บทที่ 4 เซียมซีผีสิง
“ตื่นแต่เช้าจะไปไหนเหรอกรณ์”
เกรียงไกรเดินมาเห็นลูกนั่งอยู่หน้าจอทีวีในห้องโถง เขาแปลกใจกับการตื่นเช้ามืดของลูก
“ไม่ไปไหนหรอกพ่อ นอนไม่หลับก็เลยลุกดีกว่า”
เขาตอบพ่อแต่สายตาอยู่ที่ข่าวในจอทีวี เขาจะบอกพ่อกับแม่ได้อย่างไรว่าตื่นเช้าเพราะอะไรถ้าเล่าให้ฟังว่าฝันวิ่งขายไข่เจียวหน้าห้างฯดังรับรองพ่อกับแม่หัวเราะบ้านแตกแน่
“วันนี้ไปขายข้าวกับพ่อมั้ยล่ะ”
“ไปครับ เดี๋ยวผมช่วยแม่เข็นรถเอง”
เขาหันมายิ้มกับพ่อและทำตามที่พูดช่วยแม่เข็นรถไปตั้งตรงจุดที่เช่าขาย ช่วงเช้าขายดีเหมือนทุกวันเสาร์อาทิตย์ ช่วงบ่ายก็ขายได้ประมาณ 2 โมงเย็นข้าวก็หมด เขาช่วยพ่อกับแม่เก็บของเข้าบ้าน ช่วยล้างจานชามเรียบร้อย เขาอยากไปเดินห้างสรรพสินค้า ความคิดจะให้พ่อกับแม่ไปขายข้าวไข่เจียวที่นั่นยังคงรบกวนจิตใจ เขาเดินเรื่อย ๆ ไปหยุดหน้าบ้านวุฒิศักดิ์เรียกเพื่อนอยู่หน้าประตูรั้ว
“วุฒิ วุฒิ อยู่มั้ยวะ”
“อยู่ เข้ามาสิ”
วุฒิศักดิ์ตะโกนออกมาจากในบ้าน เขาตะโกนกลับเข้าไป
“ไม่เข้าโว้ย จะมาชวนไปเดินเล่น”
“ไปเดินเล่นที่ไหนวะ กำลังคิดอยู่เชียวว่ะรอเปลี่ยนเสื้อแป๊บเดียว”
เพื่อนโผล่หน้ามาถามทางหน้าต่างแล้วผลุบหายเข้าไปครู่เดียวก็เดินยิ้มร่าออกมาจากบ้าน
“ไปไหนดีวะ”
“ว่าจะไปเดินห้างฯ กูอยากให้พ่อกับแม่ไปขายข้าวที่นั่นจริงๆ นะโว้ยวุฒิ”
ปกรณ์พูดขณะเดินนำเพื่อนออกมาจากประตูรั้ว เขาจะไปดูที่ว่างข้างร้านขายก๋วยเตี๋ยวแต่ความฝันเมื่อคืนก็วาบเข้ามาในสมอง เขาหยุดเดิน
“อะไรวะ หยุดทำไมขี้เกียจเดินรึไง”
“ไปศาลเจ้ากัน กูอยากเสี่ยงเซียมซีว่าจะขายข้าวที่หน้าห้างฯได้มั้ย ไปว่ะ”
พอพูดจบเท้าเปลี่ยนทิศทางเดินทันที วุฒิศักดิ์ทำหน้าเบื่อแต่ก็ก้าวตามเพื่อนเลี้ยวขวามือตรงไปจนถึงท้ายซอย เจ้าของหมู่บ้านคนเก่าสร้างเป็นศาลเจ้าไว้ให้คนในหมู่บ้านกราบไหว้ตามความเชื่อของชาวจีน หากไหว้บรรพบุรุษหรือเทพเจ้าของพวกเขา การทำมาหากินจะไม่มีอุปสรรคและครอบครัวอยู่กันอย่างสุขสบาย ชาวบ้านจึงมากราบไหว้บนบานขอพรจากศาลนี้บ่อย ๆ
“กูว่าเลิกคิดเถอะว่ะ มันยากนะโว้ยอีกอย่างข้าวไข่เจียวใครจะกินทุกวันเขาก็เบื่อกันเป็นสู้หาของกินในห้างฯ เยอะแยะจะเลือกกินอะไรก็ได้มีให้เลือกเพียบ มึงหยุดคิดเถอะกรณ์”
“กูไม่หยุด กูอยากลอง กูจะเสี่ยงเซียมซีดูถ้าดีกูทำแน่ถึงพ่อกับแม่กูไม่เห็นด้วยกูนี่แหละจะขายข้าวไข่เจียวหน้าห้างฯเอง”
เขาไม่ฟังคำคัดค้านของเพื่อนรักเพื่อนร่วมหมู่บ้าน เขาเสี่ยงเซียมซีเพื่อช่วยให้ความสับสนในใจลดน้อยลง ทำไมเขาอยากตั้งร้านขายข้าวไข่เจียวหน้าห้างสรรพสินค้า เขาคิดเล่น ๆ แต่พอบอกกับพ่อแม่แล้วความคิดนั้นเป็นรูปร่างอย่างไม่น่าเชื่อถึงกับเก็บไปฝันเมื่อพ่อแม่ไม่เห็นด้วยกับเขา
วันนี้เขาจึงอยากเสี่ยงเซียมซีว่าสิ่งที่เขาคิดและอยากทำจะเป็นอย่างไร แม่เคยบอกกับเขาว่าศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ถ้าคนศรัทธาและไม่ลบหลู่ ท่านเทพเจ้าจะช่วยให้ทำกิจการงานสำเร็จแต่ต้องเป็นคนดีซื่อสัตย์สุจริตทำการค้าก็ต้องสุจริตไม่คดโกงใคร เขาตั้งจิตอธิษฐานเสียงอยู่ในลำคอ
“สาธุ ท่านเทพเจ้าประจำศาลแห่งนี้ ท่านปู่ย่าตาทวด อากง อาม่า อาซ้ออาอี๊และอีกเยอะแยะมากมายให้ผมได้ใบเซียมซีที่ดีเลิศด้วยเถิด”
เขาสั่นกระบอกก็ไม่ได้ไม้ชิ้นเดียวจึงสั่นใหม่อีกครั้งและครั้งนี้ไม้หล่นออกมาอันเดียวสมใจคิดแต่พอจะอ่านคำทำนายกระดาษกลับปลิวให้วิ่งตามจนเหนื่อยและมาตกที่โคนต้นไม้ เขาก้มลงหยิบกระดาษขึ้นมาจะอ่านคำทำนายเสียงเรียกดังมาด้านหลัง
“ไอ้กรณ์ ไอ้กรณ์ มึงดูของกูก่อนโว้ย ต้นร้ายปลายดีโว้ย ดูนี่ ดู”
วุฒิศักดิ์วิ่งเข้ามายื่นแผ่นกระดาษมาตรงหน้าเพื่อนและพยักหน้าให้เพื่อนอ่านคำทำนายของเขา ปกรณ์ได้แต่มองกระดาษแล้วว่า
“กูอ่านของกูก่อน”
“เออ ของมึงไว้ก่อน ไหนกูดูซิ”
วุฒิศักดิ์แย่งแผ่นทำนายไปจากมือปกรณ์แล้วยัดแผ่นของเขาใส่มือเพื่อนแทน
“ไอ้มารยาททราม มึงเอาของกูคืนมา”
ปกรณ์เสียงดังวิ่งไล่ตามวุฒิศักดิ์ที่วิ่งหนีกลับไปทางศาลเจ้า เสียงหัวเราะดังมาจากต้นไม้และร่างของชายวัยกลางคนปรากฏเป็นเงาอยู่โคนต้น ชุดที่สวมเป็นชุดที่เศรษฐีชาวจีนชอบสวม เสื้อคลุมผ้าแพรสีดำเนื้อดีปักลายมังกรทอง กางเกงแพรสีเดียวกัน ผมตัดแต่งเรียบร้อย ใบหน้าออกไปทางจีนชัดเจน ตาตี่จมูกโด่ง คิ้วเข้ม ผิวขาว ร่างสูงโปร่ง รวมแล้วหน้าตาดีคนหนึ่งทีเดียว
“ไอ้หนุ่ม ชีวิกของลื้อถูกกำหนกไว้แล้ว อั๊วนี่แหละจะทำให้ลื้อเดิงไปตามเซ่งชีวิกนั้ง ลื้อขายข้าวไข่เจียวร่ายแต่ลื้ออยู่ตรงนั้งนานไม่ร่าย..ขอบอก ฮิ ฮี ฮี่”
ร่างนั้นแวบหายไปจากโคนต้นไม้ ปกรณ์วิ่งไล่จับตัววุฒิศักดิ์ทันที่หน้าศาลเจ้า วุฒิศักดิ์ทรุดนั่งบนบันไดหน้าศาล หอบตัวโยน ปกรณ์วิ่งมานั่งข้างกันอาการไม่ต่างไปจากเพื่อน
“โอยเหนื่อย..”
วุฒิศักดิ์ร้องออกมา ปกรณ์ใช้เท้าถีบที่ก้นเพื่อนและส่งแผ่นทำนายเซียมซีคืนให้เพื่อน
“มึงหนีกูทำไมพลอยให้กูเหนื่อยไปด้วย เอาของกูมา เอาของมึงคืนไปกูไม่อยากอ่าน”
“แต่กูอยากอ่านของมึง มึงนั่งฟังเฉยๆ กูอ่านเอง”
วุฒิศักดิ์คลี่แผ่นกระดาษที่เขากำจนยับขณะวิ่งหนีเพื่อนแต่พอคลี่กระดาษออกตัวหนังสือที่เห็นจางจนอ่านไม่ได้