินกลับห้องชะงักเท้า หมุนตัวกลับมา เห็นจันทิมาจ้องอยู่
“ปะ...ปิ่นกำลังจะกลับขึ้นห้องค่ะ พอดีเห็นว่าพี่เปรม...เอ่อ....มีแขก”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ลูกจันทร์เขาก็แค่มาเยี่ยมพี่ในฐานะ...คนรู้จัก” ประโยคหลังทำให้จันทิมากำหมัดแน่น ตวัดตามองปิ่นมุกอย่างไม่พอใจที่เข้ามาขัดจังหวะ เพราะหล่อนกำลังจะง้อปุณวิชญ์ “ปิ่นจำพี่ลูกจันทร์ได้ไหม”
“จะ...จำค่ะ สวัสดีค่ะคุณจันทิมา” ปิ่นมุกยกมือไหว้จันทิมาอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน จันทิมารับไหว้ กวาดตาสำรวจทั่วเรือนร่างของเธอ
“น้องปิ่นโตขนาดนี้แล้วหรอ เมื่อก่อนยังเห็นเดินตามคุณเปรมอยู่เลย” ประโยคหลังหล่อนจิกปิ่นมุก เพราะรู้ดีกว่าผู้หญิงคนนี้คิดอย่างไรกับอดีตแฟนหนุ่มของหล่อน “นั่งลงก่อนสิ ไม่ต้องเกรงใจหรอก พี่ก็แค่ตามมาง้อคุณเปรมน่ะ”
จันทิมาแสยะยิ้มมุมปาก สายตาดุจัดตวัดมองหน้าปิ่นมุกจนหญิงสาวขนลุกซู่ เหมือนเป็นการเชิญชวนแต่ลึกๆไม่ได้เต็มใจให้เธออยู่ตรงนั้น
ปิ่นมุกรู้ตัวดีว่ากำลังเป็นมารขัดขวางความสุข เธอจึงเลือกที่จะไปจากตรงนั้น แม้ลึกๆจะเจ็บปวดหัวใจก็ตาม ยังไงปุณวิชญ์ก็ต้องเลือกผู้หญิงที่คู่ควรอย่างจันทิมาอยู่แล้ว ส่วนคนอย่างเธอก็ทำได้แค่แอบรักข้างเดียวต่อไป
“เอ่อ...ปิ่นเพิ่งนึกได้ว่าต้องไปทำอาหารเช้าให้คุณท่านค่ะ เชิญคุณเปรมกับคุณจันทิมาตามสบายเลยนะคะ”
ปุณวิชญ์กรอกตามองบนอย่างหัวเสีย เขานั่งรอปิ่นมุก ไม่ได้นั่งรอจันทิมา สงสัยแม่ของเขาคงโทรไปบอกหล่อนว่าเขากลับมาถึงเมืองไทยแล้ว ถึงได้ถ่อมาหาที่บ้านตั้งแต่เช้าตรู่
สายตาอาลัยที่มองแต่ปิ่นมุกทำให้จันทิมาขบกราม หรือเหตุผลที่ปุณวิชญ์ไม่ยอมคืนดีเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้!