บทที่ 13 เตือนครั้งสุดท้าย
@หลายวันต่อมา
“เป็นไงบ้างปิ่นมุก เจอเจ้าปายบ้างไหม” โกศลถามด้วยน้ำเสียงค่อนไปทางอารมณ์ดี ต่างจากอีกฝ่ายที่เอาแต่ทำหน้าเศร้า เพราะยังไม่มีวี่แววว่าจะพาปริยภัทรกลับมาที่นี่ได้ยังไง “อย่าคิดมากเลยนะ ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ เจ้าปายมันก็เป็นแบบนี้แหละ คงต้องใช้เวลาสักพัก”
“ตะ...แต่เขาขู่ปิ่นตลอดเลยค่ะ”
“ฟังคำของฉันไว้นะ ถ้าคนจะทำจริงๆ มันไม่ขู่หรอก” โกศลลูบแผ่นหลังเล็กเพื่อให้กำลังใจ คิดว่ายังไงปิ่นมุกก็ต้องพาปริยภัทรกลับมาที่นี่ให้ได้ เขาเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง “อย่าทำหน้าหนักใจแบบนั้นสิ วันพระไม่ได้มีหนเดียวน่า”
“ปิ่นกลัวทำงานนี้ไม่สำเร็จค่ะ ถ้าปิ่นทำให้คุณท่านไม่ได้....คะ...คุณท่านจะโกรธไหมคะ”
“อย่าเพิ่งถอดใจสิ ฉันเชื่อว่าเธอทำได้” เขาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจกับความสามารถของอีกฝ่าย “รู้ไหมว่าต้องทำยังไง”
“ทำยังไงหรอคะ” ปิ่นมุกเงยหน้าขึ้นสบตากับโกศล และคำตอบนั้นทำเอาหญิงสาวแทบหยุดหายใจ
“ทำให้เจ้าปายมันรักสิ”
“วะ...ว่าไงนะคะ!!”
“ทำให้มันรักไม่ใช่เรื่องง่าย เธอเองก็ไม่ใช่คนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อะไร คิดหรอว่าถ้าเจอกันบ่อยๆแล้วอีกฝ่ายจะไม่หวั่นไหว”
“ตะ...แต่คุณท่านคะ สิ่งที่คุณท่านพูดมามันแทบเป็นไปไม่ได้เลยนะคะ อย่างคุณปริยภัทรนี่หรอจะสนใจปิ่น อีกอย่าง....ปิ่นมีคนที่ชอบอยู่แล้วค่ะ”
บ้าที่สุด! คุณท่านชักจะคิดอะไรพิเรนท์ๆเข้าทุกวัน แค่เห็นหน้าเฉยๆเขาก็แทบจะบีบคอเธอให้ตายอยู่แล้ว เธอไม่ชอบขี้หน้าเขา ส่วนเขาเองก็ไม่ชอบขี้หน้าเธอเหมือนกัน คงไม่มีทางรักกันได้หรอก ต่อให้เขาจะหล่อเลาเหมือนเทพบุตรก็เถอะ แต่เธอมีคนของใจอยู่แล้วนั่นก็คือปุณวิชญ์
ภารกิจนี้ชักจะไปกันใหญ่แล้ว นี่มันเกินความคาดหมายที่เคยคิดไว้เสียอีก
“ทำเพื่อฉันไม่ได้หรอปิ่นมุก การทำให้ปายรักนั้นไม่ยากเลย....ถ้าเธอทำด้วยใจ”
“ปิ่นไม่เชื่อหรอกค่ะว่าเขาจะรักปิ่น บางทีเขาอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้ใครจะไปรู้ ปิ่นไม่อยากไปล้อเล่นกับความรู้สึกของใคร โดยเฉพาะความรู้สึกของคนที่ปิ่นเคยรู้จัก”
“อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้” โกศลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หันหน้ามาทางปิ่นมุกพร้อมรอยยิ้มที่แลดูมั่นอกมั่นใจในตัวของอีกฝ่าย เพราะความหวังเดียวในตอนนี้ก็คือปิ่นมุก “บางคนเก็บความรู้สึกเก่งยิ่งกว่าอะไร เพราะงั้น....ทำให้มันรักซะ!”
“เฮ้อ!” ปิ่นมุกนั่งถอนหายใจอยู่ที่ส่วนสาธารณะติดกับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
ทำให้ปริยภัทรรักงั้นหรอ บ้าไปแล้ว! แค่คิดก็ขนลุก เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้นเลย แม้กระทั่งหน้าก็ไม่อยากเจอ ถ้าไม่ติดว่าต้องมาทำภารกิจบ้าๆนี่ อย่าหวังเลยว่าเธอกับเขาจะเจอหน้ากัน
แต่ก็เอาเถอะ....ในเมื่อมันเป็นความประสงค์ของคุณท่านก็จะลองดูอีกสักตั้ง เพราะถึงอย่างไรปริยภัทรก็ไม่มีทางชอบเด็กกะโปโลอย่างเธอหรอก
ในระหว่างที่เธอกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จู่ๆก็เห็นปริยภัทรกับลูกน้องประมาณห้านายเดินลงมาจากด้านหลังของห้างสรรพสินค้าแล้วตรงไปยังรถตู้ที่จอดรออยู่ริมถนน ท่าทางของเขาดูรีบร้อนแปลกๆ กระทั่งรถตู้คันนั้นขับออกไป ด้วยความอยากรู้ว่าเขาจะไปไหน ปิ่นมุกรีบวิ่งไปยังมอเตอร์ไซต์คันเก่าคู่ใจที่จอดอยู่ใกล้ๆแล้วขับออกไปจากสวนสาธารณะทันที
“นายครับ มีคนขับรถตามเรามา”
เสียงเรียกของคนขับรถทำให้ปริยภัทรรีบละสายตาจากหน้าจอมือถือ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตรึงเครียดหันไปมองด้านหลัง เห็นมอเตอร์ไซต์ขับตามมา ประเมินจากสายตาแล้ว คนขับน่าจะเป็นผู้หญิง
มือใหญ่กำเข้าหากันจนเส้นเลือดปูดนูน อยู่ดีไม่ว่าดี เธอรนหาที่เองนะ!
“ขับไปจนถึงที่หมาย อย่าให้คนขับรู้ตัวเด็ดขาดเพราะฉัน...จะจับงูเห่าตัวนี้!"
รถตู้สุดหรูเลี้ยวเข้าไปในซอยแคบๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยป่ารกทึบจนคนที่แอบตามมาเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี บริเวณนี้ไม่มีสัญญาณมือถือด้วยสิ นี่ถ้าเป็นอะไรไปจะโทรบอกให้ปุณวิชญ์มาช่วยยังไง แต่เอาเถอะ ขับต่อไปอีกสักนิดละกัน ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลค่อยเลี้ยวรถกลับ
ปิ่นมุกแอบขับตามมาเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นรถตู้จอดอยู่ที่หน้าโกดังร้างกลางป่า พอชะเง้อคอมองก็ไม่เห็นใครอยู่บนรถแล้ว สงสัยคงเข้าไปข้างในกันหมด เธอจอดรถมอเตอร์ไซต์ไว้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เว้นระยะห่างพอสมควรเผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้วิ่งหนีทัน
ร่างเล็กค่อยๆลัดเลาะตามแนวป่า อ้อมไปอีกฝั่งเพื่อไปดูให้แน่ใจว่าปริยภัทรมาทำอะไรที่นี่ หัวใจเต้นระทึกเข้าไปทุกที เหมือนแอบตามพวกมาเฟียยังไงก็ไม่รู้ แต่แล้วดวงตากลมโตก็ไปสะดุดเข้ากับลังไม้ขนาดใหญ่จำนวนหลายลังวางซ้อนกันเต็มโกดัง
เมื่อเห็นท่าไม่ดีก็เริ่มรู้ตัวว่าไม่ควรไปต่อ เพราะลังที่เห็นอาจจะเป็นยาเสพติดก็ได้ เท้าเล็กรีบก้าวถอยหลังเพื่อออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด แต่ทันใดนั้นแผ่นหลังก็ไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายแผ่นหน้าอกคน
ปึก!
ปิ่นมุกเบิกตาโพลง แต่ยังไม่กล้าหันหน้ากลับไป และกลิ่นน้ำหอมนี้ก็เป็นกลิ่นที่เธอจำได้ดี ร่างเล็กเริ่มสั่นระริกเพราะกลัว หากปริยภัทรเป็นพ่อค้ายาเสพติดจริงๆเธอต้องตายแน่ๆที่มารู้ความลับของเขาเข้า!
“เธอกล้ามากนะที่ตามฉันมาถึงที่นี่”
“ฉะ...ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ฉะ...ฉันจะกลับแล้ว!!”
หมับ!
“จะไปไหน!” เขาคว้าข้อมือเล็กได้ทัน กระชากร่างของเธอเข้าหาตัว ปิ่นมุกรีบส่ายหน้าปฏิเสธด้วยแววตาตื่นตระหนก
“ปล่อยนะ! ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น...มะ...ไม่รู้อะไรทั้งนั้น!!”
“ฉันเคยบอกไปแล้วใช่ไหมว่าถ้ายังตามฉันมาอีก เธอจะไม่มีวันกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกเลย” น้ำเสียงรอดไรฟันทำให้ปิ่นมุกกลัวสุดขีด จะมองไปทางไหนก็เห็นลูกน้องของเขาเฝ้าอยู่เต็มไปหมด จนไม่รู้ว่าจะหนียังไง “เธอเก่งมากปิ่นมุก เก่งที่กล้าทำตามผู้ชายคนนั้น แต่หลังจากนี้....ฉันขอให้เธอเก่งให้ได้ตลอดไปก็แล้วกัน!”
พรึ้บ!!
“กรี๊ดดดด!!!”