CHAPTER 4 ไปเที่ยวดีกว่า
“ฟ้า อยากไปเที่ยวพักผ่อนไหม? เผื่อจะได้สบายใจขึ้น”
อิงดาวเสนอไอเดีย เธอพยายามคิดหาทางออก หรือวิธีที่จะช่วยให้พี่สาวสบายใจขึ้น ถึงแม้พราวฟ้าจะพยายามไม่แสดงออกถึงความเสียใจให้เห็น แต่เธอสามารถรับรู้ได้ อาจเป็นสัญชาตญาณของฝาแฝดก็เป็นได้ ที่ทำให้พอเข้าใจความรู้สึกของพี่สาวในขณะนี้ อย่างน้อยการไปที่อื่นอาจจะทำลืมปัญหาที่เกิดขึ้นไปได้ชั่วคราวก็ยังดี ดีกว่าการอยู่กับที่มีชีวิตแบบเดิม ๆ
“ไปเที่ยวเหรอ?”
พราวฟ้ารู้สึกแปลกใจในข้อเสนอของอิงดาว ที่ตรงกับความคิดของตนเอง นี่อาจจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของฝาแฝดก็เป็นได้ที่มีใจสื่อสารถึงกันได้ แม้ว่าจะไม่ได้พูดออกมา เธอรู้สึกสนใจในข้อเสนอที่ตรงกับใจของเธอเป็นอย่างยิ่ง และการไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาอาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นก็ได้ แต่เธอยังมีร้านที่ต้องดูแลการหายไปหลาย ๆ วันคงจะไม่ดีแน่
“ไม่ต้องเป็นห่วงร้านหรอกฟ้า...อิงจะอยู่ช่วยป้าณีเองช่วงนี้งานที่บริษัทไม่เยอะมาก ฟ้าไม่ได้ไปเที่ยวไหนมานานแล้วถือว่าไปพักร้อนก็ได้นะ เปลี่ยนบรรยากาศ กลับมาจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่”
อิงดาวรีบออกตัวขันอาสาเพราะรู้ความคิดของพี่สาว ถึงแม้ว่างานร้านอาหารแบบนี้ไม่ใช่งานที่ถนัดของเธอเลยสักนิดเรียกได้ว่าไม่เป็นเลยจะดีกว่า งานบ้านงานครัวปกติเธอแทบจะไม่เคยแตะ พยายามจะช่วยหลายครั้งแต่เละไม่เป็นท่า เป็นอีกอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความแตกต่างของฝาแฝดอย่างเธอได้ แต่ยังไงเพื่อความสุขของพี่สาว เวลาแค่ไม่กี่วันเธอพอจะทนได้ ที่สำคัญยังมีป้าณีกับใบบัวอยู่ด้วยน่าจะปลอดภัย
“ว่าแต่...อิงจะช่วยที่ร้านไหวเหรอ?”
พราวฟ้าถามด้วยความเป็นห่วง เพราะทราบดีว่าน้องสาวไม่ได้ชอบงานเข้าครัวเลยสักนิด ทำอาหารหรือขนมสักอย่างยังไม่เป็น และไม่เคยสนใจจะทำเลยสักครั้ง ปกติจะเข้ามาช่วยที่ร้านบ้างเป็นบางครั้งเพราะงานบริษัทที่ทำอยู่มีเวลาไม่แน่นอน
“เอาเถอะน่า... ยังไงป้าณีก็ยังอยู่ ฟ้าไม่ต้องเป็นห่วง อิงไม่ทำลูกค้าหายหมดหรอก รับประกัน!”
