บท
ตั้งค่า

ว่าที่สามี

“พี่มินดื่มเยอะแล้วนะ” เมื่อเห็นว่าพี่ชายตัวเองดื่มเยอะกลัวจะขับรถกลับบ้านไม่ไหวก็รีบแย่งแก้วเหล้าออกจากมือ

“อืมริน นิดหน่อยน่า พี่ยังไม่เมาเลย” ยังจะมาเถียง รู้ว่าคอแข็งแต่น้องมาด้วยไหม

“เดี๋ยวก็ขับรถไม่ได้” ฉันพูดหน้ามุ่ย

“ไหวน่า อย่าบ่นนะยัยตัวแสบใครบอกให้ขอตามมาด้วย ตามมาก็มานั่งเหงาอยู่แบบนี้แหละ”

“ก็เขาอยากมา” ฉันพูดแก้มป่อง ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกันที่อยากมาคุมพี่ชาย ทั้งที่ไม่เคยคิด

“พี่สัญญาจะไม่เมา เข้าใจน้องรัก” ฉันได้แต่ถอนหายใจเมื่อได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้น

ฉันสะบัดหน้าใส่พี่ชายตัวเอง พูดไม่เคยจะฟังหรอกพี่ชายฉัน ทีตัวเองห้ามฉันนี่ห้ามได้ ส่วนเพื่อนนะก็รินให้ๆ ไม่เมาก็ไม่รู้จะว่ายังไง ผ่านไปสักพักฉันก็รับรู้ถึงการเอนตัวของพี่ชาย

“พี่มินเมาแล้ว” ฉันพูดกับพี่มินเบาๆ

“อืม ท่าจะจริง พี่เวียนหัวแล้วริน” นั้นไง ดีนะที่ยอมรับว่าตัวเองเมา

“ไหวไหมวะไอ้มิน” พี่ไผ่ถาม ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองทั้งสี่หนุ่ม ดูเหมือนทุกคนจะไม่เมา มีเมาอยู่คนเดียว

“พวกพี่มอมเหล้าพี่มินใช่ไหม” ฉันหันไปถามตาเขม็ง ก็ได้รับเสียงหัวเราะกลับมา

“ต้อนรับมันกลับบ้านซะหน่อย” พี่ทิวว่า

“ให้พี่ช่วยไหม เราขับรถเป็นรึเปล่า” พี่เมฆถามฉันบ้าง

“เป็นค่ะ รินจะพาพี่มินกลับบ้านแล้ว”

“พี่ไหวน่าริน”

“ไหวบ้าอะไร พี่เมาแล้ว” ฉันเถียงคนเมา

“พี่เมาแล้ว พี่รู้แต่พี่เดินไหว” ยังจะเถียงหน้าแดงซะขนาดนี้

“ไหนลองลุกขึ้นเดินดิ” ฉันสั่ง พี่ชายก็พี่ชายเถอะ ว่าแล้วพี่มินก็ลุกขึ้นขนาดลุกยังลำบาก กว่าจะลุกได้ก็เซกันไปหลายตลบ

“ทำไมพื้นมันเอียงวะ”

“เอียงบ้าอะไรตัวเองเดินไม่ตรง” ฉันว่าอยากจะหัวเราะ ดีที่ฉันไม่ดื่มเยอะ แทบไม่ได้ดื่มเลยละ

“จริงเหรอ”

“จริงสิ ถ้ารินไม่มาด้วยจะทำยังไง” ฉันยังบ่นต่อ เอาความดีเข้าตัวเอง

“ก็ไปนอนกับพวกพี่ไงครับ แต่วันนี้มีหญิงมาด้วยมันคงต้องนอนกับหญิง” พี่ทิวพูดขึ้นสายตาวิบวับ มันก็จริงของพวกพี่เขา ถึงฉันไม่มาพี่ชายฉันคงนอนกับเพื่อน แต่ฉันมาด้วยไง ฉันจะเอาพี่ชายฉันกลับบ้านด้วย

“งั้นรบกวนช่วยพาพี่มินไปที่รถให้รินหน่อยนะคะ” ฉันไม่แก้ตัว และขอความช่วยเหลือจากพวกเขา

“งั้นพวกเราก็กลับกันเลย” พวกพี่ๆ เขาเรียกเช็คบิล

“มาครับพี่ช่วย” พี่ทิวกับพี่เมฆเข้ามาพยุงพี่ชายฉัน ส่วนฉันก็เดินตามหลัง

“เป็นเด็กเสี่ยว่างั้น” ฉันได้ยินเสียงลอยมาเข้าหู ก็หันขวับไปทางต้นเสียงทันที

“พูดกับฉันเหรอ” ฉันถามเขา

“ไม่มั้ง” คนอะไรกวนตีน แล้วว่าฉันเป็นเด็กเสี่ย เสี่ยนี่ใคร พี่มินหน่ะเหรอ แต่จะว่าไปก็ไม่ผิดถ้าเขาจะเข้าใจผิด พี่มินเป็นเสี่ยฉันเป็นเด็ก ดูจากอายุพี่มินก็พอได้นะเสี่ยอายุน้อย

“หึ” อีกแล้วเขาหัวเราะแบบนี้ใส่ฉันอีกแล้ว ฉันเลิกสนใจเขารีบเดินไปที่รถที่ตอนนี้พวกพี่ๆ พาพี่ชายฉันไปถึงรถเรียบร้อยแล้ว

“พี่มินขอกุญแจรถหน่อย”

“อยู่ในกางเกงหยิบเอง” ฉันทำหน้าเซ็งๆ กลับบ้านไปถ้าพ่อกับแม่ยังไม่นอน มีหวังโดนดุแน่ พาน้องมาด้วยแทนที่จะดูแลน้องกลับให้น้องมาดูแล

“ข้างไหน” ฉันถาม

“ขวา” พี่มินพูดเสียงย่านๆ

“ให้พี่หยิบให้ไหมครับ” พี่ไผ่เสนอ

“ไม่เป็นไรค่ะ รินหยิบเอง” ฉันไม่ได้คิดอะไรไง แต่ใครจะคิดรึเปล่าฉันไม่รู้

“หึ” แต่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอส่งมาก ฉันไม่สนใจตอนนี้สนใจกุญแจรถมากกว่า

“พี่มินนิ่งหน่อยรินล้วงไม่ได้”

“อืมมม ทำอะไรวะยัยบ้าระวังหน่อย” ถึงสติไม่ครบแต่ก็ยังรู้ตัวหนิว่าฉันทำอะไร

“ทำไมหวงเหรอ ทีกับสาวไม่หวง” ฉันพูดติดตลก ฉันบอกแล้วว่าฉันกับพี่ชายสนิทกันและฉันออกจะเป็นคนห้ามๆ หน่อย เล่นกับพี่ชายมาตั้งแต่เด็กถ้ามีเวลาฉันก็จะคลุกอยู่กับพี่มินตลอด เราเลยไม่มีอะไรต้องอายกัน

ฉันไม่รู้ว่าพี่น้องคู่อื่นเป็นแบบนี้ไหมแต่ฉันเป็น คนอื่นเขาถึงเข้าใจผิดบ่อยๆว่าเราเป็นแฟนกันเพราะทั้งคำพูดและการเล่นกันของเรา แต่เราก็ไม่คิดจะแก้ตัว พี่มินบอกว่าดีแล้วจะได้ไม่มีหนุ่มๆ เข้ามายุ่ง

แต่ตอนนี้พี่ชายฉันไม่รู้สะแล้วว่าเพื่อนตัวแสบของฉันกำลังจะยุให้ฉันมีผัว

“หวงดิ” พี่มินตอบ แล้วก็ทำท่าเหมือนจะหลับ

“เอ๊ย อย่ามาล้วงอะไรกันตรงนี้กลับไปล้วงกันที่ห้อง” พวกพี่ๆ คงจะฟังเราอยู่เลยพูดขึ้น

“ได้แล้ว” ฉันร้องดีใจที่หยิบกุญแจรถออกมาได้

“ดูแลมันด้วยนะน้อง” พิทิวบอกหลังจากดันพี่มินเข้าไปในรถ

“ค่ะ รินพาพี่มินกลับก่อนนะคะ”

“ขับรถดีๆ ล่ะ ระวังหน่อยไอ้มินตอนเมาเอาเรื่อง” พี่ไผ่พูดยิ้มๆ ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วก็นึกคำพูดของเขา พอนึกออกว่าเขาหมายความว่ายังไงก็ส่งยิ้มไปให้

