เธอคือพรหมลิขิตรัก

73.0K · จบแล้ว
ตะวันอิงดาว
48
บท
10.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม? ผมคิมหันต์ เมื่อก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องพรหมลิขิต จนเมื่อผมได้พบกับเธอ พราวฟ้า ผมมั่นใจว่าผมหลงรักเธอตั้งแต่ที่เธอมานั่งข้างผมบนเครื่องบินแล้ว ยิ่งพอได้รู้จักเธอ ความรักของผมมีให้กับเธอมากยิ่งขึ้น จนผมเคยสงสัยตัวเองว่าผมจะรักเธอได้มากที่สุดแค่ไหน ผมยังหาคำตอบไม่เจอ พราวฟ้า สาวสวยเชื้อสายจีนที่ไม่รู้ว่าผมเป็นดาราดัง เธอเป็นเพื่อนเที่ยวกับผม เป็นคนที่อยู่กับผมในวันที่ผมต้องการใครสักคน เธอเป็นทุกอย่างในชีวิตผม เธอทำให้ผมเชื่อเรื่องพรหมลิขิต เพราะ เธอคือพรหมลิขิต..ของผม พราวฟ้า ไม่รู้ว่าอาการของคนโดนเทเป็นยังไง สำหรับเธอมันทำให้เธอเสียความรู้สึก แต่น้องสาวและป้าณี อยากให้เธอไปเที่ยวบ้าง แต่เธอคิดไม่ถึงว่าการมาเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้จะทำให้เธอได้เจอเขา...คิมหันต์ ผู้ชายที่ทำให้เธอรู้จักคำว่า ‘รัก’ คุณว่าที่ทั้งสองคนเจอกันมันเป็นเพราะโชคชะตาหรือพรหมลิขิต แต่ที่แน่ ๆ เราพบว่ามีคนคลั่งรัก 1 อัตรา “ผมรักคุณตั้งแต่ที่เราเจอกันครั้งแรก ผมไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน พอผมได้รู้จักคุณผมยิ่งรักคุณมากขึ้น ในชีวิตต่อจากนี้ไปผมจะรักคุณคนเดียว พราวฟ้าแต่งงานกับผมนะครับ”                 **ขอบคุณที่กดเข้ามาอ่านค่ะ..!!  

นิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆรักแรกพบโรแมนติกวงบันเทิงผู้ชายอบอุ่น

CHAPTER 1 The dazzling sky

หลังจากอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตบิดามารดาอันเป็นที่รักยิ่งเมื่อห้าปีที่ผ่านมา ทำให้ชีวิตเด็กสาวฝาแฝดต้องพลิกผันไปอย่างน่าใจหาย ความเศร้าเข้ามาครอบงำชีวิตที่ควรจะสดใสตามวัยให้หมดไป

อิงดาวและพราวฟ้า ฝาแฝดหญิงไทยเชื้อสายจีนที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน มีรูปร่างหน้าตาที่สวยโดดเด่นเหมือนกันจนไม่สามารถแยกความแตกต่างได้ ถ้าไม่นับรวมเรื่องนิสัย และสไตล์การแต่งตัวที่ไม่เหมือนกัน คนที่ได้รู้จักทั้งสองสาวฝาแฝดจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

พราวฟ้าแฝดพี่ มีนิสัยอ่อนหวาน น่ารัก เรียบร้อย มีความเป็นส่วนตัวสูง และเก็บความรู้สึก เมื่อรู้ข่าวการจากไปของบิดามารดา มีอาการช็อกและเงียบไป ไม่ร้องไห้ฟูมฟาย ผิดกับอิงดาวแฝดสาว ซึ่งปกติมีนิสัยใจร้อน ขี้โมโห เฉลียวฉลาดทันคน ภายนอกดูเข้มแข็งเหมือนผู้ชาย แต่กลับร้องไห้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งในตอนนั้นทั้งสองยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย และตัดสินใจที่จะเรียนต่อให้จบ โดยไม่ย้ายตามไปอยู่กับป้าที่ออสเตรเลียตาม คำชักชวน ด้วยความที่พราวฟ้าถือว่าเป็นพี่คนโต จึงพยายามที่จะเป็นผู้นำครอบครัว รับผิดชอบดูแลอิงดาวและป้าณี แม่บ้านซึ่งเป็นคนเก่าแก่ที่คอยดูแลทั้งสองมาตั้งแต่เด็ก ท่านยินดีที่จะอยู่ด้วยโดยไม่ย้ายไปไหน และมีน้ำใจที่จะไม่รับค่าตอบแทนใด ๆ

