บทที่ 14 ท้าทาย
“อื้อ....” ปิ่นมุกค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก มีอาการมึนศีรษะเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นเพดานห้องที่ไม่คุ้นเคยดวงตาที่กำลังจะปิดลงอีกครั้งเบิกกว้างขึ้น ดีดตัวลุกจากที่นอน รีบสำรวจร่างกายของตัวเองพบว่าเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบปกติ ตามเนื้อตัวไม่มีร่องรอยใดๆ
แล้วที่นี่คือที่ไหน?
ก่อนหน้านี้เธอแอบตามปริยภัทรไปจนกระทั่งรู้ว่าเขาเป็นนักค้ายาบ้า จากนั้นเขาก็จับตัวเธอไปขึ้นรถแล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
หรือว่าเขาจะจับตัวเธอมาฆ่าปิดปาก!
สัญชาตญาณบอกว่าเธอต้องหนีจากที่นี่ เขาไม่ใช่ปริยภัทรคนเดิมที่เคยรู้จัก เขาเป็นนักค้ายาบ้า!
กึก!
“อ้ะ!!” โซ่ตรวนขนาดใหญ่ดึงรั้งข้อเท้าของเธอเอาไว้ หญิงสาวทั้งดึง ทั้งงัด แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุด
“ไง...” น้ำเสียงเย็นเยือกเอ่ยทักทาย เมื่อได้ยินเสียงของผู้ชายใจร้าย ปิ่นมุกก็รีบถอยหลังกรู่ด้วยความกลัวจนกระทั่งแผ่นหลังชนกับผนังห้อง
“ยะ...อย่าเข้ามานะ! คุณจับฉันมาทำไม!!”
“ฉันจับเธอมา....เพื่อต่อรองอะไรบางอย่าง”
“นี่คุณบ้าไปแล้วหรอ ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้ ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
“ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ ที่เธอตีโพยตีพายไปเองก็แสดงว่าเธอไปรู้อะไรมาใช่ไหม”
“ฉันไม่รู้! ที่ฉันตามคุณมาเพราะฉันแค่อยากคุยกับคุณเรื่องคุณท่าน ระ...เรื่องอื่นฉันไม่รู้” ปิ่นมุกปฏิเสธเสียงสั่น ร่างสูงย่างสามขุมเข้ามาใกล้จนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้า หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงเพราะกลัว “ถะ...ถ้าคุณปล่อยฉันไป หลังจากนี้ฉันจะไม่ยุ่งกับคุณอีกเลย”
“ฉันเคยเตือนเธอไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรอ แต่เธอก็ยังไม่ฟัง ทีแบบนี้ทำเป็นกลัว”
“กะ...ก็ฉันแค่ทำตามหน้าที่ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณท่าน คิดหรอว่าฉันจะมาตามคนอย่างคุณ”
“หึ!” เขาหัวเค้นหัวเราะในลำคอ ปรายตามองร่างเล็กที่กำลังนั่งสั่นระริก กลัวขนาดนี้ยังทำเป็นปากเก่ง อยากรู้เหมือนกันว่าจะเก่งได้สักกี่น้ำ “รู้อะไรไหม ที่ฉันไม่อยากเจอหน้าเธอ เพราะฉันไม่อยากมีปัญหากับ....น้องชาย”
ร่างเล็กรีบหันไปมองคนตัวสูง ถ้าฟังไม่ผิด เมื่อสักครู่เขาเรียกปุณวิชญ์ว่าน้องชาย ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยยอมรับว่าปุณวิชญ์เป็นน้องชาย
“ถ้าคุณทำอะไรฉัน รับรองพี่เปรมตามมาฆ่าคุณแน่ เขาคงไม่ปล่อยให้ฉันเป็นอะไรไปหรอก!”
“งั้นหรอ...” มือใหญ่เชยคางมนขึ้น บังคับให้สาวเจ้าสบตา ปิ่นมุกหัวใจเต้นรัวอีกครั้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำไมดวงตาคู่นี้ ถึงได้มีอิทธิพลต่อหัวใจขนาดนี้ “ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามัน....จะมีปัญญาทำอะไรฉันหรือเปล่า”
“ทั้งๆที่พี่เปรมเขารักคุณขนาดนี้ แต่คุณกลับคิดไม่ดีกับน้องชายของตัวเอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณหญิงถึงไล่คุณหนีออกจากบ้าน!”