“รินเอาอยู่ค่ะ ไปนะคะสวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทุกคน จนคนสุดท้ายที่ฉันสบตาด้วยเขาก็มองฉันไม่วางตาเช่นกัน มันเหมือนมีแววความไม่พอใจอยู่ในนั้น อะไรของเขา

ฉันขับรถพาพี่มินกลับมาบ้านก็เกือบจะตีสอง แล้วฉันจะเอาพี่ชายฉันเข้าบ้านได้ยังไง

“พี่มิน ตื่นเข้าบ้าน” ฉันเขย่าๆ แขนพี่มิน

“อืม ถึงแล้วเหรอ” คนเมาก็สะลึมสะลือแต่ยังไม่ลืมตา

“ถึงแล้ว”

“พวกนั้นมันมอมเหล้าพี่” แนะ รู้ยังปล่อยให้เพื่อนมอม

“ตื่นเลย รินแบกพี่ขึ้นบ้านไม่ไหวหรอกนะ ปล่อยให้นอนในรถเลย”

“น้องใจร้าย” พี่มินพูดเสียงยานๆ ตาก็ยังไม่ลืม ฉันเปิดประตูแล้วก็อ้อมมาอีกข้างเพื่อนจะพยุงพี่มิน คืนนั้นกว่าจะแบกพี่มินขึ้นบ้านได้ก็เล่นเอาเหนื่อย

“ริน ลูกไม่มีเรียนเหรอวันนี้” เสียงเคาะประตูทำให้ฉันสะลึมสะลือตื่น เมื่อคืนไปเที่ยวกับพี่มินจนไม่อยากจะตื่นไปเรียน ฉันเหลือบไปมองนาฬิกา ก็เห็นว่านี่สิบโมงแล้ว

“มีค่ะแม่ รินมีเรียนบ่ายโมง” ฉันตะโกนบอก วันนี้ฉันมีเรียนบ่ายโมง

“งั้นก็อาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวจะได้ไปเรียน”

“คร๊า” ฉันบอกแม่แล้วก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ ไม่รีบเท่าไหร่เพราะยังมีเวลาอีกเยอะ แต่ก่อนจะเข้าห้องน้ำก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อน

ก็เห็นไลน์เพื่อนๆ ส่งมา

พราว: มิรินแกอยู่ไหน ฉันบอกให้มาแต่เช้าไม่เห็นหัวเลยนะ     ฉันขมวดคิ้วมองข้อความจำได้อยู่หรอกว่ามันบอกให้ไปแต่เช้า แล้วทำไมฉันต้องทำตามมีเรียนตั้งบ่าย ส่วนพวกมันที่ต้องไปแต่เช้าเพราะต้องไปส่งผัว วันนี้ผัวพวกมันมีเรียนเช้า เลยบังคับให้ฉันไปเช้าเป็นประจำทุกวันของวันพุธ

มิริน: พึ่งตื่น ฉันพิมพ์กลับไปสั้นๆ

พราว: เลวมาก ปล่อยให้พวกฉันรอ ไม่อยากรู้เรื่องว่าที่ผัวแกรึไง

มิริน: ไม่อยาก

ฉันตอบสั้นๆ ฉันไม่เห็นจะสนใจสักนิด พวกมันอยากให้ฉันมี ฉันไม่เห็นอยากมีเลย

พราว: ตรงมาก แต่ฉันอยากบอกรีบมาเลย พวกสองตัวก็มารอตั้งนานแล้ว

มิริน: เออๆ ๆ

หลิว:ให้ไว

ฉันถอนหายใจแล้วก็เข้าไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวแล้วก็เดินลงมาข้างล่าง

“พี่มินล่ะคะแม่” ฉันถามหาพี่ชายตัวเอง

“เข้าบริษัทกับพ่อเราแต่เช้าแล้ว”

“อ่อ แล้วนี่มีอะไรกินบ้างคะ” ฉันรับรู้ นี่ขนาดเมายังตื่นไปทำงานได้ พี่ชายฉันมีความรับผิดชอบดีจริงๆ

“ข้าวต้มกุ้ง อยากกินอะไรไหมล่ะเดี๋ยวแม่ทำให้” แม่ฉันถาม การอยู่บ้านมันดีแบบนี้แหละ

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ กินแค่นี้ก็พอ” ฉันลงมือกินข้าวกินเสร็จก็ขึ้นไปหยิบกระเป๋าเพื่อที่จะไปมหาลัย

“รินไปก่อนนะคะแม่ จุ๊บ” ฉันเดินเข้าไปกอดแม่ที่นั่งถักไหมพรมอยู่ที่โซฟา แม่ฉันอยู่บ้านเป็นแม่บ้านเฉยๆ ท่านก็เลยหาอะไรทำแก้เหงา

“จ๊ะ ขับรถดีๆ นะลูก ตอนเย็นกลับมากินข้าวที่บ้านรึเปล่า”

“เดี๋ยวรินจะโทรบอกนะคะ ไปนะ” ฉันบอกท่านแล้วก็เดินออกมาที่รถ ฉันบอกแล้วครอบครัวฉันให้อิสระแก่ลูก ท่านไม่เคยห้ามว่าลูกๆ จะทำอะไรแต่ก็บอกว่าคิดให้ดีก่อน เพราะท่านเคยพูดว่าเลี้ยงลูกเลี้ยงได้แค่ตัวเราบังคับเขาไม่ได้

ฉันชอบนะ และฉันเองก็พยายามที่จะไม่ทำอะไรที่ทำให้พวกท่านไม่สบายใจ

พอมาถึงมหาลัยฉันก็เดินไปหาพวกเพื่อนที่โต๊ะประจำ ฉันรู้ได้เลยว่าพวกมันอยู่ตรงนั้นแน่นอน

“มาแล้วโว้ย” ยัยหลิวตะโกนขึ้นเมื่อมันเห็นฉัน จะตะโกนทำซากอะไรไม่รู้รึไงคนมอง ฉันถลึงตาใส่มัน

“ตะโกนหาอะไรของแก” ฉันด่าฉันแล้วก็นั่งลง

“ก็ตะโกนใส่คนมาสายไง”

“ฉันมีเรียนบ่าย” ฉันเถียงพวกมัน

“แต่พวกฉันนัดแกตอนเช้า”

“เมื่อคืนฉันไปเที่ยวกับพี่มินมาไง เลยตื่นสาย” ใช่ว่าพวกมันจะไม่รู้

“เออๆ ให้อภัยพี่แกหล่อ” พอพูดถึงพี่มินหน่อยไม่ได้ให้อภัยเชียว

“มาดูนี่ดีกว่า ข้อมูลว่าที่ผัวแก” ยัยพราวยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉัน

“พวกแกเอาจริงเหรอวะ ฉันว่าฉันหาเองดีกว่านะ”

“ดูก่อน นี่เดือนวิศวะเลยนะเว้ย ที่สำคัญโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉันยังเสียดายเลยถ้าไม่มีผัวนี่ไม่มีทางให้แกจีบแน่นอน” ยัยพราวพูดอย่างออกรสชาติ

“แน่ใจได้ยังไงว่าเขาโสด” ฉันถาม

“ก็พวกฉันไปสืบมาแล้ว” ยัยหลิวเสริม

“แต่ซิงรึเปล่านี่ไม่รู้” ยัยขวัญต่อ ฉันส่ายหัว ถ้าหล่อรวย มันจะเหลือเหรอ เสือชัว

“อย่าพูดคำว่าซิงเลยมีเมียกี่คนยังนับไม่ได้เลยถ้าพวกแกบอกว่าเขาหล่อ” ฉันออกความคิดบ้าง

“เรื่องนั้นช่างมัน เพราะเขาโสด จะมีผู้หญิงควงเล่นก็ไม่แปลก”

“พวกแกเป็นเอามาก ไม่ห่วงฉันเลยรึไง”

“ห่วงแต่อยากให้เพื่อนมีผัวหล่อ ก็แค่ลองๆ ดูก่อนไม่ต้องไปเสียตัวให้เขาก็ได้ ถ้าไม่โอก็ถอย” ยัยหลิวออกความเห็น

“เออๆ ไหนเอามาดูดิ” ฉันเอออ่อตามพวกมัน

“นี่” ยัยพราวยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันดู ฉันรับมาดูน่าจะเป็นอินตราแกรมของผู้ชายคนนั้น

“เขาชื่อไม้หม่อน เห็นไหมแค่ชื่อก็น่ารักน่าหยิกแล้ว” ฉันขมวดคิ้วมองภาพผู้ชายในรูป ไม้หม่อนเหรอ

“เอ๊ย” ฉันร้องออกมาอย่างดัง เมื่อดูรูปที่เห็นหน้าเขาชัดๆ

ใช่เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel