บทที่ 6 น้องชายที่ตายจากไป
เรื่องที่เสิ่นอี้แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังพลิกสถานการณ์ให้ทุกอย่างไม่เลวร้ายลงไปกว่าเดิม สร้างความปวดหัวให้นายอำเภออู๋ไม่น้อย หากยังปล่อยให้เสิ่นอี้ทำทุกอย่างได้อย่างราบรื่นต่อไปเช่นนี้ เขาเกรงว่าสักวัน เสิ่นอี้อาจจะล่วงรู้เรื่องราวที่เขาและนายท่านกำลังลงมือทำเข้าสักวัน
ต้องหาทางกำจัดเสียก่อน
การจะกำจัดเสิ่นอี้ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก เขาเดินทางมาอยู่ที่นี่ซึ่งห่างไกลจากเมืองหลวง เป็นบุตรชายแม่ทัพแล้วอย่างไรเล่า ก็จัดฉากว่าเขาล้มป่วยตายไปเสียก็สิ้นเรื่อง ส่วนบุตรชายของเขาก็ให้ตายด้วยอุบัติเหตุ เช่นนี้แล้วใครจะมาสาวถึงตัวเขาได้
อีกทั้งนายท่านย่อมเตรียมหาทางหนีทีไล่เอาไว้อยู่แล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนั้นนายอำเภออู๋จึงรีบให้คนส่งจดหมายไปแจ้งเจ้านายของตนถึงแผนการที่ตนกำลังคิดจะลงมือทำ นายท่านที่ว่านั้นเมื่ออ่านจดหมายจบแล้วก็เพียงยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเขียนจดหมายตอบกลับว่าให้ลงมือได้เลย อีกทั้งยังต้องทำอย่างลับๆ และต้องรัดกุมอีกด้วย
เช้าวันนี้อากาศค่อนข้างแจ่มใส ไป๋จินเซียงออกมาหาซื้อของเอาไว้ไปทำขายที่เหลาสุราเช่นเดิม จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนถึงยามบ่ายนางก็คิดจะกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่ที่จวนตระกูลไป๋เสียหน่อย เพราะทั้งเช้าทำงานมาเหนื่อย จนเหงื่อท่วมตัวแล้ว
หญิงสาวเดินไปตามทางเรื่อยๆ ตั้งแต่ที่พวกหูถงถูกเสิ่นอี้จับตัวไปก็ไม่มาก่อกวนอีกเลย ชาวบ้านค่อนข้างใช้ชีวิตได้อย่างสุขสงบเป็นอย่างมาก ไป๋จินเซียงเดินลัดเลาะมาตามตรอกซอกซอย ก่อนจะได้ยินเสียงแว่วของเด็กร้องไห้ หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ชะงักฝีเท้าและมองหาต้นตอของเสียงนั้น นางมองไปรอบๆ บริเวณ และเดินตรงไปยังทิศทางของเสียง ยิ่งก้าวเข้าไปใกล้เสียงของเด็กร้องก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไป๋จินเซียงเดินมาจนหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กชายตัวน้อยผู้หนึ่งที่กำลังนั่งคุดคู้ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
"ฮือ ท่านพ่อ ข้าอยากกลับไปหาท่านพ่อ"
เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กชายวัยเพียงห้าหกขวบ อีกทั้งการแต่งกายก็ดูดีมีฐานะเหมือนบุตรชายจากตระกูลผู้ดี ไป๋จินเซียงจึงทิ้งกายนั่งลงตรงหน้า ก่อนจะเอ่ย
"เจ้าหนูน้อย เจ้ามาร้องไห้ตรงนี้ทำไมกัน บิดามารดาของเจ้าเล่า"
เสิ่นเป่าเมื่อได้ยินเสียงหวานใสของสตรีก็รีบเงยหน้าขึ้นมามอง ใบหน้าน้อยๆ ยามนี้มีแต่คราบน้ำตาเต็มไปหมด ไป๋จินเซียงเมื่อได้เห็นใบหน้าของเด็กชายตรงหน้าชัดๆ นางก็ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะแดงเรื่อ มือของนางสั่นระริก ริมฝีปากแดงฉ่ำค่อยๆ เอื้อนเอ่ยเรียกชื่อใครคนหนึ่งออกมา
"ไป๋ซาน!"
เสิ่นเป่าไม่เข้าใจว่าเหตุใดสตรีตรงหน้า เมื่อมองเห็นหน้าเขาแล้วจะต้องร้องไห้ออกมาเช่นนั้น ในขณะที่เขากำลังตกใจ นางก็คว้าตัวเขาเข้าไปกอดเอาไว้ พร้อมกับเรียกชื่อของใครก็ไม่รู้ที่เขาไม่คุ้นหูเอาเสียเลย
ไป๋จินเซียงยามนี้ร้องไห้โฮเหมือนคนบ้า ไป๋ซานน้องชายที่ตายไปแล้วของนาง เหตุใดจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่กันนะ
ในภพชาติปัจจุบันก่อนที่นางจะล้มป่วยจนตายและทะลุมิติมาที่นี่ นางมีน้องชายชื่อไป๋ซานอายุหกขวบ ทว่าเขากลับถูกรถชนตาย นางเสียใจจนล้มป่วยสุดท้ายก็ตายจากไปเช่นเดียวกับน้องชาย
นางรักน้องชายมาก ตั้งแต่พ่อแม่ตายจากไปนางก็ดูแลไป๋ซานมาตลอด สองพี่น้องใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยความยากลำบาก
แต่ไป๋ซานของนางช่างโชคร้ายเหลือเกินที่มาจากนางไปก่อน
ทว่าสวรรค์! นางทะลุมิติเวลามาที่นี่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้พบกับไป๋ซานอีกครั้ง
"ไป๋ซาน ฮือ!"
เสิ่นเป่าจากที่ร้องไห้โยเย เมื่อมาเจอสตรีตรงหน้าที่ร้องไห้หนักยิ่งกว่าตนก็หยุดร้องทันที มือน้อยๆ ค่อยๆ ยกขึ้นไปตบแผ่นหลังของหญิงสาวที่กอดตนเอาไว้ พลางปลอบใจ
"พี่สาว ท่านขี้แยกว่าข้าเสียอีก"
ไป๋จินเซียงรีบผละออก ก่อนจะมองเด็กชายตรงหน้าแล้วรีบซักถาม
"ไป๋ซาน เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร?"
เสิ่นเป่ามองไป๋จินเซียงอย่างงงงวย
"ข้าไม่ใช่ไป๋ซานอะไรนั่น ข้าชื่อเสิ่นเป่า บิดาข้าเป็น เอ่อ… เป็นอะไรนะจำไม่ได้แล้ว โอย ปวดท้องจัง"
อยู่ๆ เขาก็ยกมือขึ้นกุมท้อง ใบหน้าน้อยๆ บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ไป๋จินเซียงเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงรีบถามทันที
"เจ้าเป็นอันใด"
เสิ่นเป่ายกมือขึ้นลูบพุงตนเอง
"ข้าหิว ข้าหิวหลือเกิน"
ไป๋จินเซียงเมื่อได้ยินว่าเด็กน้อยตรงหน้าหิวจนปวดท้อง ก็ลนลานเล็กน้อย
"ไปกับข้า ข้าจะพาเจ้าไปกินอาหารเอง"
เสิ่นเป่ามองไป๋จินเซียงครู่หนึ่ง ไป๋ซินเจียงเข้าใจดีว่าเด็กน้อยตรงหน้าคงจะยังไม่ไว้ใจนาง
"ไม่ต้องกลัวนะ ข้าเป็นคนดี ข้าไม่วันทำร้ายเจ้าข้ารับรองว่าเจ้าจะได้กินของอร่อยแน่นอน"
พูดจบนางก็ให้เสิ่นเป่าขี่หลังตน ก่อนจะพาเขากลับจวนตระกูลไป๋ทันที
เมื่อมาถึงจวนตระกูลไป๋ ไป๋จินเซียงก็ทำอาหารอร่อยๆ ให้เสิ่นเป่ากินหลายอย่าง เสิ่นเป่าเห็นว่าไป๋จินเซียงไม่คิดทำร้ายตนจริงๆ ก็เริ่มพูดคุยกับนางมากขึ้น เด็กน้อยบอกว่าเขาพลัดหลงกับพี่เลี้ยง บิดามาที่นี่เพื่อทำงาน แต่เขาจำไม่ค่อยได้ว่าบิดาทำงานอะไร ไป๋จินเซียงที่ได้ฟังก็เข้าใจได้ในทันที
เด็กชายผู้นี้ไม่ใช่ไป๋ซานของนาง เขามีชื่อว่าเสิ่นเป่า เขาเพียงหน้าตาเหมือนน้องชายของนางเท่านั้น
แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยเขาก็หน้าเหมือนน้องชายของนางที่ตายไป เพียงเท่านี้นางก็ดีใจมากแล้ว
ไป๋จินเซียงมองเสิ่นเป่าที่กินอาหารอย่างเอ็นดู ก่อนจะคิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง
แซ่เสิ่นอย่างนั้นหรือ?
เอ๊ะ แซ่เสิ่นหรือ ข้าคุ้นๆนะ...
จวนท่านเจ้าเมือง
"ขออภัยเจ้าค่ะนายท่าน เป็นข้าที่ดูแลคุณชายน้อยไม่ดีเอง ข้าน้อยยินดีรับโทษโบยเจ้าค่ะ"
จิ้นอิ๋งร้องไห้จนหน้าตาบวมไปหมด เสิ่นอี้มองสาวใช้ร่างหนาตรงหน้า แล้วออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
"ยามนี้ไม่ใช่เวลามาเอาผิดหรือลงโทษสถานหนักอันใดทั้งสิ้น เจ้าจงรีบพาข้าไปดูว่าเสิ่นเป่าออกไปที่ใดบ้าง"
"เจ้าค่ะ"