บทที่ 3 ผู้ชายคนเมื่อวาน!
@วันถัดมา
และคืนนี้ปิ่นมุกก็มาทำงานเหมือนปกติ แต่วันนี้ลูกค้าค่อนข้างแน่นกว่าทุกวัน ทำให้พนักงานเสิร์ฟไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เพราะมันมีทั้งลูกค้าวีไอพีและลูกค้าที่ต้องการพนักงานเข้าไปบริการในห้องส่วนตัว
“วันนี้พนักงานเสิร์ฟไม่พอเลยอ่ะพี่ ผมอยากจะขอแรงหลังบ้านสักสองสามคนหน่อยได้ไหม” เสียงอ้อนวอนของหัวหน้าพนักงานเสิร์ฟพูดขึ้น กวาดตามองหาว่าที่พนักงานเสิร์ฟชั่วคราว จนกระทั่งสายตาไปปะทะเข้ากับร่างเล็กที่กำลังจัดเตรียมออเดอร์ให้ลูกค้า “งั้นผมขอยืมตัวเด็กคนที่กำลังจัดออเดอร์ได้ไหม”
“ได้สิ ตามสบายเลย ช่วงนี้งานครัวไม่ค่อยหนักเท่างานบาร์” แล้วหัวหน้าแผนกหลังบ้านก็หันไปเรียกหญิงสาวที่กำลังนำออเดอร์ไปส่งให้พนักงานเสิร์ฟ “น้อง! พี่อยากจะขอแรงไปช่วยฝ่ายเสิร์ฟหน่อยได้ไหมจ้ะ วันนี้ลูกค้าล้นจนพนักงานหัวหมุนไปหมดแล้ว”
“หนูหรอคะ?” เธอชี้เข้ามาที่ตัวเอง
“ใช่จ้ะ พอดีแขกวีไอพีชั้นบนต้องการพนักงานชงเหล้า พี่เห็นว่าแผนกของเราน้องปิ่นหน้าตาดีที่สุด ห้องนั้นมีแต่พวกกระเป๋าหนักกันทั้งนั้นเลยนะ” ประโยคหลังหล่อนยื่นหน้าเข้าไปกระซิบปิ่นมุก
“แต่ปิ่นดื่มเหล้าไม่เป็นนะคะ อีกอย่างปิ่นเพิ่งจะ 19 เอง”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า พี่ขอแค่วันเดียว เดี๋ยวพี่จะให้คนอื่นมาจัดออเดอร์แทน”
หลังจากนั้นปิ่นมุกก็ถูกพาตัวไปยังชั้นสองของตึกซึ่งเป็นชั้นสำหรับนักดื่มวีไอพีเพราะชั้นแรกชั้นแรกค่อนข้างวุ่นวาย ซึ่งห้องวีไอพีมีทั้งหมดเกือบยี่สิบห้อง ส่วนมากแขกที่มาใช้บริการเป็นพวกกระเป๋าหนัก เหล่าดาราและบรรดาเซเลปทั้งหลาย
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็พบกับกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังปาร์ตี้มั่วสุมกันอยู่ ทั้งกลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่คละคลุ้งเต็มห้องจนหญิงสาวแทบสำลัก เธอไม่ค่อยถูกกับกลิ่นบุหรี่เท่าไหร่แต่ก็ต้องทำตามหน้าที่
นี่ถ้าคุณท่านรู้ว่าเธอแอบมาทำอะไรแบบนี้ ท่านต้องดุแน่ๆ
กลุ่มคนพวกนี้คนข้างน่ากลัว เหมือนมีรัศมีความน่าเกรงขามอบอวลอยู่รอบๆตัวของพวกเขา โชคดีที่ไม่ใครสนใจเธอเลยเพราะพวกเขากำลังคุยเรื่องธุรกิจกัน มีผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งประกบข้างแทบทุกคน จะมีก็แค่ผู้ชายที่กำลังนั่งหันหลังนี่แหละที่โซโล่อยู่คนเดียว
ว่าแต่...แผ่นหลังของผู้ชายคนนี้ดูคุ้นๆจังเลยนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทรงผมแบบนี้ รูปร่างแบบนี้ ดูคุ้นๆยังไงก็ไม่รู้
จังหวะนั้นปิ่นมุกค่อยๆเดินเข้าไปรินเหล้าให้ลูกค้าอย่างระมัดระวัง มือไม้ก็สั่น วารีรินบอกว่าลูกค้าวีไอพีในห้องนี้ชอบดื่มเหล้านอก ซึ่งราคาแต่ละขวดแทบซื้อรถยนต์ได้
ฟู้วววว~
ในระหว่างที่เธอกำลังย่อตัวลง ยื่นแก้วเหล้าให้ลูกค้า เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายชุดดำเอี้ยวตัวมาพ่นควันบุหรี่ ทำให้โดนหน้าของเธอไปเต็มๆจนเผลอสำลัก
“อุ๊บ!! แค่ก! แค่ก!”
“เฮ้! นี่มึงไปพ่นควันใส่หน้าน้องเขาทำไมวะ ดูสิ น้องเขาสำลักจนหน้าแดกแล้ว” ชายหนึ่งในนั้นพูดด้วยความตลกขบขัน พร้อมกับเสียงหัวเราะของคนบนโต๊ะ ทำให้ปิ่นมุกถึงกับหน้าเสียเพราะโดนพวกคนรวยดูถูก แต่เธอก็ต้องกัดฟันข่มอารมณ์เอาไว้ “ให้ค่าทำขวัญน้องเขาสิวะ เดี๋ยวน้องก็เป็นมะเร็งปอดตายหรอก”
กร๊อด!
ปิ่นมุกกันฟันกร๊อดกับคำพูดดูถูกดูแคลนของคนกลุ่มนี้ รวยแล้วจะพูดอะไรให้ใครก็ได้งั้นหรอ คนพวกนี้ก็คงทำได้แค่ใช้เงินฟาดหัวคนอื่นเท่านั้นแหละ!
ถึงแม้จะรู้สึกไม่พอใจกับคำพูด แต่เธอก็ต้องปั้นหน้ายิ้มต่อไปเพราะไม่อยากเสียงาน ยื่นมือไปคว้าแก้วเหล้าของชายชุดดำที่นั่งหันหลังให้ และเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันหน้ากลับมามองพอดี ทำให้เธอเผลอสบตาผู้ชายคนนั้นเข้าอย่างจังจนแก้วเหล้าเกือบหลุดมือ
นี่มันผู้ชายคนที่เกือบขับรถชนเมื่อวานนิ!
จู่ๆปิ่นมุกก็รู้สึกกลัวจนร่างสั่น เขาจ้องตาเธอด้วยสายตาคมกริบ ใบหน้าอยู่ห่างแค่คืบ ว่าแต่เขาจะฆ่าเธอหรือเปล่า
“ไง....เอาทริปให้น้องเขาสิ”
เขาไม่ตอบ ดึงแก้วเหล้าออกจากมือของเธอที่กำลังยืนทำหน้าเหว่อ กระดกพร๊วดเดียวจนหมดแก้ว แล้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงจนร่างเล็กสะดุ้ง
หัวใจของปิ่นมุกเต้นรั่วสนั่นเหมือนกลอง ทั้งกลัว ทั้งอยากหนีออกไปจากตรงนี้ ไม่คิดว่าโลกจะกลมถึงขั้นมาเจอผู้ชายที่เกือบขับรถชนเมื่อวาน!
“อยากได้ทริปหรอ” เขาถามเสียบเรียบ แต่น้ำเสียงเย็นเยือกบาดใจคนฟัง
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“หรืออยากได้ค่าทำขวัญ”
“ระ...เรื่องนั้นฉันลืมมันไปแล้วค่ะ” เธอรีบก้มหน้างุด หลบสายตาดุ
“เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ลืมง่ายขนาดนี้เลยหรอ”
“กะ...ก็ฉันไม่อยากมีปัญหากับคุณไงคะ เรื่องทริปฉันไม่อยากได้หรอก คุณเก็บเอาไว้ให้คนอื่นเถอะค่ะ” เธอพูดโดยไม่สบตาอีกฝ่ายเพราะกลัว
“ฉันก็ไม่ได้กะจะให้ทริปพวกสิบแปดมงกุฎอย่างเธออยู่แล้ว ไม่ยักจะรู้นะว่าเธอทำงานอยู่ที่นี่”
“ฉะ...ฉันแค่มาทำงานเสริมค่ะ พอมหาลัยเปิดก็จะเลิกทำแล้ว”
“อ้อ ที่แท้ก็ยังเป็นแค่เด็กมหาลัย”
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก ที่แท้ยัยสิบแปดมงกุฎก็ทำงานอยู่ที่นี่เอง เขามาที่นี่บ่อย แต่ทำไมถึงไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้เลย
ที่น่าแปลกก็คือยิ่งมอง....ยิ่งคุ้น
เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อนแต่ก็จำไม่ได้