“เป็นเพราะเธอกับไอ้น้องชายเลวๆคนนั้นไงที่ทำให้ฉันถูกไล่ออกจากบ้านเหมือนหมูเหมือนหมา! เธอมันไม่เคยเข้าใจอะไรหรอกปิ่นมุก ต่อให้ดีหรือเลว เธอก็เข้าข้างมันอยู่ดี” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สายตาวาวโรจน์มิอาจซ่อนความเจ็บปวดไว้ได้ เป็นครั้งแรกที่ปิ่นมุกสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของเขา แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกสงสารเพราะเขาทำตัวเองทั้งนั้น
“เพราะคุณทำตัวเองทั้งนั้น คุณทำร้ายน้องชายของตัวเองทั้งๆที่พี่เปรมหวังดีกับคุณมาตลอด ปากก็บอกว่าเขาเป็นน้องชาย แต่ความจริงแล้ว...คุณไม่เคยรักน้องของตัวเองด้วยซ้ำ!”
“ไม่รู้อะไรก็หุบปากไปซะปิ่นมุก ฉันเข้าใจว่าเธอโดนมันปั่นหัวมานาน”
“ไม่มีใครปั่นหัวฉันได้หรอก ฉันเห็นมาตลอดว่าคุณทำร้ายน้องชายของตัวเอง คุณมันไม่ใช่คน!”
“เธอก็ยังเป็นปิ่นมุกคนเดิมที่คอยเอาแต่ปกป้องคนเลวๆอย่างมัน จนมันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เธอนี่มันใสซื่อเหลือเกิน” ปริยภัทรปรบมือให้กับความใสซื่อของปิ่นมุก
ร่างเล็กตวัดตามองอย่างไม่พอใจเพราะเขาเอาแต่ใส่ร้ายผู้ชายที่เธอชอบ ทั้งๆที่ความจริงเขานั่นแหละที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี!
“ที่ฉันปกป้องเขา...ก็เพราะฉันชอบเขาไง!” ร่างเล็กสบตากับเขาด้วยแววตาจริงจัง ส่วนปริยภัทรมองหน้าเธอโดยไม่ละสายตาไปไหน เพราะเขารู้มาตั้งนานแล้วว่าปิ่นมุกชอบปุณวิชญ์ “และถ้าคุณทำอะไรพี่เปรมล่ะก็....ฉันไม่ปล่อยคุณไว้แน่!!”
ทุกครั้งที่เขาคิดร้ายกับปุณวิชญ์มักจะทำให้อารมณ์ของเธอเดือดดาลขึ้นมาทันที เขาจะทำอะไรกับใครก็ได้ แต่อย่ามายุ่งกับผู้ชายที่เธอชอบเด็ดขาด เพราะเธอจะปกป้องปุณวิชญ์ด้วยชีวิต!
“ในที่สุดเธอก็ยอมเปิดปากสักทีว่าชอบมัน” มือใหญ่ตะปบเข้าที่คางมน ออกแรงบีบจนกระดูกแทบหัก แม้จะเจ็บปวดแค่ไหนแต่ปิ่นมุกจะไม่ร้องขอให้เขาปล่อยเด็ดขาด “น้ำตาลอยู่ใกล้มดขนาดนี้ คงเสร็จมันไปแล้วล่ะมั้ง”
ร่างเล็กกำหมัดแน่นกับคำพูดดูถูกดูแคลนของเขา แต่เธอก็เลือกที่จะพูดในสิ่งตรงข้าม
“ใช่! ก็ฉันชอบเขา แล้วยังไง"
“คิดไม่ผิดเลยจริงๆ ที่แท้เธอมันก็แค่พวกผู้หญิงไวไฟ ที่ไปทำงานในผับเพราะกะจะไปหาแขกด้วยใช่ไหม”
“ก็อย่างที่คุณเห็นเลยค่ะ ฉันรับเฉพาะคนที่ถูกใจ คนที่จะเลี้ยงดูฉันได้ เกิดเป็นผู้หญิงก็ดีไปอีกแบบนะคะ แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย....ใช้แค่ตัวก็พอ”
แรงบีบนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับอารมณ์ของเขา และในที่สุดปิ่นมุกก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหว พยายามแกะมือใหญ่ออก ทันใดนั้นเขาก็กระชากใบหน้าของเธอเขามาใกล้ๆ มือที่บีบคางมนเลื่อนไปที่ท้ายทอย กดศีรษะของเธอเอาไว้
“งั้นก็ลองขายให้เจ้าของผับดูสิ เผื่อลีลาจะเด็ดกว่าผู้ชายที่ผ่านๆมาของเธอ”
"จะ...จะทำอะไรคุณปริยภัทร!"
"ก็ทำให้ไอ้น้องชายสุดที่รักมันกระอักเลือดตายไง"
"มะ..ไม่นะ!! อย่าทำแบบนี้...กรี๊ดดด!!!"