CHAPTER 9 ผมพาไปเที่ยวไหมครับ(ต่อ)
“ฟ้าไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ ถ้าแผลใหญ่กว่านี้ ฟ้าก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ต้องส่งโรงพยาบาลลูกเดียว”
“ฟ้ามาทำอะไรที่ฮ่องกงครับ มาเที่ยวหรือมาทำธุระ”
คิมหันต์ถามสิ่งที่ค้างคาใจ ลึก ๆ แล้วในใจคาดหวังที่จะไม่ได้ยินคำตอบบางคำที่ทำให้จิตใจหดหู่
“ฟ้ามาเที่ยวค่ะ”
“ฟ้ามาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ มาคนเดียว ฟ้าเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งตอนเด็ก ๆ อาจจะจำไม่ค่อยได้ แต่ฟ้าอ่านจากหนังสือเล่มนี้” หยิบหนังสือท่องเที่ยวชูให้คิมหันต์ดู
“ฟ้าคั่นรายการที่อยากไปเอาไว้ค่ะ จะได้เปิดดูง่ายหน่อย”
“ให้ผมพาเที่ยวไหมครับ ผมมาที่นี่บ่อย ถึงจะไม่ได้เก่งมาก แต่พอจะคุ้น ๆ ทางอยู่บ้าง”
คิมหันต์ไม่รู้ตัวว่าเสนอตัวไปเป็นไกด์นำเที่ยวได้อย่างไร แต่อย่างน้อยเขาไปด้วยน่าจะดีกว่า
ผู้หญิงเดินทางคนเดียวอันตรายมาก ขนาดไม่ถึงวันยังจะโดนโจรขโมยกระเป๋าไป เขาคงไม่ใจดำที่จะปล่อยให้ไปคนเดียวอย่างแน่นอน
“จริงเหรอคะ? แต่ฟ้าเกรงใจคุณ เผื่อคุณมาทำธุระจะได้ไม่เสียเวลา ฟ้าไปเองได้ค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งใจมาเที่ยวอยู่แล้ว อย่างน้อยจะได้มีเพื่อนไปเที่ยว ไปหลายคนน่าจะสนุกกว่าเที่ยวคนเดียว ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ผมยินดีและเต็มใจ” เขาตอบอย่างเต็มใจจริง ๆ ไปด้วยกันยังดีกว่าแอบเดินตามเธอตลอดทาง
“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ แต่ฟ้าขอเป็นเจ้ามือมื้อเย็นนะคะ ตอบแทนที่คุณช่วยฟ้าเอาไว้ แล้วยังจะพาไปเที่ยวอีก”
“ได้ครับ ผมมีร้านอร่อยแนะนำ รับรองว่าฟ้าต้องติดใจแน่นอน”
พอพูดจบเขาได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสจากคนตรงหน้าคิมหันต์รู้สึกว่าอาหารมื้อเย็นครั้งนี้ต้องเป็นมื้อที่พิเศษสำหรับเขาเป็นอย่างยิ่ง คงทำให้เขาเจริญอาหารไม่น้อย เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน เริ่มไม่ไว้ใจความรู้สึกของตัวเองเลย ขนาดเจอกันไม่กี่ชั่วโมง เธอทำให้เขามีความรู้สึกดีได้ขนาดนี้
พราวฟ้ารู้สึกถูกชะตากับผู้ชายคนนี้อย่างแปลกประหลาด อาจจะเพราะลักษณะท่าทางที่เป็นมิตรอย่างเปิดเผย และเขายังมีน้ำใจเสี่ยงอันตรายวิ่งตามคนร้ายที่วิ่งราวกระเป๋าให้ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รู้จักกัน อย่างน้อยถือว่าเขาเป็นคนที่มีน้ำใจมากคนหนึ่ง หรือไม่ก็เพราะเพิ่งจะผ่านเรื่องตื่นเต้นที่เข้ามาในชีวิต
ร่างกายหลั่งสารอดรีนาลีน เป็นสารที่ทำให้ร่างกายมีความสุข คงจะคล้าย ๆ กับคนที่ชอบออกกำลังกาย มีผลทำให้เธอรู้สึกดีกับสิ่งรอบตัวเป็นอย่างมาก ให้ความไว้ใจแม้กระทั่งคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน
“วันนี้ฟ้ามีแผนจะไปเที่ยวที่ไหนครับ หรือจะเดินชอปปิงแถวนี้ก่อน” คิมหันต์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่เดินเลียบอ่าววิกตอเรียมาเรื่อย ๆ วันนี้อากาศค่อนข้างเย็นและมีลมแรง
“ที่จริง... ฟ้ายังไม่มีแผนอะไรเลยค่ะ แต่...ถ้าอยากไปที่แรก ฟ้าอยากไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมก่อน มาถึงที่นี่แล้ว ขอไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัยก่อนดีไหมคะ หรือคุณคิมคิดว่ายังไงดีคะ”
คิมหันต์ยิ้มรับกับแผนท่องเที่ยวอย่างกระตือรือร้นของหญิงสาวตรงหน้า พอได้พูดคุยกันแล้ว เธอไม่ต่างอะไรกับเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง มีดวงตาเปล่งประกาย และตื่นเต้นไปกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ช่างแตกต่างกับผู้หญิงในตาเศร้าที่พบบนเครื่องบินอย่างสิ้นเชิง
“ผมยังไงก็ได้ครับ แต่ว่าฟ้าเลิกเรียกผมว่าคุณคิมจะดีกว่านะครับ จะได้ดูไม่ห่างเหินเกินไป ถ้าเรียกแบบนั้นอีก ผมจะคิดค่าปรับนะครับ แต่ปรับเป็นอะไรขอคิดดูก่อน”
เขาส่งยิ้มให้เธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ขู่เธอหน่อยแล้วกัน เพราะดูท่าทางเธอจะยังวางตัวห่างเหินกับเขาอยู่ดี ทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก พราวฟ้าพยักหน้ารับคำขอร้องที่เสมือนคาดโทษเธอไว้เบา ๆ โดยไม่กล้าสบตาเจ้าเล่ห์ของเขาอีก คุยกันยังไม่นานทำไมเขาถึงทำให้เธอมีหลากหลายอารมณ์อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน