บทย่อ
“ท่านแม่ทัพ รบกวนท่านออกไปก่อน เถอะเจ้าค่ะ” “ฟางเอ๋อร์” หรงหว่านเซียนที่อยู่ในอ่างไม้ เห็นท่าไม่ดี ชายหนุ่มเดินมาหานางที่อ่างไม้ นางพูดประโยคเมื่อกี้นี้เขาฟังไม่รู้เรื่องหรือ นี่เรียกชื่อฮูหยินใหญ่ บ้าไปแล้ว “ข้าอนุภรรยา หาใช่ฮูหยินใหญ่นะเจ้าคะ” นางแหกปากตะโกนขนาดนี้ เขายังสาวเท้ากระโดดเข้ามาในอ่างไม้ ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!! “กรี๊ด!!!!!” เสียงกรีดร้องพลันดังขึ้นอย่างแรง นางไม่คิดว่าเขาจะกล้ากระโดดเข้ามาในอ่างไม้ของนาง น้ำในอ่างสาดกระจายไปทั่วรอบนอก หรงหว่านเซียนยืนขึ้นมือข้างหนึ่งปิดทรวงอก อีกข้างปิดด้านร่าง ดวงตาดอกท้อมองเรือนกายงดงาม ที่มีกลิ่นของบุปผาแผ่กำจายไปโดยรอบ
1
เรือนร่างอรชรในชุดสีแดงเพลิง โยกย้ายเรือนกายไปมา ท่ามกลางสายตาของคนหมู่มากที่กำลังจับจ้องมองนางอยู่ หรงหว่านเซียนยิ้มหวานให้กับคนในหมู่บ้าน นางเป็นเทพธิดาขอฝนประจำชนเผ่าหู ที่เหล่าชาวบ้านให้ความเคารพยำเกรงมากที่สุด หรงหว่านเซียนได้รับพรสวรรค์มาจากท่านยายของนางนั่นเอง ในการรำขอฝน ในฤดูแล้ง ตอนนี้ชาวบ้านพลันเดือดร้อนจำต้องให้นางรำของฝน
หลังจากที่นางรำขอฝนเสร็จ เหล่าชาวบ้านต่างพากัน โขกศีรษะ ต่างโห่ ร้องดังลั่นทั่วลานทุ่งหญ้าหลังฝนไม่ตกมานาน
“ขอท่านเทพจงประทานฝนมาให้พวกข้าด้วยเถอะ”
ชั่วพริบตาเดียว ราวกับสวรรค์ชั้นฟ้าได้ยินสิ่งที่พวกเขาร้องขอ ฝนห่าใหญ่ได้ตกลงมาอย่างแรง ชาวบ้านโห่ร้องดีใจ
“ขอบคุณเทพธิดา หรงหว่านเซียน” นางสาวเท้าลงมาจากลานหญ้า ไปหาท่านยายของนาง นางว่านชิงที่แก่ชรามากทอดสายตามองหลานสาวที่สืบทอดวิชามาจากนางอย่างภาคภูมิใจ
“เข้าเรือนเถอะ” นางเอ่ยกับหลานสาว
“เจ้าค่ะ ท่านยาย”
เรือนไม้ที่สองยายหลานอาศัยอยู่ อยู่ท้ายหมู่บ้าน ไม่ถือว่าเล็กมากและใหญ่มาก นางพาท่านยายไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ จากนั้นก็หาผ้ามาเช็ดหน้าให้ผู้เป็นยาย
“เซียนเอ๋อร์ ปีนี้เจ้าอายุสิบหกแล้ว ทำไมบุรุษผู้นั้นไม่มาสู่ขอเจ้าเสียที” ท่านยายเอ่ยถึงชายคนนั้น นางก็พลันหน้าแดงเล็กน้อย ราวกับผลท้อที่สุกงอม
“ท่านยาย อย่าเพิ่งเร่งเขาเลยเจ้าค่ะ เมื่อสี่เดือนก่อนเขาส่งจดหมายมาหาข้า ว่าเขาเพิ่งจะสงบสงครามทางแคว้นฮั่นเจ้า รอสักประเดียว เขาคงจะมาสู่ขอข้าเจ้าค่ะ” หรงหว่านเซียนบอกกับท่านยายอย่างมั่นใจ
ยังไงท่านแม่ทัพเสิ่นหวายไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากนางแน่นอน นางยังจำบุรุษหนุ่มสวมชุดเกราะสีน้ำเงินได้เป็นอย่างดี ในตอนนั้นเขาได้ถูกเหล่าคนต่างแคว้นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ นางเป็นคนช่วยเขากลับมาที่หมู่บ้าน จากนั้นทั้งสองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นางเองในตอนนั้นอายุสิบสี่ปี เสิ่นหวายอายุยี่สิบปี เขารอให้นางผ่านวัยปักปิ่นถึงจะมาสู่ขอนางไปเป็นฮูหยิน แต่แล้วผ่านมาหนึ่งปี หรงหว่านเซียนรอได้ ในเมื่อนางรักเขาหมดหัวใจ
“ยายว่านชิง อยู่ในเรือนหรือไม่” เสียงสตรีวัยกลางคนเรียก ยายว่านชิงที่หน้าเรือน
หรงหว่านเซียนพลันสาวเท้าไปเปิดประตู
คนที่มาเคาะประตูเป็นเพื่อนบ้าน นางซือซือนั่นเองที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง หรงหว่านเซียนจึงเชิญนางซือซือเข้ามาในเรือน
“ยายเฒ่า ที่ข้ามาวันนี้มีเรื่องจะพูดด้วยน่ะ” นางซือซือปากเอ่ยกับยายเฒ่า แต่ทว่าสายตากลับมองมาที่หรงหว่านเซียนที่กำลังเทน้ำชาอยู่
“เซียนเอ๋อร์ ออกไปข้างนอกก่อน ผู้ใหญ่จะคุยกัน” ยายเฒ่าบอกกับหลานสาว คนเป็นหลานสาวถอยกายออกมาแล้วปิดประตูเรือนทันที
หรงหว่านเซียนสาวเท้าไปที่หลังหมู่บ้าน มีต้นดอกท้อขนาดใหญ่ให้นางได้นอนเล่นบนต้นไม้ นางกระโดดขึ้นต้นดอกท้ออย่างง่ายดาย ที่ตรงนี้เมื่อในอดีตเสิ่นหวายกับนางเคยมานั่งบนต้นดอกท้อแล้วซบอกกันอย่างมีความสุข ดวงหน้างามเผยอยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อหวนคิดถึงเขาหวังว่าอีกไม่นานเขาจะมาสู่ขอนางตามคำสัญญา
“เซียนเอ๋อร์คิดอันใดอยู่” หญิงสาวปรายตามองใต้ต้นไม้ พบว่าเป็นต้าซานบุรุษที่ชอบมาวุ่นวายกับนาง เขาชอบพอนาง แต่ทว่านางไม่ได้ชอบพอและพึงใจต้าซานเสียหน่อย
หรงหว่านเซียนเห็นหน้าซานต้าอยากจะอยู่ให้ห่างเสียจริง
“เรื่องของข้า” นางตอบอย่างไม่ใส่ใจเขา
“วันนี้แม่ของข้า ไปสู่ขอเจ้ากับท่านยายของเจ้า” ต้าซานเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ ทำให้คนฟังบนต้นไม้รีบกระโดดลงมาทันที มิน่าเล่านางซือซือถึงได้ไปหาท่านยายที่เรือน หรงหว่านเซียนต้องรีบไปขัดขวาง
“ป่านนี้ ท่านยายของเจ้าอาจจะตกลงยกเจ้าให้ข้าแล้วกระมัง” ต้าซานพูดแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข
“ฝันไปเถอะ” หรงหว่านเซียนสาวเท้าไปที่เรือนทันที
“เชิญเจ้ากลับไปเถอะ ข้ายังไม่อยากจะยกหลานสาวข้าให้ใครทั้งนั้น” ยายเฒ่าพลันเอ่ยขึ้นพร้อมชี้ประตูทางออกให้นางซือซือรีบออกไปจากเรือน ก่อนที่คนแก่จะบันดานโทสะ
“ข้าไม่ออก” นางซือซือ ยืนกรานที่จะไม่ออกจากเรือน แต่ทว่ายายเฒ่าเอาแรงมาจากไหนมิรู้ลากนางซือซือออกจากเก้าอี้ มาถึงหน้าประตู
“ยายเฒ่า”
“อย่ามาขอหลานสาวกับข้าอีก ข้าไม่มีทางยกให้”
“ท่านยาย” หรงหว่านเซียนเดินมาเจอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอดี นางซึ้งใจที่ท่านยายเคารพการตัดสินใจของนาง
“นังแก่อุตส่าห์พูดดี ๆ ด้วย” นางซือซือหมายจะตบยายเฒ่า แต่ทว่าหรงหว่านเซียนเอาตัวมาขวางไว้เสียก่อน
“ท่านน้าออกไปเดี๋ยวนี้” หรงหว่านเซียนขึ้นเสียงใส่ นางซือซือ
“ได้ ๆ ข้าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก” นางซือซือสะบัดแขนเสื้ออย่างแรงแล้วเดินจากไป หรงหว่านเซียนพลันประคองท่านยายเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตามเดิม
“ท่านยายเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ” หลานสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกุมมือผู้เป็นยายไว้
“ข้ามิเป็นไร โชคดีที่ข้าไม่ยกเจ้าให้เป็นสะใภ้ของนางซือซือ นังคนหน้าหนา เซียนเอ๋อร์ ในเมื่อเจ้าเลือกจะรอบุรุษผู้นั้นยายก็ไม่ว่าอันใด แต่เจ้าจำไว้นะ เมื่อใดก็ตามเจ้าแต่งไปกับคนนอกเผ่าหู แล้วเจ้าจะกลับมาที่ชนเผ่าของเราไม่ได้อีก”
“เจ้าค่ะ ท่านยาย หลานจะจำไว้” ค่ำคืนนั้นหลังจากที่สองยายหลานพลันกินข้าวอิ่มแล้ว หรงหว่านเซียนส่งท่านยายเข้านอน ส่วนนางก็มานอนเตียงของนางอย่างสบาย…
“อ่า อื้อ ท่านพี่ข้าไม่ไหวแล้ว” น้ำเสียงนี้ร้องออกมาอย่างแรง ราวกับคนกำลังจะโดนเชือดอย่างนั้นล่ะ หรงหว่านเซียนทำได้แค่มองผ่านหน้าต่าง
บุรุษผู้นั้นกำลังควบอาชาบนหลังสตรีนางหนึ่ง หรงหว่านเพ่งมองบุรุษผู้นั้น มันช่างเลือนรางเสียจริง
“อ้า โอว ฟางเอ๋อร์ แน่นยิ่งนัก” น้ำเสียงนี้มันช่างคุ้นเหลือเกิน
“อ้า ท่านพี่เอาแท่งหยกแทงเข้าลึก ๆ สิเจ้าคะ” หญิงสาวที่โดนกระทำบอกให้สามี แทงนางแรง ๆ นางชอบความรุ่นแรง
แท่งหยกขนาดใหญ่ แทงเข้าไปในร่องกลีบงามจนมีน้ำรักไหลเยิ้มออกมา จนร่องงามเป็นรอยแดงก่ำ แต่สตรีผู้นี้หาได้พอใจไม่
ตับ ตับ ตับ ตับ
ตับ ตับ ตับ ตับ คนเป็นสามีทำตามที่ฮูหยินเอ่ยปากขอ ยิ่งเสียบเข้าลึก ร่องงามยิ่งตอดแท่งหยกดีแท้ ดวงหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
“อ้าท่านพี่ ข้าจะแตกแล้ว” เสียงกระเซาพลันเอ่ยขึ้น
“โอ้ว เฟยเอ๋อร์”
ปักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ทั้งสองคนก็พลันได้ไปฝั่งสวรรค์พร้อมกัน
หรงหว่านเซียนทอดสายตามองบุรุษผู้นั้นชัด ๆ นั่นมัน แม่ทัพเสิ่นหวายไม่ใช่รึ
ไม่จริง!!!
กรี๊ดดด!!!!! เสียงกรีดร้องของนางพลันดังขึ้นอย่างแรง จนประตูเรือนสั่น ยายเฒ่ารีบลุกมาดูหลานสาว
“เซียนเอ๋อร์”
“ท่านยายข้าฝันร้าย” นางพลันลุกนั่ง คนเป็นยายกอดหลานสาว เกิดอะไรขึ้นทำไมหลานสาวถึงได้ฝันเยี่ยงนี้ ความฝันนั้นช่างเหมือนกับความจริงเหลือเกิน นางหวังว่าเขาจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับนางแล้วกัน คืนนั้นทั้งคืนหรงหว่านเซียนนอนไม่หลับทั้งคืน…