ในระยะเวลาที่ต้องเรียนให้จบอีกสองปี แม้จะได้รับเงินประกันชีวิตของบิดามารดามาส่วนหนึ่ง แต่ทั้งสองไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายเท่าที่ควร ยังคงต้องช่วยกันทำงานพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นงานถ่ายแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร เพื่อหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในบ้าน และค่าเรียนหนังสือให้จบ โดยพยายามที่จะเก็บเงินก้อนสุดท้ายของบิดามารดาเอาไว้เป็นเงินสำรองเพื่อความไม่ประมาท เพราะทั้งสองได้รับรู้ถึงการสูญเสียซึ่งไม่มีอะไรไม่แน่นอนในชีวิต

การทำงานทำให้ทั้งอิงดาวและพราวฟ้า มีความรับผิดชอบมากขึ้น โตเป็นผู้ใหญ่เร็วขึ้น ทำให้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่เหลือไม่ได้มีความสดใสมากมายเหมือนคนอื่น ๆ ความเงียบและเข้าถึงยากของพราวฟ้าเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าอิงดาวจะพยายามทำตัวให้ร่าเริงเหมือนปกติ แต่ลึก ๆ แล้วทั้งสองต่างรู้ดีว่าความเศร้าเสียใจไม่ได้ลดลงเลย

หลังจากที่เรียนจบ อิงดาวได้ทำงานบริษัทโฆษณาตามสายงานที่ได้เรียนมา ในขณะที่พราวฟ้ารู้สึกว่างานลักษณะนี้ไม่เหมาะกับนิสัยของตัวเอง จึงใช้เงินที่เก็บส่วนหนึ่งมาปรับปรุงบ้านให้เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ตกแต่งให้น่ารักสไตล์วินเทจ ซึ่งออกแบบชั้นล่างเป็นร้านอาหาร จัดตกแต่งให้มีทั้งโซนภายในร้าน และโซนนอกร้านเพื่อนั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม ประกอบกับมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น รวมทั้งปลูกดอกไม้ประดับหลากหลายสายพันธุ์ ดูเผิน ๆ ไม่ต่างอะไรกับบ้านเจ้าหญิงในเทพนิยาย ด้วยทำเลบ้านที่ดี มีวิวติดแม่น้ำเจ้าพระยา รวมกับการตกแต่งที่เข้ากันอย่าง ลงตัว ทำให้เป็นร้านที่น่าดึงดูด และประทับใจสำหรับผู้ที่เคยแวะมาเยือน รวมทั้งรสชาติอาหารที่อร่อย จะติดตรงทำเลของร้านค่อนข้างไกล ไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง ทำให้เดินทางไม่สะดวก

ร้านตั้งอยู่นอกตัวเมืองให้บรรยากาศไม่ต่างกับเดินทางไปต่างจังหวัด แต่ยังถือว่าเป็นเขตปริมณฑล ดังนั้นลูกค้าส่วนใหญ่จึงมาจากการแนะนำปากต่อปาก ถึงแม้ร้านจะไม่ได้มีคนเยอะพลุกพล่าน แต่ก็ยังมีมาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ชอบบรรยากาศเงียบ ๆ สบาย ๆ มักจะมานั่งคิดงาน หรือคุยงานกัน นาน ๆ ครั้งจะมีรายการทีวีมาถ่ายที่ร้านบ้าง ช่วยทำให้มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น แม้จะเดินทางไกลกว่าร้านอาหารทั่วไป แต่ทุกคนที่ได้มาจะกลายเป็นลูกค้าประจำ เพราะประทับใจบรรยากาศ รวมถึงความสวยน่ารักของเจ้าของร้าน มีป้าณีและใบบัวหลานสาวของป้าณีที่เข้ามาเรียนโรงเรียนมัธยมในกรุงเทพฯมาเป็นผู้ช่วยที่ร้านให้อย่างขยันขันแข็ง

พราวฟ้าได้ตั้งชื่อร้านว่า The dazzling sky ซึ่งแปลว่า พราวฟ้า ตรงกับชื่อของตัวเอง

พราวฟ้าสนิทกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยร่วมงานถ่ายแบบกันตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ เพราะเธอกับน้องสาวจำเป็นต้องหางานพิเศษเพื่อเป็นค่าเล่าเรียน และเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน

พี่นาวินเป็นรุ่นพี่ที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันพอดี จึงทำให้สนิทกันและไปมาหาสู่กันมาตลอดจนกระทั่งเรียนจบ แต่ระยะหลังที่เธอไม่ได้เจอกับเขาบ่อยมากนัก เนื่องจากพี่นาวินยังคงทำงานในวงการบันเทิงต่อไป ในขณะที่เธอกับน้องสาวได้เลิกรับงานพวกนั้นแล้ว เวลาจึงไม่ตรงกัน ทำให้เจอกันน้อยลง แต่วันนี้เธอกลับได้เจอพี่นาวินโดยบังเอิญ หลังจากที่เธอไม่ได้เจอเขามาสักพักแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าการเจอเขาในวันนี้ เขากลับทำให้เธอเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเรา สิ่งที่เขาคิดกับเธอ ถึงแม้จะไม่มีใครเคยยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างพี่นาวินกับเธอ แต่วันนี้เขาได้บอกให้เธอเข้าใจหมดแล้ว โดยที่เธอไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาแม้สักคำเดียว

“ป้าณี! ป้าณี! ฟ้าเป็นยังไงบ้างคะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

เสียงโหวกเหวกโวยวาย โดยที่ยังไม่เห็นตัวแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องเป็นอิงดาวฝาแฝดคนน้องของร้าน The dazzling sky

ป้าณีหญิงสาวสูงวัยผู้ที่เป็นแม่บ้านเก่าแก่ ปัจจุบันรับหน้าที่ผู้ช่วยพราวฟ้าแฝดผู้พี่ที่เป็นเจ้าของร้าน ป้าณีกำลังทำงานอยู่ในครัว หันมาตามเจ้าของเสียงที่ร้อนรน เธอเอ็นดูแฝดคู่นี้ไม่ต่างอะไรกับลูกหลาน

ซึ่งทั้งสองให้ความเคารพตนอย่างดีไม่ต่างกับครอบครัว ด้วยความสงสารและเห็นใจจึงยินดีที่จะอยู่ช่วยดูแลแฝดทั้งสองหลังจากที่บิดามารดาได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน แม้จะไม่ต้องการค่าตอบแทนใด ๆ แต่แฝดทั้งสองยังคอยจุนเจือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้โดยตลอด รวมถึงส่งเสียให้ใบบัวหลานสาวของตนเองเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพดีกว่าตกระกำลำบากอยู่ต่างจังหวัด

วันนี้มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับพราวฟ้า ซึ่งใบบัวหลานสาวของตนเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และได้โทรศัพท์ไปเล่าเรื่องคร่าว ๆ ให้อิงดาวฟัง

“ตั้งแต่กลับมา คุณฟ้าเธอก็ขึ้นไปข้างบนเงียบเลยค่ะ ป้าไม่กล้ารบกวน”

ป้าณีพูดด้วยความเป็นห่วง และหันไปสบตากับใบบัวหลานสาวของตนเองในขณะที่ช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องครัว เนื่องจากเป็นช่วงที่ร้านปิดแล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่กำลังพูดคุยกันจะมีคนอื่นได้ยิน

“ใบบัว ไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อยซิ มันเกิดอะไรขึ้น? เอาแบบละเอียด เลยนะ”

คำถามของอิงดาวที่ตามมาติด ๆ ในขณะที่น้ำเสียงยังไม่คลายความกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย ในขณะที่ใบบัวไปช่วยพราวฟ้าซื้อของที่ห้างแห่งหนึ่ง