อิงดาวพูดด้วยความมั่นใจ พยายามยามไม่ให้พราวฟ้าเป็นกังวล ถึงเวลาค่อยว่ากันอีกที ยังไงขอให้ป้าณีกับใบบัวช่วยเยอะหน่อยละกัน
‘ขอโทษนะคะป้าณี ใบบัวช่วยพี่ด้วย’
“ตกลงตามนั้นนะฟ้า อิงจะจัดการจองตั๋วกับที่พักให้นะ ไปเที่ยวให้สบายใจแล้วค่อยกลับมา”
เธอพยักหน้ายอมรับข้อเสนอในที่สุด พร้อมกล่าวคำขอบคุณที่ออกมาจากใจ เพราะพราวฟ้าเห็นความกระตือรือร้นของน้องสาวฝาแฝดแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้ เธอรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยที่แท้จริง นอกจากพ่อแม่ที่เสียไปแล้ว ตอนนี้เหลืออิงดาว ป้าณี และใบบัว ที่มีความรักความห่วงใยให้อย่างจริงใจ โดยที่ไม่ต้องการผลตอบแทนใด ๆ
“ฟ้าขอไปช่วงวันธรรมดาไม่กี่วันนะ วันปกติลูกค้าไม่ค่อยเยอะเท่าไรเกรงใจอิงด้วยจะได้ไม่ต้องลำบาก ที่จริงสงสารป้าณีกับใบบัวมากกว่า”
พราวฟ้าตอบพร้อมหันมายิ้มให้น้องสาวแบบรู้ทัน
.....
“คิม! นายจะไปไหน? แม่ฉันบอกว่านายจะไปเที่ยวฮ่องกงหรือ? หนีเที่ยวแบบนี้ได้ยังไง ไม่บอกไม่กล่าว”
เสียงโวยวายมาตามสายของกระเต็นผู้จัดการสาว ที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับคิม คิมหันต์ พิศลฉัตร นักร้องนักแสดงซูเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวไทย เพราะได้ยินคุณนายกรแก้วแม่ของเธอ หรือน้าสาวของคิมหันต์บอกว่าเขาจะไปเที่ยวฮ่องกงหลายวันโดยที่เธอไม่รู้
“หนีที่ไหน ก็บอกน้ากรแก้วแล้วไง ไม่อยู่บ้านเองช่วยไม่ได้”
คำตอบแบบไม่แยแสของคิมหันต์ หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในนาม คิมหันต์ ซูเปอร์สตาร์เมืองไทย หน้าตาหล่อใส สไตล์เกาหลี ที่กำลังเป็นกระแสนิยมในช่วงนี้ เขาหน้าตาได้รูปและผิวพรรณที่ดี โดยไม่มีการผ่านศัลยกรรมใด ๆ พร้อมกับความสูงเกือบ 190 เซนติเมตร ส่งผลให้งาน ถ่ายแบบ งานแสดงเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้จะเข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก เริ่มด้วยการเป็นนักร้องวัยรุ่นเป็นที่นิยมตามกระแสในช่วงนั้น เขาพัฒนาฝีมือการทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยมา จนปัจจุบันอยู่ในวงการมาเกือบ 15 ปีแต่กระแสความนิยมไม่ได้ลดลงเลย เป็นเพราะเขามีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักแสดง นายแบบ ถึงแม้ว่าลึก ๆ แล้วเคยใฝ่ฝันอยากจะทำงานเบื้องหลัง แต่งานเบื้องหน้าคิวยาวเต็มตลอดทั้งปี ทำให้ได้แต่สะสมประสบการณ์ไปก่อน
ด้วยความที่คิมหันต์เป็นคนมีวินัย ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบที่ดีมากในเรื่องการทำงานมาตลอด ส่งผลให้มีงานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ภาพลักษณ์ภายนอกจะเป็นคนเงียบเฉย เป็นที่เอ็นดูของทุกคน ไม่เคยมีข่าวเสียหายเข้ามา จะมีแต่กระเต็น ผู้จัดการส่วนตัวซึ่งพ่วงตำแหน่งลูกพี่ลูกน้องของเขา ถึงจะรู้นิสัยที่แท้จริงของดาราผู้น้องคนนี้เป็นอย่างดี
คิมหันต์ เป็นเด็กที่ถูกทิ้งไว้ และเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยความโชคดีที่มีสามีภรรยาคู่หนึ่งมารับไปเลี้ยงดูตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสองขวบ และย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เด็ก ได้กลับมาเที่ยวเมืองไทยปีละครั้ง
และทุกครั้งที่กลับมา ครอบครัวนี้จะมาพักที่บ้านคุณนายกรแก้วแม่ของกระเต็นที่มีศักดิ์เป็นน้า หรือน้องสาวของมารดาบุญธรรมของคิมหันต์ กระเต็นมีอายุมากกว่าคิมหันต์สามปี และเป็นลูกคนเดียว ทำให้สนิทกับคิมหันต์ได้ง่าย แต่ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวและพ่อแม่ตามใจทั้งคู่ ถึงแม้จะสนิทกันแต่ต่างคนต่างไม่ยอมกัน กระเต็นจะอาศัยความเป็นพี่เอาชนะคิมหันต์ทุกครั้ง
คิมหันต์เป็นเด็กที่หน้าตาดีมาตั้งแต่เกิดจนบางครั้งกระเต็นยังรู้สึกอิจฉา ขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังมีใบหน้าที่สวยน้อยกว่าคิมหันต์อีก ไม่ผิดหรอก เพราะเขาเรียกได้ว่าหน้าตาหล่อจนสวยแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่เด็กเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน คิมหันต์ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไรนักที่มีแต่คนทักว่าเขาเป็นน้องสาวกระเต็น เพราะทำให้กระเต็นเอามาล้อเขาทุกครั้ง พอเริ่มโตขึ้นมีแมวมองชักนำให้เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบสอง
ในช่วงแรกเขาจะรับงานเฉพาะช่วงที่ปิดเทอมและช่วงที่กลับมาเที่ยวเมืองไทย พอเรียนจบจึงขอบิดามารดากลับมาทำงานที่เมืองไทยอย่างถาวร ในช่วงแรกเขามาอาศัยอยู่ที่บ้านกระเต็น แต่ด้วยการทำงานที่ไม่เป็นเวลาทำให้ต้องซื้อคอนโดเพื่อออกมาอยู่ตามลำพัง จะได้ไม่รบกวนเวลากลับดึกเพราะเขารู้สึกเกรงใจ และไม่อยากรบกวนน้าสาวมากจนเกินไป
พอกระเต็นเรียนจบ และทำงานบริษัทโฆษณาได้ 1 ปี จึงลาออกมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้คิมหันต์ ตามคำขอร้องจากมารดาของเขา เนื่องจากผู้จัดการคนเก่าลาออกไป เพราะทนนิสัยความเอาแต่ใจตัวเองของดาราซูเปอร์สตาร์ไม่ไหว
“ยังจะมาพูดอีก นายจะหนีเที่ยวทำไม งานเยอะจะตายอยู่แล้ว”
กระเต็นตอบกลับใส่คนที่โทรมาโดยไม่ไว้หน้า นอกจากจะชอบทำอะไรตามใจแล้ว ยังไม่ยอมบอกอะไรเธอก่อน
แน่นอนว่าถ้าเขาบอกเธอคงไม่ให้ไปเที่ยวไหนแน่นอน ส่วนหนึ่งกระเต็นรู้สึกว่าการที่คิมหันต์ไปเที่ยวคนเดียวโดยไม่มีคนดูแล อาจจะส่งผลให้เกิดข่าวที่เสียหายตามมา เพราะน้องชายซูเปอร์สตาร์คนนี้ของเธอ ชอบทำอะไรตามใจตนเอง โดยที่ไม่พยายามรักษาภาพลักษณ์ของเขาเลย ถึงแม้เขาจะไม่เคยมีข่าวเสียหายก็ตาม แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่ไว้ใจอยู่ดี