บทที่ 2 ได้เจ้าแม่เป็นเมีย
บทที่ 2
ได้เจ้าแม่เป็นเมีย
มนพรหันขวับมามองลูกชายด้วยความตกตะลึง เช่นเดียวกับนางพรายตานีสาวที่อ้าปากค้างด้วยความตกใจเช่นกัน
‘แค่ส่งยิ้มหวานหยดย้อยแค่นี้ ถึงกับตกตะลึงในความสวยของกูจนเป็นลมเลยหรือ ช่างขวัญอ่อนแท้ อย่างนี้จะมาเป็นผัวกูได้อย่างไรกันเล่า’
กลิ่นจันทร์แอบบ่นในใจ พลางส่ายหน้าระอากับความขวัญอ่อนของธาม
“ธาม ธาม เป็นอะไรลูก ใครอยู่แถวนี้บ้างรีบมาช่วยคุณธามเร็วเข้า”
เสียงร้องลั่นด้วยความตกใจของมนพร ทำให้คนงานที่อยู่ละแวกนี้รีบตรงมาที่นี่ทันที
ร่างของธามถูกหามเข้าไปที่ห้องนอนของเขาเมื่อตอนยังเด็ก บ้านหลังนี้เขาอาศัยอยู่กับแม่ตั้งแต่ยังเด็ก แต่เมื่อเขาเรียนจบชั้นมัธยมปลายก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในตัวเมือง และสร้างบ้านที่อยู่ปัจจุบันเมื่อสองปีก่อน
หากว่ากันตามตรงเขาเพิ่งจะกลับมาที่บ้านเรือนไทยหลังนี้หลังจากเหตุการณ์ที่น่าตกใจเมื่อห้าปีก่อน และเพราะเขามักเห็นนางตานีตนนี้อยู่บ่อยครั้งจึงทำให้เขาหลีกเลี่ยงการมาที่นี่โดยปริยาย
ในห้วงฝันอันสงบของธาม ชายหนุ่มยืนอย่างเคว้งคว้างที่ดงกล้วยตานี อันเป็นสถานที่ที่เขาไม่อยากจะมาที่สุด
“เจ้าแม่ออกมาคุยกับผมได้แล้วครับ ผมรู้นะว่าเจ้าแม่เข้ามาในฝันของผม เมื่อกี้ผมแค่ตกใจที่จู่ ๆ เจ้าแม่ก็ชะโงกหน้าเข้ามา และผมไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยงจึงเป็นลมไปนะครับ ไม่ได้เป็นลมเพราะกลัวเจ้าแม่นะครับ”
ธามตะโกนเสียงดังเพื่อหวังให้นางพรายตานีสาวได้ยินในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ
กลิ่นจันทร์ที่แอบอยู่ในดงกล้วยตานีหัวเราะขำกับท่าทางที่น่าเอ็นดูของชายหนุ่ม เวลาช่างผ่านไปเร็วจริง ๆ จากเด็กชายตัวอ้วนกลมตอนนี้เติบโตกลายมาเป็นชายหนุ่มเสียแล้ว
กลิ่นจันทร์ในรูปลักษณ์ของหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยหวาน แต่งกายด้วยผ้าสไบสีเขียวอ่อน นุ่งโจงกระเบนสีเขียว และทัดดอกชบาที่หูออกมาปรากฏตัวที่ด้านหน้าของชายหนุ่ม
เฮือก!!
ธามผงะถอยหลังไปสามก้าวด้วยความตกใจก่อนจะตั้งสติกลับมาได้ เขาฝืนยิ้มเล็กน้อยให้กับเจ้าแม่กลิ่นจันทร์คนสวย
“สวัสดีครับเจ้าแม่กลิ่นจันทร์”
ธามยกมือไหว้ด้วยท่าทางเคารพประหนึ่งไหว้ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง หากให้นับอายุระหว่างเขากับเจ้าแม่กลิ่นจันทร์ เขาก็คงเป็นเหลนของเหลนของเหลนของเจ้าแม่กลิ่นจันทร์
“ไม่กลัวกูแล้วหรือ”
“ไม่ได้กลัวครับ แค่ตกใจเลยหน้ามืด”
“อ้อ กูจะพยายามเข้าใจตามนั้น”
กลิ่นกายหอมกรุ่นจากนางพรายตานีสาวลอยมาแตะปลายจมูกของธาม เขาเผลอสูดดมเข้าไปด้วยความชอบใจ
“เรื่องที่แม่บอกจะถวายผมให้เป็นสามีของเจ้าแม่มันหมายความว่ายังไงครับ”
เขาเอ่ยถามเรื่องที่ค้างคาใจทันที
“มึงมีเคราะห์หนัก อาจจะปางตายเพราะเจ้ากรรมนายเวรของมึงในชาติก่อน และชาตินี้ แม่มึงจึงได้คิดจะถวายมึงให้กับกู แต่กูก็ไม่ได้คิดจะเอาเด็กอย่างมึงทำผัวหรอกนะ”
“เคราะห์หนัก? เจ้ากรรมนายเวร? ผมไม่เชื่อเรื่องงมงายแบบนี้หรอกครับ และขอบคุณเจ้าแม่มากที่ไม่บ้าจี้ตามแม่ของผมไปด้วย”
“เห็นกูเป็นแค่วิญญาณแต่กูก็เลือกนะ กูไม่คิดจะเอาเด็กน้อยมาทำผัวหรอก”
คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความไม่พอใจ คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก อยากรู้จริง ๆ ว่าถ้ามาเห็นของเขาจริง ๆ จะกล้ามาพูดว่าเด็กอีกไหม?
