3
ยายเด็กแสบที่แสบสันอย่าบอกใคร เขายังจำรังมดแดงที่เธอเอามาโยนใส่เขาได้ดี
“เจ้าบ่าวจับมือกับเจ้าสาวเอาไว้นะครับ” หมอทำพิธีเอ่ยบอก เอามือคนทั้งสองมาจับเอาไว้มั่นและพาออกไปทำพิธี อย่าว่าแต่ขุนเขาเลยที่ไม่มองหน้าเจ้าสาว แก้มหอมเองก็ไม่มองหน้าเจ้าบ่าวเช่นกัน
เจ้าบ่าวเจ้าสาวหน้าตึงเหลือเกินขณะเดินจับมือออกมาจากห้อง มานั่งทำพิธีด้านนอกที่ถูกจัดเอาไว้ ผู้ใหญ่ใช้ให้กราบ ใช้ให้ทำอะไรก็ทำ
“เจ้าบ่าวสวมแหวนให้เจ้าสาวครับ” ประโยคนุ่ม ๆ นั้นทำให้เขาคว้ามือของเจ้าสาวมาจับเอาไว้ทันที
อาการกระชากมือเจ้าสาวของเจ้าบ่าวทำให้ผู้ใหญ่มีใบหนากระอักกระอ่วนใจ เจ้าสาวเองก็เงยหน้าขึ้นมองเจ้าบ่าวอย่างเอาเรื่อง
เพราะเอาแต่ไม่มองหน้ากัน พอได้มองหน้ากันก็ทำให้ทั้งสองชะงักงัน
ขุนเขารีบกวาดสายตามองดวงหน้าหวานหยดของเจ้าสาว เขากะพริบตาปริบ ๆ พลางขยี้ตา
นี่ยายขี้เหร่ตัวแสบจริงๆ น่ะเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าจะสวย สวยขนาดนี้ เขาได้แต่นั่งอึ้งจนได้ยินเสียงผู้ใหญ่สำทับว่าให้สวมแหวนอีกรอบ
“เจ้าบ่าวสวมแหวนได้แล้วครับ”
ท่าทีของเจ้าบ่าวทำให้ผู้ใหญ่แอบอบยิ้ม สงสัยเพิ่งมองเห็นความสวยของเจ้าสาว
ในขณะที่เจ้าสาวนั้นได้แต่ตกตะลึงในความเถื่อนของเจ้าบ่าว ใบหน้าที่รกไปด้วยหนวดเครานั่นอีก ทำให้เธอรู้สึกว่าคิดผิดที่แต่งงานกับคนเถื่อน ๆ แบบเขา
“เจ้าสาวสวมแหวนให้เจ้าบ่าวครับ” ประโยคของผู้ใหญ่ที่คอยกำกับพิธีในงานดังขึ้น ทำให้แก้มหอมหยิบแหวนมาสวมให้เขา เธอไม่เงยหน้ามองเขาอีก ไม่สนใจเสียด้วยซ้ำว่าเขาจะมีสีหน้าเช่นไร แตกต่างจากขุนเขาที่มองหญิงสาวไม่วางตา
“คราวนี้ก็เสร็จพิธีสวมแหวน นับสินสอดกันเรียบร้อยแล้ว เจ้าบ่าวหอมแก้มเจ้าสาวเพื่อถ่ายรูปนะครับ” ประโยคที่ว่าต้องหอมแก้มทำให้เธอเม้มปาก ถอยหนีแต่เขารีบคว้าเธอเอาไว้
ขุนเขายิ้มใส่ตาเธออย่างยียวนกวนประสาท โดยไม่ทันคาดคิดเขาไม่หอมแก้ม แต่จูบเธออย่างบ้าคลั่งเอาเป็นเอาตาย
“ตาเถร!” ผู้ใหญ่ในงานยกมือขึ้นทาบอก โดยเฉพาะคุณยายที่แทบจะเป็นลม
ในขณะที่หลายคนกำลังตกใจกับฉากอีโรติกนั้น แก้มหอมก็รัวกำปั้นใส่เขาไม่ยั้ง
เขาถอนปากออก ในขณะที่เธอหอบสะท้าน มองเขาอย่างตกตะลึง ไม่คิดว่าขุนเขาจะป่าเถื่อนกับเธอขนาดนี้
แก้มหอมทำท่าจะลุกหนีเขาก็รั้งเอวคอดเอาไว้ก่อนจะบดจูบเธออีกอย่างดุดัน หญิงสาวรัวกำปั้นไม่ยั้ง ใบหน้าแดงก่ำไปหมด
คุณยายเป็นลมไปเรียบร้อยแล้ว หลายคนรีบเข้าไปปฐมพยาบาล ในขณะที่ว่านหอมยิ้มอย่างสมใจ
ตบจูบแบบนี้แหละดี ลูกดกดี สงสัยว่าขุนเขาเห็นลูกสาวเธอเข้าคงจะชอบ เพราะแก้มหอมนั้นยิ่งโตยิ่งสวย แตกต่างจากตอนเด็กๆ ลิบลับที่ดูขี้เหร่ จนเธอไม่อยากบอกว่าแก้มหอมคือลูกสาว คิดว่าเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยงเสียอีก แต่ยิ่งโตยิ่งน่ามอง ยิ่งสวยมีเสน่ห์ ใครเห็นก็ต้องตกตะลึง
“นี่ปล่อยนะ” แก้มหอมผลักเจ้าบ่าวออกไป ก่อนจะหอบหายใจอย่างรุนแรง แล้วตบหน้าเขาฉาดใหญ่
เพียะ!!! ใบหน้าของขุนเขาหันไปตามแรงตบ ใบหน้าของเขาลุกวาบขึ้นมาในทันที
“พิธีเสร็จแล้วใช่ไหมครับ งั้นผมพาเจ้าสาวเข้าห้องหอเลยก็แล้วกัน” คนป่าเถื่อนเอ่ยขึ้น รีบกระชากมือของแก้มหอมไม่ให้หนีไปไหน แก้มหอมหน้าตาเหลอหลา เธอยอมรับว่าตกใจกับการกระทำของเขา
เธอยกเลิกงานแต่งตอนนี้เลยได้ไหม!
พิธีแต่งงานที่เกิดขึ้นไม่ได้จัดขึ้นอย่างใหญ่โตอะไร แค่มีขันหมากให้ครบเก้าขัน นับสินสอด แล้วก็ทำบุญเลี้ยงพระ ไม่ได้บอกแขกมากมาย เพียงแค่ญาติเท่านั้น งานแต่งงานจึงเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายของวันนั้นเลย
หลังจากขุนเขาบอกว่าจะเข้าหอ คนเป็นพ่อจึงต้องเข้าไปขวางเอาไว้ เพราะเกรงใจญาติผู้ใหญ่ที่เชิญมาร่วมงาน
“แกทำบ้าอะไรห้ะไอ้ขุนเขา”
“ทำบ้าอะไร ก็แต่งงานไงครับพ่อ”
“แกไปทำป่าเถื่อนกับหนูแก้มแบบนั้นได้ยังไง แล้วนี่หนวดเคราอีก รกรุงรังฉันบอกให้แกโกน แกก็ไม่โกน แกจะฉีกหน้าฉันไปถึงไหน”
“ผมแต่งงานก็บุญแค่ไหนแล้ว พ่อยังจะเอาอะไรอีก สนใจอะไรกับหนวดเคราของผมด้วย”
“ทำไมแกถึงได้ป่าเถื่อนแบบนี้ห้ะ หนูแก้มเขาอายคนรู้ไหม ฉันเองก็อายที่มีลูกแบบแก”
“เขาเป็นเมียผม ผมจะทำอะไรก็ได้”
“แต่แกไปจูบเขาท่ามกลางสาธารณะชนแบบนั้นมันน่าเกลียดรู้ไหม”
“ผมจะจูบเมียน่าเกลียดตรงไหน”
“แกนี่มัน” เขมราชโมโหจนพูดไม่ออก
“เสร็จงานแล้วใช่ไหม ผมจะพาเมียกลับบ้าน หรือไม่กลับก็ได้นะครับ ผมไม่ติด”
“ที่แกทำเพราะอยากให้ฉันยกเลิกงานแต่งใช่ไหม”
“แล้วพ่อยอมยกเลิกไหมล่ะ”
“ไม่มีทาง” เขมราชก็ไม่ยอมแพ้ เขาเป็นพ่อ เขาต้องชนะสิ
“ก็ได้ครับ แล้วยายแก้มเหม็นของคุณพ่อจะได้รู้ว่านรกมีจริง”
“แกจะทำอะไรไอ้ลูกบ้า กลับมานี่นะ ไอ้ลูกเวรตะไล” เขมราชชี้นิ้วสั่น ๆ ตามแผ่นหลังลูกชายไป
ในขณะที่แก้มหอมยังตกใจจนตัวสั่นอยู่ในห้องนอนของเธอ เธอกระวนกระวายใจว่าจะทำยังไงดี พอมารดาเข้ามาเธอก็รีบปรี่เข้าไปหาท่าน