CHAPTER 3 อกหักไหม
‘คนนี้เป็นแฟนพี่ชื่อ ลีน่า เป็นนางแบบสังกัดเดียวกันส่วนนี่พราวฟ้า เป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย’
คำพูดของพี่นาวินที่เอ่ยขึ้นหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาสักพักใหญ่ แนะนำหญิงสาวที่เดินควงแขนมาด้วย ซึ่งลีน่า เป็นนางแบบที่มีลักษณะผิว สีแทนสวย ปราดเปรียว ดูทันสมัย แต่งตัวดูดี ถึงแม้จะดูโป๊ไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วสวยสะดุดตา น่ามอง
‘ที่จริงพี่ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรนะ พี่กับฟ้า เราสองคนไม่มีอะไรชัดเจนอยู่แล้ว พี่ต้องการความก้าวหน้าในวงการบันเทิง แต่ฟ้าไม่สนใจ ชวนไปไหนก็ไม่ไปจะอยู่แต่ที่บ้าน ทุกวันนี้พี่ก็ไม่รู้ว่าฟ้ารู้สึกอะไร คิดอะไร ฟ้าเย็นชากับพี่เกินไป ดูแล้วเราคงไปกันไม่รอด แต่ลีน่าทำงานเหมือนพี่ เราเข้าใจกันมากกว่า คบกันถ้ามีข่าวพี่ก็ไม่กลัว ดีซะอีกเพราะมันจะทำให้พี่มีงานมากขึ้น’
คำพูดที่ทำร้ายจิตใจของผู้ชายคนที่เคยสนิท และมีความหวังดีให้ต่อกันตามมายาวเหยียดไม่ได้เว้นวรรคให้ทำความเข้าใจหลังจากที่นางแบบสาวขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ไม่รู้ว่ากลัวพูดไม่ทันหรืออย่างไร ในขณะที่ตนเองไม่ได้ตอบโต้ หรือพูดอะไรสักคำ
พราวฟ้ารู้สึกอึ้งกับสถานการณ์ตอนนี้ ซึ่งมันรวดเร็ว จะว่าผิดหวังหรือผิดคาดก็ไม่ใช่ ทุกอย่างที่พี่นาวินพูดล้วนมีเหตุผลที่เหมาะสม เข้าใจได้ง่ายที่จะยอมรับมัน พราวฟ้าไม่รู้ว่าตนเองขับรถกลับถึงบ้านได้อย่างไร ของที่จะไปซื้อได้ครบหรือไม่ ไม่สามารถรับรู้ได้เลย สมองไม่ทำการชั่วระยะเวลาหนึ่ง อาการตัวชา หูอื้อตาลายยังไม่หายไป อยากร้องไห้น้ำตาก็ไม่ไหล จะว่าไปตนเองไม่ได้ร้องไห้มานานแล้วหรือเรียกได้ว่าไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นมากกว่า เพราะหลังจากที่เสียบิดามารดาไปหลายปีก่อน พราวฟ้าไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใครอีกเลย จะมีบ้างในบางเวลาที่นึกถึงน้ำตาจะไหลออกมาเงียบ ๆ บางครั้งอยากจะร้องไห้เสียงดัง หรือแสดงอารมณ์ให้เต็มที่อย่าง อิงดาว แต่เป็นเพราะคิดว่าตนเองเป็นพี่ ต้องดูแลน้อง ต้องแสดงความเข้มแข็งให้ทุกคนเห็น ทำให้ต้องพยายามฝืน ไม่ร้องไห้และแสดงถึงความอ่อนแอให้ใครเห็น ประกอบกับมีความรับผิดชอบที่มากขึ้น แม้ภายนอกพยายามแสดงถึงความเข้มแข็ง แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องแอบร้องไห้เงียบ ๆ ตามลำพังมาตลอด
“ฟ้า ฟ้า... เป็นยังไงบ้าง อิงรู้เรื่องจากใบบัวแล้ว”
น้ำเสียงแสดงความห่วงใยจากอิงดาว แฝดผู้น้องที่มีหน้าตาเหมือนกันจนแยกไม่ออก อิงดาวเดินเข้าไปหาพราวฟ้า ด้วยสีหน้าเป็นกังวล ลักษณะการแต่งตัวอย่างทะมัดทะแมงให้เหมาะกับงานปัจจุบัน ใส่แว่นเพื่อพลางดวงตาคู่สวย และรวบผมที่ยาวมัดเป็นหางม้า
เป็นสิ่งหนึ่งที่พราวฟ้าขอแฝดผู้น้องเอาไว้ไม่ให้ตัดผมสั้นเพราะมารดาของทั้งสองชอบให้ไว้ผมยาว คอยหวีผม และถักเปียให้หญิงสาวทั้งคู่มาตั้งแต่เด็ก อย่างน้อยถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เอาไว้ระลึกถึงมารดาผู้ล่วงลับไปแล้ว
“ไม่รู้สิอิง... ฟ้าก็บอกไม่ถูก”
คำตอบที่มาจากใจจริง ๆ ของพราวฟ้า สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงบ่ายที่ผ่านมานี้ เพราะไม่รู้จะตอบน้องสาวไปอย่างไรดี เนื่องจากเธอยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลย
“ช่างเขาเถอะฟ้า คนนิสัยแย่ ๆ แบบนั้น ไปเสียได้ก็ดี”
“ฟ้าเข้าใจพี่นาวินนะ ที่เขาทำแบบนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ฟ้าก็รู้สึกแย่อยู่ดี อาจจะเป็นเพราะตัวฟ้าเองด้วยที่เย็นชาและไม่ยอมแสดงความรู้สึกอะไรบ้าง”
“โธ่! ฟ้า เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของฟ้านะ ไอ้ผู้ชายคนนั้นนิสัยไม่ดีอยู่แล้ว เห็นแก่ตัว มาทำตัวสนิทกับฟ้าเพราะหวังจะช่วยผลักดันให้เขาดังไปด้วย ช่วงนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ชอบงานที่ฟ้าถ่ายแบบกันทั้งนั้น”
“ฟ้ารู้ แต่อย่างน้อยพี่นาวินเป็นคนดี มีน้ำใจคนหนึ่ง”
อิงดาวรู้สึกได้ถึงความเสียใจจากน้ำเสียงของพราวฟ้า พี่สาวของเธอมักจะมองคนแต่ในส่วนที่ดี และมองข้ามส่วนที่แย่ ๆ ของคนคนนั้นเสมอ
เธอไม่เคยรู้สึกชอบผู้ชายคนนั้นเลย และเธอจะพยายามหาเรื่องเขาทุกครั้งที่เข้ามาใกล้พี่สาวเธอ
“ให้อิงช่วยอะไรไหม? หรือจะให้อิงไปจัดการไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้น!!”
พอเริ่มพูด อารมณ์เริ่มจะเสียอีกรอบ เมื่อนึกถึงคำพูดที่คุยกับป้าณี และใบบัวยังโกรธไม่หาย
‘ผู้ชายอะไร มีหน้ามาบอกว่าคบกับคนอาชีพเดียวกัน ถึงมีข่าวทำให้มีงานมากขึ้น แบบนี้คบเพราะผลประโยชน์ชัด ๆ ตอนแรกมาคบฟ้า เพราะคิดว่าถ้าฟ้าเข้าวงการต้องดังแน่นอน พยายามชวนไปทำงานที่นั่นที่นี่ ที่จริงอยากจะให้ตัวเองดังมากกว่า พอฟ้าไม่ไปด้วยเลยหมดผลประโยชน์ ไปเกาะคนอื่นแทน นิสัยแบบนี้แย่มาก อย่าให้เจอนะ อิงไม่ปล่อยไว้แน่นอน’
พอพูดจบเหมือนได้ระบายอารมณ์ออกไปบ้าง ทำให้มีสติมากขึ้นพอจะมาปลอบพี่สาวได้ ปล่อยให้ป้าณี และใบบัวนั่งหน้าเครียดแทน ไม่อยากนึกถึงชะตากรรมของชายผู้นั้น ขอภาวนาอย่าให้เจอกันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องแน่นอน
ถึงแม้งานในวงการบันเทิงจะเป็นที่น่าสนใจ สำหรับหนุ่มสาวหน้าตาดี ที่มีความใฝ่ฝันที่จะโด่งดัง ได้มาซึ่งชื่อเสียงเงินทอง และแฝดทั้งสองคนนี้มีคุณสมบัติทุกอย่างครบถ้วน ถ้าพร้อมจะเอาดีทางด้านนี้คงไปได้ไกล แต่ความสวยไม่ใช่จะมีประโยชน์ในด้านเดียว ยิ่งสวยมากยิ่งมีอันตรายตามมามากเช่นกัน เพราะไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่าคนที่เข้ามาหวังประโยชน์อะไรกันแน่ แม้ทั้งสองจะรับงานถ่ายแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าไรนัก คนที่มาหวังผลประโยชน์ด้านอื่นมีเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งชวนไปทานอาหารกับคนในแวดวงต่าง ๆ ติดต่อผ่านกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รู้ทั้งรู้ว่าลึก ๆ แล้วสิ่งที่ต้องการที่แท้จริงคืออะไร ทำให้ทั้งสองหลีกเลี่ยงที่จะรับงานทางด้านนี้ลง เพราะไม่รู้ว่าภัยอันตรายจะเข้ามาถึงตัวเมื่อไร เคยได้ยินจากบางคนที่คอยเตือนอย่างหวังดีมาว่า คนที่มีอิทธิพลมาก ถ้าปฏิเสธ บ่อย ๆ บางทีอาจโดนพาลไปอย่างไม่เต็มใจ จะแจ้งความก็คงไม่มีประโยชน์ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะสู้คนที่มีเส้นสายมากมายได้อย่างไร
เพราะเหตุนี้แฝดทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะเลิกรับงานทางนี้ไปเลยดีกว่า อย่างน้อยเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ
“ช่างเขาเถอะ ฟ้าไม่ได้เสียใจหรอกที่พี่เขามีแฟนใหม่ ฟ้าเข้าใจนะ แค่รู้สึกตกใจนิดหน่อย”
พราวฟ้าพยายามตอบอย่างเข้มแข็ง โดยที่น้ำเสียงไม่ได้เข้มแข็งเหมือนคำพูด จิตใจรู้สึกห่อเหี่ยว หดหู่ และผิดหวังพร้อม ๆ กัน คิดดูแล้วส่วนหนึ่งน่าจะมาจากนิสัยที่เย็นชา ไม่ชอบแสดงความรู้สึกของตนเอง ทำให้เป็นปัญหาที่คบกันไม่ราบรื่นอย่างที่ผู้ชายคนนั้นพูด ซึ่งเธอรู้ว่ามันเป็นข้อเสียที่แก้ยากยังไม่เห็นทางออก หรือวิธีที่จะแก้ไขนิสัยของเธอได้
จะบอกว่าเธอเสียใจที่เขามีแฟนใหม่ก็ไม่ใช่
เธอผิดหวังจากเขาอย่างนั้นหรือ เธอกลายเป็นคนมีความคิดซับซ้อนอย่างนี้ได้อย่างไร ตอนนี้พราวฟ้าอยากได้เวลาสำหรับเรียบเรียงความรู้สึกของตนเองเป็นอย่างมาก อย่างน้อยทำให้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
แม้กระทั่งความเสียใจพราวฟ้ายังไม่เข้าใจตัวเองเลย แล้วจะให้แสดงความรู้สึกออกมาเหมือนคนอื่น ๆ ได้อย่างไร
“ฟ้า อยากไปเที่ยวพักผ่อนไหม? เผื่อจะได้สบายใจขึ้น”