“ดีครับ ผมได้ยินอย่างนั้นผมก็สบายใจ”
“แต่ช่วงนี้มึงระวังตัวไว้ให้ดี อย่าได้ไปกินของของใครสุ่มสี่สุ่มห้าเล่า ถึงกูจะพยายามตามไปดูมึงเกือบทุกที่ แต่บางครั้งก็มีสถานที่ที่กูไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปได้”
“ตามดู? เจ้าแม่แอบมาตามดูผมเหรอครับ”
“เออ! ถ้าไม่ใช่กูป่านนี้มึงได้ถูกรถชนตายห่าไปแล้ว จำได้ไหมเล่าที่จู่ ๆ ก็มีรถพุ่งเข้ามาจะชนมึง แต่กูช่วยเบี่ยงรถให้ตกข้างทางไปก่อน”
“อะไรนะครับ?”
ธามเบิกตากว้างด้วยความคาดไม่ถึง หรือว่าอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดกับเขาอยู่บ่อย ๆ นั้นจะเป็นเพราะดวงชะตาของเขาเหรอ
ชายหนุ่มสะบัดศีรษะไล่ความคิดไร้สาระออกไป เขาไม่เชื่อว่าเป็นเพราะคราวเคราะห์ของเขาหรอก แต่คงจะเป็นฝีมือของคนที่เขาไปขัดแข้งขัดขามากกว่า ดวงตาคมดุของชายหนุ่มสว่างวาบก่อนจะสงบลงราวกับไม่เคยเกิดขึ้น
“เพราะอย่างนี้ไง แม่มึงถึงอยากจะยกมึงให้เป็นผัวของกู ถ้ากูเป็นเมียของมึงก็จะสามารถอยู่ใกล้ตัวมึงและคอยช่วยเหลือมึงได้ทุกที่”
“ผมดูแลตัวเองได้ครับ เรื่องนี้ผมจะกลับไปคุยกับแม่เองครับ”
“อืม”
ดวงตาคู่สวยมองธามอย่างพิจารณา กวาดสายตามองธามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ
‘ไอ้เด็กนี่โตมาก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย หุ่นก็ดีด้วย’
ธามตื่นขึ้นมาในยามสายของอีกวัน แสงแดดที่ลอดเข้ามาผ่านทางหน้าต่างไม้สัก ทำให้เห็นว่าบนเตียงกว้างขนาดใหญ่มีร่างสมส่วนของธามนอนแผ่หลาอยู่ โดยที่เขาได้เปลี่ยนมาใส่ชุดนอนตัวบางสีดำแล้ว เป็นคนงานของที่บ้านที่เป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาตามคำสั่งของมนพร
เปลือกตาขยับขึ้นทีละนิดแล้วจึงลืมตาขึ้นมามอง สายตาคู่คมกวาดมองห้องนอนของตัวเองที่ยังคงเหมือนกับสมัยก่อนในตอนที่เขายังเคยอยู่ที่นี่ ธามลุกขึ้นนั่งก่อนจะจัดการกับความคิดของตัวเองในหัว
เขายังคงรู้สึกว่าเรื่องเมื่อวานคือความฝัน แต่จากที่ยังได้กลิ่นหอมเย็น ๆ อันแสนคุ้นเคยที่โชยออกมาจากร่างของเจ้าแม่กลิ่นจันทร์ ทำให้เขารู้ว่านี่คือความจริง
เฮ้อ...อะไรวะเนี่ย!!
ธามถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนอื่นเขาคงต้องไปคุยเรื่องนี้กับแม่ให้รู้เรื่อง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่คิดจะเอาเจ้าแม่นางตานีเป็นเมียเด็ดขาด!!
ร่างสูงสมส่วนของธามเดินลงมาข้างล่างยังห้องอาหารของบ้าน มนพรกำลังนั่งกินกาแฟรอลูกชายอยู่ก่อนแล้ว เธอหันมาส่งยิ้มกว้างให้กับลูกชาย
“เมื่อคืนหลับสบายไหมลูก”
มนพรเอ่ยถามหลังจากที่ธามนั่งลงบนเก้าอี้ด้านตรงข้าม ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความคิดที่หลากหลายที่อยู่ในหัว
“แม่ครับ ผมคิดว่าแม่ลืมเรื่องนี้ไปเถอะครับ”
“ไม่ได้!! แม่ยกธามให้เจ้าแม่แล้ว ธามจะให้แม่เป็นคนผิดคำพูดเหรอ”
ใบหน้าที่เริ่มมีรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลาแสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างมาก
ธามเองก็ไม่มีวันยอมคนเป็นแม่เช่นกัน เรื่องนี้สำหรับเขามันเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตของเขามาก เขาโตจนสามารถมีครอบครัวได้แล้วจะไม่ยอมให้ผู้เป็นแม่มาบงการชีวิตของเขาได้
“นี่มันปี พ.ศ.ไหนแล้วครับแม่ ใครมันจะบ้าเอานางตานีมาทำเป็นเมียครับ”
ธามเผลอตวาดผู้เป็นแม่เพราะความหงุดหงิดใจ นี่มันชีวิตของเขาต้องเป็นเขาที่เลือกเองสิ
“ได้! ในเมื่อธามคิดอย่างนี้แม่ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถ้าธามอยากให้แม่ต้องเป็นห่วงธามจนจะขาดใจตาย ธามอยากทำอะไรก็ทำไปเลยลูก”
มนพรลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปทันที น้ำตาแห่งความเสียใจที่คนเป็นลูกไม่เห็นความหวังดีของเธอไหลพรากลงมาอาบแก้ม เธอยกมือขึ้นมาเช็ดลวก ๆ ก่อนจะรีบเดินไปหลังบ้าน
“โธ่เว้ย!!”
ธามสบถออกมาด้วยความหัวเสีย เขามองแผ่นหลังที่สั่นเทาของผู้เป็นแม่ด้วยความปวดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขากับแม่มีปากเสียงกัน และนี่เป็นครั้งที่สามที่เขาเห็นน้ำตาของแม่
ครั้งแรกคือวันที่ต้องสูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ
ครั้งที่สองคือน้ำตาแห่งความดีใจที่แม่ถูกรางวัลที่ 1
และครั้งนี้...ครั้งที่สาม
ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาเสยผมที่ปรกลงมาที่ใบหน้าด้วยความเครียด เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับปัญหาในครั้งนี้ดี
บริษัท T.
วันนี้ทั้งวันธามไม่มีสมาธิในการทำงานเลย เขาเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องที่คุยกับแม่เมื่อเช้านี้ และใบหน้าของเจ้าแม่กลิ่นจันทร์ที่มักลอยเข้ามาอยู่ในหัวของเขาเสมอ โดยเฉพาะกลิ่นกายหอมเย็นของดอกไม้ป่าที่มันติดตรึงในหัวใจของเขา
“คุณธามคะ คุณธาม!!”
“ครับ?”
“เป็นอะไรเปล่าคะ วันนี้กอหญ้าเห็นคุณธามสีหน้าไม่ดีเลยค่ะ”
เลขาสาวนำแฟ้มเอกสารมาให้เซ็นก็เห็นเจ้านายนั่งเหม่อลอยอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ สายตาของเขามันเหม่อมองออกไปไกลจนเธอนึกเป็นห่วง
“อยู่กันลำพังคุยธรรมดาเถอะกอหญ้า”
“แล้วธามเป็นอะไร มีเรื่องไม่สบายใจเหรอ ระบายให้กอหญ้าฟังได้นะ”
กอหญ้าเดินอ้อมมาทางด้านหลังแล้วลงมือบีบนวดที่ไหล่แข็งแรงของธาม เวลาที่ธามรู้สึกเคร่งเครียดกับงานเธอมักจะช่วยบีบนวดที่ไหล่ให้เขาเสมอ
“ถ้า...แม่ของกอหญ้าขอให้ทำเรื่องที่กอหญ้าไม่อยากทำ แต่แม่ทำเพราะหวังดี กอหญ้าจะทำยังไงเหรอ”
“อืม...ยากเหมือนกันนะ แต่กอหญ้าคิดว่าสิ่งที่แม่ธามตัดสินใจมานั้น แม่ของธามคงคิดมาดีแล้วล่ะ ถ้าเป็นกอหญ้าถึงจะไม่สบายใจแต่ถ้าเป็นความต้องการของแม่ กอหญ้าก็จะทำตามที่ท่านต้องการ”
น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยแผ่วเบาที่ริมใบหูของธาม
“ขอบคุณมากนะกอหญ้า เรารู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ” ธามผละตัวออกเล็กน้อยกับความใกล้ชิดที่มากเกินไป
“อืม ถ้าธามมีเรื่องที่ไม่สบายใจมาคุยกับกอหญ้าได้ตลอดเวลาเลยนะ”
หญิงสาวส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับชายหนุ่มด้วยความจริงใจ
“ขอบคุณนะ”
คล้อยหลังที่กอหญ้าเดินออกไปจากห้องทำงาน ธามก็กลับมาคิดทบทวนอีกครั้ง หรือเขาจะยอมทำตามความต้องการของแม่ดี แต่...การต้องมาเป็นสามีของเจ้าแม่ที่เป็นนางตานี มันก็ออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไป
ถ้ามีคนรู้ว่าเขามีเมียเป็นนางตานี ภาพลักษณ์ของเขาที่เป็นประธานบริษัทจะไม่ป่นปี้หมดเลยเหรอ
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด!!
เวลา 20.15 น.
ธามขับรถฝ่าการจราจรที่ติดหนึบกลับมาที่บ้านเรือนไทย กว่าเขาจะมาถึงก็ดึกมากแล้ว ในมือของชายหนุ่มกำลังถือโทรศัพท์สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด เขากำลังเปิดอ่านตำนานของนางตานีเพื่อหาข้อมูลประกอบกับการติดสินใจ
‘ถ้าต้นกล้วยตานีที่เซ่นวักออกปลีกลางต้น แสดงว่ามีพรายนางตานีมาสิงสถิตที่ต้นกล้วยตานี หากเป็นชายหนุ่มที่ยังโสดจะมาที่ต้นกล้วยตานีทุกคืนเพื่อเกี้ยวพาราสี เมื่อพรายนางตานีใจอ่อนยินยอมเป็นเมียจะมาเข้าฝัน ถ้าได้พรายนางตานีเป็นเมียแล้ว ชายคนนั้นจะไปมีเมียคนอื่นอีกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิต แต่ถ้าอยากมีเมียที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ต้องขออนุญาตพรายนางตานีก่อน พรายนางตานีที่เห็นความซื่อสัตย์จริงใจก็จะยินยอม ว่ากันว่าพรายนางตานีนั้นเป็นเมียที่ดีมาก จะคอยช่วยเหลือสามี ให้โชคลาภเงินทอง ไม่หึงหวงตีโพยตีพาย แต่คนสมัยก่อนเชื่อว่าหากใครได้พรายนางตานีเป็นเมียมักจะมีอันเป็นไป!!’
“ฮะ! ถึงตายเลยเหรอวะ”
“ไม่ตายหรอก แค่ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง ฮ่าฮ่า”
“เฮ้ย!!”
ธามผงะถอยหลังด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยหวานของเจ้าแม่กลิ่นจันทร์ยื่นเข้ามาอ่านข้อความในโทรศัพท์ของเขาที่เปิดค้างเอาไว้
“หึ ยังขวัญอ่อนอยู่อีกนะ”
“เจ้าแม่เล่นมาเงียบ ๆ จะไม่ให้ผมตกใจได้ยังไงครับ”
ธามกลอกตามองบนกับความช่างแซะของเจ้าแม่กลิ่นจันทร์
“ก็กูเห็นมึงทำลับ ๆ ล่อแถวศาลของกู”
“คราวหลังอย่ามาเงียบ ๆ อีกนะครับ ช่วยส่งเสียงมาให้ผมได้รู้ตัวบ้าง”
“ฮ่ะฮ่า กูจะพยายามนะ”
พรายตานีสาวส่งยิ้มพราย เรือนร่างอ้อนแอ้นลอยเข้ามาประชิดชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ
“มึงเปลี่ยนใจอยากจะเป็นผัวกูแล้วเหรอ”
“ถ้าเจ้าแม่สัญญาว่าจะยอมให้ผมมีเมียที่เป็นมนุษย์ และยอมสัญญาว่าผมจะไม่แห้งตายก่อนวัยอันควรเพราะเป็นสามีของเจ้าแม่ ผมก็ตกลงครับ”