บท
ตั้งค่า

กรุ่นกลิ่นวัยเยาว์ (2)

มลุลีเป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งที่พัทยา...ใครสักคนที่เธอเองก็ไม่รู้จัก ไม่เคยพบหน้า

ทั้งยังเป็นเด็กกำพร้าพ่อ เหตุเพราะอาชีพของแม่จึงไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าใครกันที่มันเป็นเจ้าของสเปิร์มนามว่า ‘มลุลี’

ใครๆ ก็รู้เรื่องนี้กันทั้งนั้น แต่แค่รู้แล้วอยู่เงียบๆ ไม่ได้หรือ เหตุใดจะต้องกู่ร้องป่าวประกาศเพื่อเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นคนของแม่เธอด้วย ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มีจิตใจสูงกว่าพวกคนที่อวดอ้างว่าเป็นคนชั้นสูงแต่ชอบดูถูกคนอื่นเสียอีก แม่ของเธอไม่ควรถูกดูหมิ่นจากลมปากของใครทั้งนั้น

“มิ้ม!” เสียงคุ้นหูดังขึ้น พร้อมกับมารดาที่รีบปรี่เข้ามาหาด้วยความร้อนใจ ไล้ฝ่ามือไปบนกรอบหน้าอย่างอ่อนโยน “ใครทำลูก ไอ้เด็กพวกนั้นอีกแล้วใช่ไหม”

เธอยอมพยักหน้าให้แต่โดยดี

แม้แต่ตาและยายยังเก็บความเป็นห่วงไว้ไม่มิด

“แม่จะไปเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด”

วาดดาวไม่แม้แต่จะถามถึงเหตุผลว่าเหตุใดลูกสาวถึงมีปัญหากับอีกฝ่าย แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด เธอก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างลูกรัก

ฝ่ามือบอบบางยื่นไปรั้งชายเสื้อของผู้เป็นแม่ไว้ ฉีกยิ้มยิงฟัน แม้เนื้อตัวจะสะบักสะบอมทว่าแววตากลับมีประกายบางอย่าง “ไม่เป็นไรหรอกแม่ ก็เจ็บเหมือนกันหมดทุกคน อีกอย่างเรื่องนี้หนูจัดการเองได้”

“ได้ไง ไม่ได้หรอกนะ มันกล้ามาแตะต้องให้ลูกแม่เจ็บแบบนี้ แม่ยอมรับไม่ได้”

ยังไม่ทันที่เธอจะได้คัดค้าน ชายชราก็โพล่งขึ้น “ไป ตาก็ไม่ยอม”

“ใช่ ใครจะยอม มาทำหลานสาวยายแบบนี้”

อาจจะเพราะแบบนี้กระมัง มลุลีถึงมีเลือดนักสู้ไหลเวียนทั่วทั้งกาย ก็เติบโตมาจากครอบครัวนักสู้นี่นา

สุดท้ายเธอก็ได้รับคำขอโทษจากคนทั้งสี่ เมื่อแม่ ตาและยายตะเวนพาไปเยือนบ้านทุกหลัง มิหนำซ้ำยังไปพร้อมพายุโทสะที่พร้อมแผดเผาทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง มารดาของเธอไปชี้หน้าด่าอ้ายอีทุกตัวที่บังอาจมาทำร้ายแก้วตาดวงใจ แม้จะโดนผู้ปกครองด่ากลับบ้างใบบางราย แต่ก็ไม่ย่อท้อ

แม่สอนไว้เสมอว่าหากทะเลาะกับใคร ห้ามแพ้ แค่นั้นเองที่แม่หวังไว้

หลังมลุลีอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอนเสร็จเป็นที่เรียบร้อย วาดดาวก็เข้ามาในห้องนอนที่บรรจงจัดแต่งด้วยความใส่ใจ เป็นห้องนอนเดียวในบ้านที่ติดเครื่องปรับอากาศไว้ ผ้าปู ชุดเครื่องนอน กอปรไปด้วยความน่ารักสมวัยของเด็กสาว ที่คนเป็นแม่มอบให้ด้วยความรักเพื่อบอกว่าทุกคนในครอบครัวทะนุถนอมเด็กน้อยมากขนาดไหน

“แม่ทายาให้นะลูก”

