"ลวงเด็กหลงทาง" 3
“จะให้หนูเริ่มเก็บกวาดบ้านเลยไหมคะ หรือว่าคุณหิวแล้ว ให้หนูทำอาหารเช้าเลยไหมคะ” ดาวเรืองหวาดกลัว มองเศษเสื้อของเขาและเธอกองเต็มพื้นแล้วหันซ้ายมองขวา ส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมทำตามคำสั่งของคนเจ้าเล่ห์
“ฉันง่วง!”
“คะ?” เสียงนุ่มทุ้มเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสียงกระด้างทำให้สาวน้อยใจสั่นกลัว
“มานอนได้แล้ว ถ้าเธอขัดคำสั่งฉัน หนี้สินก็จะเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยบาทละห้าสิบบาท” เมื่อเด็กน้อยขัดใจ ลุงหื่นอยากนอนซบอกบัวตูมก็เริ่มเป็นเจ้าหนี้เถื่อนขูดรีดเนื้อหวาน
“หนูนอนข้างนอกก็ได้ค่ะ” เธอส่ายหน้าไม่ยอมทำตาม
“ถ้าเธอยังยืนอยู่ตรงนั้น ฉันจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มบาทละร้อย” คำสั่งของลุงหื่นไม่ได้ทำให้เด็กกลัว จึงเป็นเหตุทำให้ลุงต้องลงจากเตียง เดินเพียงก้าวเดียวก็คว้าร่างน้อยเข้ามากอด
“โอ๊ย! หนูเจ็บ” สาวน้อยร้องครางด้วยความเจ็บ เมื่อถูกคนมีกำลังเยอะไม่ปรานีอุ้มแล้วเหวี่ยงเธอลงบนที่นอน
“ห้ามร้องคำว่าเจ็บ”
สิงขรในเวลานี้แปลงร่างเป็นสิงโตหื่นคลานขึ้นเตียง มือใหญ่คว้าหมับที่ข้อเท้าน้อยทั้งสอง กระชากอย่างแรงจนคนตัวบางลอยเข้ามานอนอยู่ใต้ร่างหนา
“หนูเจ็บจริงๆ นี่ ระบมไปทั้งตัวแล้ว” ในเวลานี้ ดาวเรืองรู้ชะตาชีวิตว่าจะต้องถูกสิงโตเขมือบอีก เธอจึงออดอ้อนร้องไห้ไม่มีเสียง มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่ไหลอาบหางตาเมื่อเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ถูกมือหนาถอดออกจากร่าง
“อยู่กับฉัน อย่าให้ฉันเห็นน้ำตาของเธอเด็ดขาด”
กระซิบเสียงแหบแห้งชิดหางตาดวงโตจูบชิมน้ำใสๆ ปากหนาพรมจูบไปตามเรียวคางมนมาถึงซอกคอระหง ความหอมหวานจากเม็ดบัวสีชมพูสองเม็ดทำให้สิงขรครางเสียงกระหึ่มในลำคอ
“ลุงสิงห์ หยุ หยุดก่อนค่ะ”
ดาวเรืองยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกักกลั้นเสียงครางกระเส่าน่าอับอายของตัวเองไว้ เธอซ่านสยิว ขนกายลุกซู่จนต้องแอ่นหลังขึ้นเพื่อให้ชายหนุ่มได้เติมเต็ม ดูดประถมถันและสัมผัสในสิ่งที่เธอต้องการให้มากที่สุด
“อยากให้ฉันหยุดจริงๆ เหรอฮะ?” สิงขรถามชิดเรียวปาก ก่อนจะจูบจนเหล็กดัดฟันชนกับฟันของตัวเองเสียงดังกึกๆ คนตัวโตลุกขึ้นนั่งทับส้นเท้ายิ้มมุมปากเมื่อเห็นหน้าสวยแดงอมชมพู มือหนาสั่นเทาจับปลายเท้าของเด็กน้อยมาจูบแล้วเอามาเกยบนบ่ากว้าง เขาใจจะขาดเมื่อก้มมองกายแข็งแรงที่จ่อชิดตรงร่องเนื้อฉ่ำน้ำผึ้ง
“ว่าไง ให้ฉันหยุดหรือไปต่อ” เสียงครางฮือๆ และเนื้อตัวสั่นระริกบิดเป็นเกลียวของเด็กน้อยทำให้สิงขรพอใจและแกล้งถามเบาๆ ชิดขาเล็ก
“หนุ หนู”
ดาวเรืองหูอื้อตาลาย เมื่อไอ้หนอนยักษ์ที่เคยเกลียด ขยะแขยงและไม่ต้องการมันนั้นกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในตัวเธอทีละนิดละน้อย เธอสับสน ใจหนึ่งก็ยังหวาดกลัวถึงจะถูกมันเข้ามาในตัวหลายครั้งต่อหลายครั้ง อีกใจก็อยากให้เจ้าของหนอนยักษ์สัมผัสเธอลึกๆ แล้วจูงมือเธอไปชมความสวยงามบนวิมานฉิมพลี
“ฉันจะเป็นบ้าตายก็เพราะเธอ ยัยปีศาจ” กล่าวโทษ และไม่รอคำตอบจากเธอที่เป็นคนขยับสะโพกงอนเข้าหาความเป็นชายจนสุดความยาว
เมื่อความแข็งแกร่งถูกดอกไม้สีสวยรัดจนจะขาดใจ สิงขรก็ออกแรงเคลื่อนสะโพกตอกย้ำความเป็นตัวตนใส่เนื้อนิ่มประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน เสียงครางกระเส่ารัญจวนใจของเด็กน้อยทำให้สิงห์แก่มีแรงฮึกเหิม จับมือเธอแน่นพาเดินขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดครั้งแล้วครั้งเล่า…
สิบเอ็ดโมงเช้า...
“อุ๊ย! ซี้ดด!” ดาวเรืองร้องซี้ดซ้าดด้วยความเจ็บปวดเมื่อขยับตัวเพียงเล็กน้อย
เธอนอนนิ่งนึกทบทวนเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ดวงตากลมโตคลอน้ำตาไหลอาบหางตาเหลียวล่อกแล่กหันซ้ายมองขวา ริมฝีปากถูกฟันที่ครอบด้วยเหล็กดัดกัดไว้แน่นแล้วลุกขึ้นนั่ง แต่ด้วยความเจ็บเนื้อตัวจึงต้องล้มตัวลงนอนที่เดิมอีกครั้ง
“ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นสิ...”
เสียงเปิดและปิดประตูดังมาพร้อมเสียงออกคำสั่งของชายหนุ่ม ทำให้เด็กน้อยผงกหัวขึ้นมอง ถึงแม้จะเจ็บแปลบๆ ตรงหว่างขาก็ต้องฝืนใจลุกนั่งเมื่อเห็นชายตัวโตเดินอาดๆ เข้ามาหา
“ละ ลุงสิงห์”
“เอานี่ ยาแก้อักเสบ กินซะจะได้หายระบม” สิงขรยื่นถุงยาให้เด็กสาวพร้อมทั้งหย่อนก้นนั่งข้างเตียงตรงปลายเท้าของเธอ
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
เสียงกลืนน้ำลายดัง ‘เอื้อก’ ทำให้ดาวเรืองรีบก้มหน้างุด ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเมื่อเจอเสือร้ายนั่งจ้องตาไม่กะพริบ เหมือนเขาจ้องมองจะเขมือบเธอเหมือนเมื่อคืนนี้
“ส่วนนี่ ฉันซื้อมาฝาก” เมื่อเด็กน้อยเอาแต่ก้มหน้า ชายหนุ่มหมั่นไส้จึงโยนถุงกระดาษสีน้ำตาลใส่
‘นี่เธอไม่คิดที่จะเงยหน้ามามองกันเลยเหรอฮะ’ สิงขรถามเด็กน้อยในใจ
“อะไรคะ?” ถามทั้งที่สาละวนเอากระโปรงและเสื้อยืดออกจากถุง แล้วไม่ถึงวินาที แก้มขาวผ่องก็แดงระเรื่อเมื่อเอาชุดชั้นในสีขาวออกจากถุงเป็นชิ้นสุดท้าย
“กระโปรงและเสื้อไซซ์เอสคงพอดีกับเธอนะ ส่วนยกทรงไซซ์สามสิบสี่คงเข้ากับหน้าอกของเธอ ฉันกะถูกไหม” สิงขรทำหน้าดุดันพูดเสียงตึงๆ มือสองข้างก็ยกขึ้นวัดระดับหน้าอกของเด็กสาวไปด้วย
