บทที่ 3 เดินหน้าจีบเจ้าแม่
บทที่ 3
เดินหน้าจีบเจ้าแม่
กลิ่นจันทร์ได้ฟังคำพูดของธามก็อดจะรู้สึกถูกใจไม่ได้ แต่ทำไมเธอจะต้องเล่นไปตามเกมของเขาด้วยล่ะ ถึงเธอจะเกิดมานานหลายร้อยปี แต่เพราะต้องปรับตัวและตามให้ทันยุคสมัยของมนุษย์ เธอก็สามารถปรับตัวได้ในระดับหนึ่ง แต่คงจะมีแค่คำพูดที่ยังติดปากในยามที่ยังเป็นมนุษย์
“มึงมีอะไรดีที่กูถึงกลับต้องอยากได้มึงมาเป็นผัวด้วยเล่า”
“ผมบริสุทธิ์”
เขากัดฟันพูดเสียงลอดไรฟัน ใบหูทั้งสองข้างแดงก่ำด้วยความอับอาย ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาโฆษณาความบริสุทธิ์ของตัวเองแบบนี้
“เหอะ!! พวกไม่มีประสบการณ์ กูไม่ได้อยากได้เด็กอ่อนหัดมาเป็นผัวหรอกนะ”
“รู้ได้ยังไงว่าผมอ่อนหัด”
ธามก้าวเท้าเข้าประชิดเข้าไปหากลิ่นจันทร์ ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม จนพรายตานีสาวรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นร้อนของชายหนุ่มที่รินรดใบหน้าของเธอ
“กูไม่ชอบ”
กลิ่นจันทร์เบือนหน้าหนีลมหายใจของเขา ความรู้สึกวูบวาบแล่นไปทั่วท้องน้อย
“ไม่เคยลองแล้วจะรู้เหรอครับว่าชอบหรือไม่ชอบ”
ธามกระตุกยิ้มร้าย เขาเคยแต่โดนเจ้าแม่กลั่นแกล้ง แต่พอกลายเป็นเขาได้แกล้งคืนบ้างก็สนุกดีเหมือนกัน ยิ่งเห็นสีหน้าเลิ่กลั่กของเจ้าแม่ เขายิ่งรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ
“กูไม่ลองทั้งนั้นแหละ มึงกลับไปได้แล้ว กูจะนอน”
กลิ่นจันทร์เอ่ยจบก็เลือนหายไปจากสายตาของธามในทันที
“อายเป็นเหมือนกันเหรอเนี่ย”
ธามหลุดขำกับท่าทางที่ดูหวาดกลัวเขาของเจ้าแม่ หากสังเกตให้ดีเขารู้สึกว่ากำลังจีบเด็กสาว ไม่ใช่เจ้าแม่นางตานีที่มีผู้คนมากมายพากันกราบไหว้
จู่ ๆ ในหัวเขาก็คิดเรื่องสนุกได้ เขาเองก็ไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อน ลองจีบเจ้าแม่เพื่อสั่งสมเป็นประสบการณ์ก็คงดีไม่น้อย เอาไว้มาปรับใช้เวลาเจอผู้หญิงที่ถูกใจอยากให้มาเป็นแม่ของลูกก็ไม่เสียหายอะไร
ธามเดินกลับเข้าไปในบ้านอย่างอารมณ์ดี เขาผิวปากเล่นเมื่อตัดสินใจได้ว่าเขาจะตามจีบเจ้าแม่กลิ่นจันทร์ แม่ของเขาที่อยากยกเขาให้กับเจ้าแม่ก็จะได้สบายใจด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว!!
แต่ธามคงจะไม่คิดว่าในอนาคตจะเป็นเขาที่ขำไม่ออก…
ผับ XX
ธามในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีเข้มเดินเข้ามายังผับของไคโร วันนี้พวกเขานัดกันว่าจะมาดื่มสังสรรค์ที่นี่ ชายหนุ่มเดินขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นชั้น VVIP เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าทุกคนมากันครบแล้ว
“ไง มาช้านะมึง”
ไคโรเอ่ยทักธาม ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปซุกไซ้ที่ลำคอขาวของหญิงสาวที่แต่งกายเซ็กซี่ด้านข้าง
“กูติดงาน นี่ก็รีบมาให้เร็วที่สุดแล้ว”
“เออ ๆ วันนี้เอาสักคนไหมมึง มีน้องใหม่ด้วย น่ารักอย่างงี้เลย”
“ลองเอามาสิ”
“ฮะ!!”
ไคโรจ้องเพื่อนด้วยความแปลกใจ เช่นเดียวกับเซนส์ที่มองธามด้วยความสงสัย
วันนี้มันมาแปลกแฮะ ปกติไม่เคยจะสนใจสาวที่เขาเสนอมาให้เลยสักครั้ง
“ไปตามน้องใหม่มาสิ”
“ค่ะเฮีย”
ผู้หญิงที่ไคโรโอบกอดลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปทำตามคำสั่ง พวกเขารอไม่นานหญิงสาวที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาก็เดินเข้ามาทักทาย เธอสวมชุดเดรสวาบหวิวสีดำที่ชวนให้ใจสั่น เปิดเผยเนินอกขาวผ่องและท่อนขาเรียวยาวสวย ริมฝีปากเล็กเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงก่ำ ใบหน้าของเธอทั้งดูน่ารักและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อญาดาค่ะ”
ญาดาส่งยิ้มหวานให้กับทุกคน แต่สายตากลับทิ้งท้ายไปหาธามด้วยความตื่นเต้นและประหม่าเล็กน้อย
“ไปดูแลเพื่อนเฮียคนนู้นหน่อยสิญาดา”
“ค่ะเฮีย”
ญาดาเดินกรีดกรายเข้าไปนั่งใกล้กับธาม เธอส่งยิ้มยั่วยวนพลางจงใจเบียดหน้าอกอวบอิ่มที่โผล่พ้นชุดเดรสโดนท่อนแขนของเขา สะโพกกลมมนเบียดเข้ามาจนเกือบจะเกยมานั่งบนตักของธามอยู่แล้ว
ธามมองญาดานิ่งก่อนจะยกแก้วเหล้าที่หญิงสาวชงให้มาดื่ม สายตาคู่คมมองญาดาก่อนจะรู้สึกคุ้นหน้าของอีกฝ่าย
“เราเคยเจอกันมาก่อนไหม”
“อุ๊ย พี่ธามจำญาดาได้ด้วยเหรอคะ”
คิ้วเข้มขมวดมุ่น เขาแค่รู้สึกคุ้นหน้าแต่จำไม่ได้ว่าญาดาคือใคร แล้วที่เรียกเขาว่าพี่นี่คือรู้จักเขาเหรอ
“มึงไม่ต้องทำหน้างง น้องญาดาเคยเป็นรุ่นน้องที่มหาลัยเราไง น้องเขาอยากทำงานพิเศษกูเลยรับเข้ามาช่วยเชียร์แขกที่ห้อง VVIP เฉพาะคืนวันเสาร์”
“ไม่เด็กเกินไปเหรอวะ”
เซนส์ที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง สายตาของเขามองญาดานิ่งด้วยความไม่ชอบใจ
“ญาดาอายุ 23 แล้วนะคะ ไม่เด็กแล้วค่ะ”
“น้องเขาไม่เด็กแล้วนะมึง ทำงานประจำที่บริษัทใหญ่ด้วย อีกอย่างกูแค่ให้น้องช่วยพูดคุยกับแขก ไม่ได้ให้รับงานอย่างอื่นเลยนะโว้ย”
ไคโรออกตัวก่อน เขาจะกล้าให้ญาดามารับแขกได้ยังไงกัน อีกอย่างน้องเขาก็รับงานแค่มาคุยกับแขกเป็นบางวันเท่านั้นเอง
“แต่ถ้าพี่ธามอยากชวนญาดาไปต่อ ญาดาก็พร้อมไปนะคะ”
ญาดาส่งยิ้มหวานมาให้กับธามอย่างสื่อความนัย ที่เธอลงทุนมาทำงานที่นี่ก็เพราะหวังจะได้ใกล้ชิดกับธาม ผู้ชายที่เธอแอบหลงรักตั้งแต่ปี 1
“ไม่ได้!!”
เซนส์ลุกขึ้นยืนแล้วจับแขนญาดาแน่น
“วันนี้กูขอจองน้องคนนี้แล้วกันนะ มีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยว่ะ”
เซนส์จูงแขนญาดาเดินออกไปทันที ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำจนแทบจะดูไม่ได้ ญาดาตั้งท่าจะขัดขืนแต่เห็นสายตาที่โกรธเคืองของเขาก็ได้แต่ยอมเดินตามออกไปด้วย
“อะไรวะ? ทำไมไอเซนส์มันหวงญาดาจังเลยวะ หวงอย่างกับเมียอย่างนั้นแหละ แปลก”
“เออ แปลกจริงนั่นแหละ”
ธามเลิกสนใจเรื่องของเซนส์กับญาดา ก่อนจะนั่งกินเหล้าต่อจนเวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบเที่ยงคืน
“วันนี้กูกลับก่อนนะ”
“เออ ๆ เจอกันพรุ่งนี้โว้ย”
ไคโรโบกมือลาเพื่อน แล้วประคองหญิงสาวหายเข้าไปในห้องด้านหลัง คืนนี้ยังอีกยาวไกลนักสำหรับหนุ่มโสดอย่างเขา
ธามกลับเข้ามาที่บ้านก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว น่าแปลกที่เขาขับรถมาที่บ้านสวนแทนที่จะเป็นบ้านที่เขาอยู่ประจำ ธามเดินตรงดิ่งไปยังหลังบ้านที่มีศาลของเจ้าแม่กลิ่นจันทร์ตั้งอยู่ ร่างสูงของธามยืนอยู่หน้าศาลก่อนจะค่อย ๆ รูดซิปกางเกงยีนลง ฝ่ามือหนาควักเจ้าลูกชายที่ยังคงหลับสนิทออกมาสู่โลกภายนอก มุมปากหยักกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์
‘โบราณว่าไว้ว่า...ถ้าอยากเจอนางตานีให้เอาของลับถูที่ลำต้นกล้วยตานีที่มีนางตานีสิงสถิต!!’
กลิ่นจันทร์เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เธออ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
อ่า...ใหญ่จัง
เธอไม่คิดเลยว่าธามจะมายืนโชว์ของลับของตัวเอง นี่เขาเสียสติหรือว่าประสาทกลับไปแล้วกันแน่ถึงได้ทำอะไรแบบนี้
“อ่า...ของผมก็ใหญ่พอตัวนะครับ เจ้าแม่ไม่สนใจจริง ๆ เหรอครับ”
ธามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ เขาเดินซวนเซเล็กน้อยเข้าไปใกล้ต้นกล้วยตานีที่อยู่ข้างศาล แล้วบรรจงจับน้องชายถูไถที่ลำต้นกล้วยตานีช้า ๆ สามครั้ง
“กรี๊ดดดดด!! เอามันออกไปเลยนะ ไม่งั้นกูจะตามไปหักคอมึงให้ตายเลย ไอวิตถาร”
ในที่สุดเธอก็ไม่อาจจะทนกับการกระทำของเขาได้ กลิ่นจันทร์ออกมาปรากฏกายตรงหน้าธามด้วยความโกรธ ดวงตาสีแดงราวกับเปลวเพลิงในนรกมองการกระทำของเขาด้วยความไม่พอใจ แต่สองแก้มของเธอกลับแดงก่ำด้วยความขัดเขิน
“อ้าว! ไม่ชอบเหรอครับ ผมอ่านมาเขาบอกว่าให้เอามาถูกที่ต้นกล้วยตานีนี่น่า ถ้าทำอย่างนี้แล้วเจ้าแม่จะยินยอมเป็นเมียผม”
“เขานี่ใคร มันบ้าไปแล้วเหรอวะ ถ้านางตานีที่ยอมเพราะทำอย่างนั้นอาจจะมีแต่ไม่ใช่กูแน่นอน ยิ่งมึงทำอย่างนี้กูยิ่งรู้สึกรังเกียจ”
“เหรอครับ?”
เขาส่งยิ้มยียวน ขณะที่เขามองใบหน้าสวยหวานของเจ้าแม่ ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ชักรูดน้องชายของเขาไปด้วย จนตอนนี้จากที่มันเคยสงบนิ่งเริ่มขยายใหญ่ขึ้นมาจนชี้โด่มาทางกลิ่นจันทร์
ดวงตาคู่สีแดงเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
“มัน...ยังใหญ่ได้อีกหรือ?”
น้ำเสียงหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัยเสียงสั่น อยู่มานานกว่า 300 ปีไม่เคยเห็นของลับของผู้ชายเลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก!
“ใหญ่ได้มากกว่านี้อีกครับ เจ้าแม่อยากจะลองดูไหมครับ”
ธามกระตุกยิ้มยั่ว พลางขยับมือชักรูดท่อนเอ็นของเขาให้ขยายใหญ่ขึ้นไปอีก ยิ่งเขาได้เห็นสีหน้าที่ดูสงสัยกับท่าทางที่ดูไร้เดียงสาของเจ้าแม่ เจ้าน้องชายของเขากลับเกิดอารมณ์ขึ้นมาเสียได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือดหรือเปล่า เขาถึงได้ทำเรื่องที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน
“กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ลอง มึงเลิกมายุ่งวุ่นวายกับกูเสียที เรื่องที่แม่มึงบอกว่าจะยกมึงให้มาเป็นผัวกูก็เลิกคิดไปเสีย กูไม่ได้อยากได้มึงมาเป็นผัว”
ใบหน้าหล่อคมขยับเข้ามาใกล้กลิ่นจันทร์เรื่อย ๆ ลมหายใจอุ่นร้อนที่มีกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปรินรดใบหน้าสวยหวานของกลิ่นจันทร์ เธอพยายามจะเบือนหน้านี้ แต่สายตากลับยังคงจ้องท่อนเอ็นของธามโดยที่ไม่สามารถละสายตาไปได้เลย
“แล้วถ้าผมบอกว่าผมเปลี่ยนใจอยากเป็น...อ๊วก”
ธามโก่งคออาเจียนออกมาตรงหน้าของกลิ่นจันทร์ ร่างสูงของเขาซวนเซเล็กน้อยก่อนจะฟุบลงไปใต้ต้นกล้วยตานี เขาสลบเหมือดไปในทันทีพร้อมกับสติที่ดับวูบลง
กลิ่นจันทร์มองธามด้วยสายตาดูถูก พลางเบะปากสมน้ำหน้า
“หึ คิดจะมาเป็นผัวกู มึงเลิกอ้วกเป็นหมาให้ได้เสียก่อนเถิด ทุเรศทุรังลูกตากูจริง ๆ เลย”
กลิ่นจันทร์สบถออกมา แต่เมื่อมองดูร่างที่ไร้สติของเขา เธอก็อดจะนึกเวทนาไม่ได้ จะปล่อยให้นอนทั้งที่มีอ้วกเลอะเทอะอยู่เต็มตัว และยังเจ้าสิ่งนั้นที่ยังคงชี้โด่ชี้เด่อยู่นี่ก็กระไรอยู่
กลิ่นจันทร์จึงดลบันดาลพาร่างของธามกลับไปยังห้องนอนของเขา เสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่ก็ถูกถอดทิ้งแล้วใส่ในตะกร้าผ้า ผ้าสีขาวที่เพิ่งซับน้ำมาหมาด ๆ กลิ่นจันทร์ก็เอามาช่วยเช็ดหน้า เช็ดคราบอ้วกออกจากร่างของธามไปจนหมด
“คิดว่าจะผอมแห้ง มีกล้ามเหมือนกันนะเนี่ย”
สายตาคู่สวยไล่สำรวจทั่วเรือนร่างของธาม ปลายนิ้วไล้จิ้มที่หน้าอกแกร่ง แล้วไล่ลงมาที่กล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนสวย ก่อนจะหยุดที่หลุมสะดือแล้วต่ำลงมาเรื่อย ๆ ที่ท่อนเอ็นขรุขระที่มีเส้นเลือดพันอยู่รอบ ๆ
กลิ่นจันทร์รู้สึกหายใจติดขัด ทั้งที่เธอไม่ได้หายใจอย่างมนุษย์ แต่เวลานี้เธอกลับรู้สึกว่าหัวใจที่เคยสงบนิ่งมาเนิ่นนานได้กลับมาเต้นอีกครั้งเสียอย่างนั้น
ตึก ตึก ตึก!!
“กูเป็นอะไรไปเนี่ย”
กลิ่นจันทร์ยกมือขึ้นมาทาบที่หน้าอกตรงตำแหน่งของหัวใจด้วยความฉงน ใบหน้าหวานที่เคยซีดขาวเริ่มแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
หมับ!!
ธามลืมตาขึ้นมาแล้วจับข้อมือของเจ้าแม่เอาไว้แน่น ก่อนที่เขาจะมึนงงว่าเขาสามารถจับตัวเจ้าแม่ได้ด้วยเหรอ
"เอ๊ะ! จับได้ด้วยเหรอ"
"ก็ต้องได้สิ ก็นี่มันเป็นเวลากลางคืน กูสามารถออกมาปรากฏกายให้มึงเห็นได้ และมึงเองก็สามารถจับต้องตัวกูได้ด้วย มึงนี่โง่เสียจริง"
กลิ่นจันทร์แอบแขวะกับความไม่รู้ของธาม เขามักชอบทำตัวราวกับคนโง่เขลา แต่บางครั้งก็ดูเจ้าเล่ห์จนเธอตามไม่ทัน
"ใครจะไปรู้ล่ะครับ ผมไม่เคยมีเมียเป็นนางตานีนี่ครับ แล้วเสื้อผ้าของผมหายไปไหน นี่เจ้าแม่คิดจะลักหลับผมเหรอ เห็นจ้องเจ้าลูกชายผมตาไม่กะพริบเลยนะครับ"
กลิ่นจันทร์ลุกพรวดออกจากเตียงด้วยความตกใจ
"กูแค่สงสารคนเมาเหมือนหมา เลยช่วยถอดเสื้อผ้าเช็ดตัวให้ ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ"
"แต่ถ้าเจ้าแม่จะคิด ผมก็ไม่ขัดนะครับ"
ธามกระตุกยิ้มยั่ว เขายังคงรู้สึกเมาค้างอยู่เล็กน้อย แต่เพราะอ้วกไปแล้วจึงเริ่มรู้สึกดีขึ้น สติสัมปชัญญะเริ่มกลับมา ตอนนี้เขาจะเริ่มรุกแรงใส่เจ้าแม่บ้างแล้ว
ดูสิว่าถ้าเห็นผู้ชายเปลือยกายอยู่ตรงหน้า เจ้าแม่ก็เจ้าแม่เถอะ จะไม่อยากมาร่วมสนุกกับเขาจริง ๆ เหรอ?