มลุลียิ้มแป้น ยอมนั่งนิ่งๆ ให้มารดาทายาให้ในจุดที่ฟกช้ำ

สัมผัสของท่านแผ่วเบาราวขนนก “ดูซิ มันกล้าทำลูกแม่ได้ไง พูดแล้วยังไม่หายแค้น มิ้มเจ็บไหมลูก”

“แค่แม่ทำแผลให้มิ้ม มิ้มก็หายเจ็บแล้ว”

“ลูกแม่” ไม่ว่าเปล่า ยังจุมพิตลงบนกลุ่มผมนุ่มสลวยที่เธอคอยทะนุบำรุง หวีผมให้เด็กสาวทุกเช้า เปียผมให้ก่อนไปโรงเรียน ทำอาหารดีๆ ให้ทานครบทุกมื้อ เธอดูแลดีขนาดนั้นแต่มีใครที่ไหนไม่รู้มาทำร้ายลูกเธอ เจ็บนี้จะขอจำไปจนวันตาย “แค่เห็นมิ้มเจ็บ แม่ก็เจ็บกว่าเป็นพันๆ เท่า”

“มิ้มไม่เป็นอะไรแล้วจ้ะแม่”

ที่ผ่านมาวาดดาวรับรู้มาตลอดว่าลูกสาวถูกปฏิบัติอย่างไรจากคนรอบข้าง แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีการลงไม้ลงมือหนักขนาดนี้ มีบ้างที่บางครั้งลูกสาวผมยุ่ง เสื้อยับในเวลากลับบ้าน เท่านั้นเธอก็รับแทบไม่ไหว แต่หนนี้หนักกว่าที่ผ่านมา แม้ว่าอีกสี่คนจะหนักไม่ต่างจากลูกเธอก็ตาม แต่พวกนั้นมีกันตั้งสี่ ลูกเธอถูกรุมชัดๆ

“พรุ่งนี้แม่จะเข้าไปหาผอ.”

เด็กสาวเบิกตาโต “ไม่ได้นะแม่ ถ้าเขารู้ว่ามีเรื่องในโรงเรียนต้องไม่ดีกับหนูแน่ๆ”

“แล้วจะให้แม่ทำยังไง ขนาดอยู่ในโรงเรียนยังไม่ปลอดภัยเลย”

“เอาเป็นว่าถ้ามีครั้งหน้าหนูจะไม่ยอมให้ตัวเองเจ็บตัว”

ฝ่ามือแสนอบอุ่นโคลงศีรษะทุยไปมา “เพราะพวกมันด่าแม่ใช่ไหม”

“เปล่านี่ แค่วันนี้มีคัดตัวนางรำแล้วแก๊งมันตุ๊บหมด จนครูให้หนูกับชาคัดกันใหม่พรุ่งนี้ แล้วมันอยากให้หนูถอนตัว หนูไม่ถอนให้หรอกนะ ก็เลยมีปัญหากัน”

คนอายุมากกว่ายกมุมปากจนเป็นเส้นโค้ง “แม่ดีใจที่มีหนูเป็นลูกนะมิ้ม”

“มิ้มก็ดีใจที่ได้เกิดเป็นลูกแม่” มลุลีสวมกอดมารดาอย่างออดอ้อน “ไม่ว่าใครจะพูดยังไง แต่แม่คือคนที่ดีที่สุดในโลกของมิ้ม และมิ้มก็รักแม่ที่สุดเลย”

เธอลูบหัวบุตรสาวอย่างอ่อนโยน “แม่รู้ว่ามันยากกับมิ้ม แม่รู้ว่าอาชีพในอดีตของแม่มันทำให้หนูเจ็บปวด แต่ขอให้หนูรู้ไว้ว่ามันไม่มีอาชีพไหนต่ำ แม่ขายตัวมาก่อนก็จริงแต่ไม่ได้ขายศักดิ์ศรี หรือถ้าคนบอกว่าแม่ขายศักดิ์ศรี ให้ตายเถอะ พระเจ้าต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่ากะหรี่เป็นคนที่มีศักดิ์ศรีมากที่สุดในโลก ในเมื่อมีมากจนขายมันได้ทุกวี่วันก็ไม่หมดสักที”

มลุลีหลุดหัวเราะ วาดดาวยิ้มออกจากใจ

“ร่างกายคือต้นทุนที่แม่มี แม่แค่ใช้มันหาเงินและไม่ได้ไปคดไปโกงใคร ทำไมถึงมองว่าผิดนัก” เธอลูบแผ่นหลังของลูกสาวด้วยจังหวะอันอ้อยอิ่ง “แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เพราะแม่เองที่ทำให้ลูกต้องลำบาก”

มลุลีกระชับอ้อมกอด “ไม่ ไม่เลย มิ้มสบายมาก จะบอกอะไรให้นะแม่ มิ้มไม่ชอบไอ้สี่ตัวนั้นมานานละ คอยจิกคอยกัดกันตลอด ได้ตบกันบ้างก็ดี อีกอย่างมิ้มได้ต่อยมันด้วยนะ แม่เห็นไหมล่ะ ชาน่ะ ตามันช้ำเพราะหมัดของมิ้มเองแหละ”

คนฟังได้แต่ส่ายหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม “ยายลูกคนนี้”

“แต่แม่ อืม...คนที่เขาคลอดมิ้มมา ป่านนี้เขาได้พักหรือยัง”

วาดดาวเงียบไปอึดใจ เด็กสาวก็ผละออกเพื่อมองหน้าผู้เป็นแม่ ไม่ได้มีแววคาดคั้นหรืออะไร มลุลีก็แค่นึกเป็นห่วง ‘แม่แท้ๆ’ ก็เท่านั้น

“แม่ก็ไม่รู้ หลังจากแม่พาหนูมาอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยติดต่อคนที่นั่นอีกเลย”

“...”

“แต่จะเป็นยังไงก็ช่างเขาเถิด สำหรับหนูแค่แม่คนเดียวก็พอแล้ว อ้อ ตากับยายก็รักหนูมาก”

เด็กสาวฉีกยิ้ม “จ้ะแม่ แค่พวกเราสี่คนก็พอแล้วเนอะ”

หลังส่งเธอเข้านอนเรียบร้อยแล้ว แม่ก็เดินออกไปด้านนอก ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆ กลับหลับไม่ลง

แม่คนนี้ของเธอเคยอยู่ที่พัทยามาก่อน ส่วนเธอก็เป็นเด็กที่เกิดในซ่อง เป็นลูกของโสเภณีสักคนที่อยู่ในนั้น ที่เกิดจะถูกกำจัดทิ้งตั้งแต่อยู่ในท้องเพราะเป็นได้เพียงก้อนเลือดที่ทิ่มแทงใจในการหาเลี้ยงชีพ เธอไม่รู้ว่าเหตุใดแม่แท้ๆ ถึงยอมอุ้มท้องจนกระทั่งคลอดเธอออกมา แต่หลังคลอดแล้วท่านก็กลับไปทำงานแบบเดิม ต่างจากแม่คนนี้ที่เลือกจะรับอุปการะเธอเป็นลูก เลิกประกอบอาชีพโสเภณี และกลับมาอยู่ที่บ้านเพื่อเลี้ยงมลุลีจนโต โดยแม่ให้เหตุผลว่าจำต้องกลับมาดูแลตาและยายที่แก่ขึ้นทุกวัน

วาดดาวอยากมีลูก แต่หลังจากการทำงานเช่นนั้นเธอก็ไม่เชื่อในความรักฉันชายหญิงอีกต่อไป ผู้ชายที่มาใช้บริการที่ซ่อง เกินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือคนมีครอบครัวแล้ว แอบเมียแอบลูกมาทำชั่วนอกบ้าน แต่เหล่าผู้หญิงให้บริการไม่มีปากมีเสียงพอจะคัดค้าน พวกเธอแค่ต้องทำงาน ต้อนรับลูกค้าที่มาเยือนโดยไม่จำเป็นต้องสนว่าเขาเป็นสามีหรือพ่อของใคร

เมื่อมีเด็กเกิดมาและไม่เป็นที่ต้องการของแม่แท้ๆ เธอจึงขอรับเลี้ยง และใครจะรู้ว่าโสเภณีอย่างเธอจะเลี้ยงลูกมาได้อย่างดี

มลุลีเติบโตมาเป็นเด็กดีท่ามกลางหนามแหลมคมมากมายจากคนอื่น แต่สำหรับคนในครอบครัว เด็กคนนี้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel