4
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในม่านมุ้งดวงหน้างามพลันกะพริบตาขึ้นทันที เช้าแล้วรึ นางร้องไห้จนหลับ หรงหว่านเซียนพลันปลดม่านมุ้งลุกจากเตียง เสี่ยวเฟิงเดินเข้ามาพร้อมอ่างสำริดทองคำ หรงหว่านเซียนพลันล้างหน้าแต่งกายผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เรียบร้อย นางให้สาวใช้ทำทรงผมที่สตรีออกเรือนให้นาง จากนั้นหญิงสาวนั่งที่เก้าอี้ รับประทานหารเพียงไม่กี่คำ
สาวใช้เสี่ยวลิ่วสาวเท้าเข้ามาในเรือน “อนุหรง นี่ก็เลยยามที่จะไปพบฮูหยินใหญ่แล้ว เหตุใดท่านไม่ไปคารวะน้ำชาฮูหยินใหญ่” เสี่ยวลิ่วเอ่ยอย่างไม่พอใจ
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” หรงหว่านเซียนขี้เกียจเถียงกับสาวใช้อย่างเสี่ยวลิ่ว
เรือนอวี้หลัน สตรีในชุดอาภรณ์สีฟ้าทักทอเป็นอย่างดี ลายดอกมู่ตาน ดวงหน้างามล้ำ ประทินด้วยเครื่องประทินโฉมอย่างเจิดจรัส นางนั่งที่เก้าอี้ไม้จันทร์หอม รออนุหรงมาคารวะน้ำชาตามทำเนียม
สตรีในชุดสีชมพูสาวเท้าเข้ามาในเรือน ปรายตามองสตรีงามล้ำ นางสินะคือฮูหยินใหญ่ หรงหว่านเซียนรู้มารยาท ยอบกายคำนับ
“คารวะฮูหยินใหญ่”
ด้านเยียฟางปรายตามองอนุหรง คนที่เป็นเทพธิดาขอฝน มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ หน้าตาก็แค่นั้น ไม่เห็นจะงามสู้นางได้เลยแม้แต่น้อย
“เอาล่ะ เจ้าคุกเข่าลง ให้สาวใช้ไปยกน้ำชามาแล้วมาคารวะข้า”
หรงหว่านเซียนเข้าใจดี เมียน้อยต้องเคารพเมียหลวง กระนั้นนางจึงใจเย็นประดุจสายน้ำในทะเลสาบตงไห่ ดูท่าสตรีนางนี้ร้ายไม่เบา
เสี่ยวลิ่วเผยอยิ้มเล็กน้อยยกถาดน้ำชาให้หรงหว่านเซียน
หรงหว่านเซียนมิใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่า น้ำชาในจอกมันร้อน ดูท่านางคงจะโดนแกล้งแล้วกระมัง นางจำใจต้องหยิบค้างน้ำชา แล้วค่อย ๆ คลานไปหาฮูหยินใหญ่อย่างช้า ๆ
เยียฟางมองอย่างริษยา ข้าจะทำให้ใบหน้างามของเจ้าเกิดแผลเป็น ที่อัปลักษณ์ ดูสิว่าเจ้าจะมีหน้าอยู่ในจวนเสิ่นได้หรือไม่
“อนุคารวะน้ำชา ฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ” มืองามที่ถือจอกน้ำชาพลันแดงก่ำ เพราะน้ำชาร้อน ๆ เป็นการแกล้งหรงหว่านเซียนที่ได้ผลมาก นางต้องอดทน
“ถือไว้ก่อน” ฮูหยินใหญ่พลันเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ
มารดามันเถอะ !!! สารเลวแกล้งนาง
เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป เยียฟางยังไม่รับจอกน้ำชา จากหรงหว่านเซียน ความอดทนของหรงหว่านเซียนก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน
เมื่อแกล้งอนุจนหนำใจแล้ว“ส่งมาให้ข้า”
หรงหว่านเซียนยื่นจอกน้ำให้เยียฟาง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนดวงหน้างามของเยียฟาง หรงหว่านเซียนตาไว เห็นเยียฟางกระสาดน้ำชาร้อน ๆ ใส่ใบหน้าของนาง กระนั้นนางรีบกระโดดออกทันที
“จอกน้ำชาร้อนยิ่งนัก เกือบโดนเจ้าแล้ว”
จงใจจะสาดน้ำชาร้อน ๆ ใส่นางต่างหากเล่า หรงหว่านเซียนมองเยียฟางอย่างบันดานโทสะ เห็นว่าเป็นฮูหยินใหญ่แล้วจะรังแกนางได้รึ
“ท่านจงใจจะสาดน้ำร้อนใส่หน้าข้า ถ้าหากข้าหลบไม่ทัน ป่านนี้ข้าคงจะเสียโฉมไปแล้ว”
“อนุหรง ท่านมิได้ยินที่ฮูหยินใหญ่บอกรึ ว่าน้ำชามันร้อน มันเลยหก” เสี่ยวลิ่วบ่าวสุนัขเอ่ยปากขึ้น
“เป็นแค่บ่าว อย่าได้แสดงความคิดเห็น ข้าถามเจ้ารึยัง” หรงหว่านเซียนอดทนมานานกับบ่าวไร้มารยาทอย่างเสี่ยวลิ่ว
พริบตาเดียวหรงหว่านเซียนยกกาน้ำชาร้อน ๆ สาดเข้าไปในอาภรณ์เยียฟาง อย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงกรีดร้องของฮูหยินใหญ่พลันดังขึ้น
“สารเลวนัก กล้ามาก เสี่ยวลิ่วจับนางไว้ข้าจะสั่งสอนนาง”
เสี่ยวลิ่วพลันจับหรงหว่านเซียนไว้อย่างแน่น
“ท่านเป็นถึงฮูหยินใหญ่ ในจวนเสิ่น ถึงกับรังแกอนุอย่างข้า”
“เจ้าน่ะ ถ้าไม่มีความสามารถขอฝนได้ ท่านแม่ทัพจะไปสู่ขอเจ้ารึ ฝ่าบาทเป็นคนสั่งให้ท่านแม่ทัพไปขอเจ้าเพื่อมาขอฝนให้กับชาวต้าเยียต่างหาก ท่านแม่ทัพหาได้มีใจเสน่หาต่อเจ้า”
ไม่จริง ท่านแม่ทัพรักนาง
“เพราะท่านต่างหาก ร้อยเล่ห์เพทุบาย หลอกล่อท่านแม่ทัพ จึงทำให้แต่งเข้ามาในจวนเสิ่น”
นังสารเลวกล้าเอ่ยเยี่ยงนี้กับฮูหยินใหญ่เยี่ยงนี้รึ
“เจ้า นังสารเลว วันนี้ข้าจะเอาเลือดปากเจ้าออก” เยียฟางเป็นถึงท่านหญิงแห่งเมืองต้าเยีย ไม่มีผู้ใดหยาบคายกับนาง เท่ากับสตรีชาวทุ่งหญ้านางนี้มาก่อน มืองามหมายจะตวัดลงไปที่ดวงหน้าจิ้มลิ้มของหรงหว่านเซียน
“ช้าก่อน!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับมาเยือนที่เรือนอวี้หลันด้วยตัวเอง เรื่องนี้ทำให้เยียฟางตกใจไม่น้อย แม่สามีจะไม่มาที่เรือนนางนับตั้งแต่นางแต่งเข้ามาที่จวนเสิ่น แต่เพราะนังแพศยาหรงหว่านเซียน ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นถึงกับออกหน้ารับเลยรึ เยียฟางจำต้องดึงมือลง
“ท่านแม่” หรงหว่านเซียนได้ทีรับไปยืนด้านหลังฮูหยินผู้เฒ่าทันที
“ฮูหยินใหญ่ คิดจะทำอันใด ถึงได้ลงมือทำร้ายอนุหรง” ฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ในเรือนใหญ่ ทราบความจากเสี่ยวเฟิงจึงรีบรุดมาที่เรือนอวี้หลันทันที
“ท่านแม่ สะใภ้แค่ให้นางมาคารวะน้ำชา แต่สะใภ้ทำน้ำชาหกเลอะใส่นาง นางว่าสะใภ้แกล้ง นาง เลยยกกาน้ำชามาสาดใส่สะใภ้ ไม่เชื่อท่านแม่ก็ดูชายกระโปรงของสะใภ้ได้”
สายตาฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่ชายกระโปรงของเยียฟาง แล้วมองหน้าหรงหว่านเซียน
“เรื่องแค่นี้ เจ้าถึงกับลงไม้ลงมือกับนางนี่นะ ถ้ามันยากนัก ต่อไปนี้ไม่ต้องให้นางมาคารวะน้ำชาเจ้า แต่ให้ไปปรนนิบัติข้าที่เรือนใหญ่แทน”
เยียฟางมีความเกรงใจแม่สามีอยู่บ้างจึงยอมให้หรงหว่านเซียนไปปรนนิบัติฮูหยินผู้เฒ่า ถึงแม้นางจะโกรธเพียงใด แต่นางยังไม่อยากจะเป็นศัตรูกับฮูหยินผู้เฒ่า
หรงหว่านเซียนพลันอบอุ่นหัวใจยิ่งนักที่ฮูหยินผู้เฒ่าช่วยเหลือนาง เมื่อมาถึงเรือนใหญ่ นางนั่งข้างๆ ฮูหยินผู้เฒ่า
“ท่านแม่ ข้าอนุ สร้างความเดือดร้อนให้ท่านอีกแล้ว” หรงหว่านเซียนรู้สึกสำนึกผิด ที่นางไม่อดทนจึงได้เกิดเรื่องเยี่ยงนี้ขึ้น
“เซียนเอ๋อร์ ยังไงเจ้าก็ถูกหญิงใจแคบผู้นั้นกลั่นแกล้งอยู่ดี นางเป็นถึงท่านหญิงแต่กิริยาต่ำตม ข้ามิชอบนาง ต่อไปนี้ถ้าไม่มีเหตุอันใด อย่าไปที่เรือนอวี้หลันเป็นอันขาด”
“เจ้าค่ะ ข้าอนุจะจำไว้” เห็นทีนางต้องหลีกเลี่ยงไม่ไปยุ่งกับเรือนใหญ่เสียแล้ว ถ้าไม่ได้เสี่ยวเฟิงไปเรียกฮูหยินผู้เฒ่ามา นางคงจะเละเป็นแน่แท้
ทางด้านเยียฟางหลังจากที่เปลี่ยนอาภรณ์เสร็จ นางก็แค้นใจทั้งฮูหยินผู้เฒ่ากับหรงหว่านเซียนไม่หาย นังแก่นั้นก็สาระแนดีนัก
“เสี่ยวลิ่ว วันนี้ท่านแม่ทัพไปค่ายกลับมาก็จวนค่ำล่ะมัง เจ้าไปสั่งรถม้า บอกว่าข้าจะไปที่วัดฝู” สองนายบ่าวมองตากัน พลันรู้ทันว่าการไปวัดฝู เยียฟางไปทำอะไร เพราะน้ำปรุงมนตร์ใกล้จะหมดแล้ว ถ้าหมดไปงานนี้ นางแย่แน่ เพราะท่านพ่อยังมิได้ก่อกบฏเรื่องนี้มีผลต่อบิดาของนาง ทุกวันนี้การใช้น้ำปรุงมนตร์ดำครอบครองจิตใจเขาไว้ที่นาง
“เจ้าค่ะ” สาวใช้รับคำสาวเท้าออกไป
เรือนใหญ่ ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นทอดสายตามองอนุหรง ที่ปักผ้าลายนำยวนยาง ลากเส้นอย่างงดงาม ดูเหมือนว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะพอใจ อนุนางนี้นัก ดูทำอะไรก็พลันเข้าตาไปหมด
“งามนัก”
“เจ้าค่ะท่านแม่” หรงหว่านเซียนยิ้มแย้มให้แม่สามี ในระหว่างปักผ้า
“เรียนฮูหยินเฒ่า ตอนนี้ฮูหยินใหญ่มุ่งหน้าไปทำบุญที่วัดฝูเจ้าค่ะ” มัวมัวเป็นผู้เข้ามารายงาน หรงหว่านเซียนได้ฟังคำรายงานของมัวมัว ไม่คิดว่าคนอย่างฮูหยินใหญ่จะเข้าวัดทำบุญเป็นด้วย
ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ค่อยพอใจท่านหญิงเท่าใดนัก เบะปากเล็กน้อย “เซียนเอ๋อร์ เจ้ากับหวายเอ๋อร์ เมื่อไรจะมีหลานเสียที ข้าอยากจะอุ้มเต็มทีแล้ว”
อะไรกัน นางเพิ่งจะแต่งกับท่านแม่ทัพไม่กี่วันเอง อีกอย่างนางกับเขาไม่เคยมีอะไรกันเลย จะมีลูกได้อย่างไร หญิงสาวได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไร…