บทที่ 4 อันธพาล
ไป๋จินเซียงเดินกลับมาที่เหลาสุรา นางเริ่มสงสัยแล้วว่าเพราะเหตุใด เขาจึงต้องมาสอบถามนางถึงเรื่องพวกนั้นด้วย แต่คิดเท่าใดก็คิดไม่ออก นางจึงพยายามระงับสติตนเอง และเตรียมเปิดร้านต่อ
ยามบ่ายเหลาสุราของนางก็เปิดขายเหมือนเช่นทุกวัน วันนี้ลูกค้าค่อนข้างหนาแน่นไม่น้อยเลย ไป๋จินเซียงยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของตน เวลาผ่านล่วงเลยไปจนถึงยามเย็นท้องฟ้ามืดค่ำมากแล้ว นางให้บิดากลับจวนไปก่อน ส่วนตนก็อยู่เก็บร้านโดยมีซินซินเป็นลูกมือคอยช่วยเหลือ
"น้องจินเซียง วันนี้งดงามยิ่งนัก จะเก็บร้านแล้วหรือ"
ไป๋จินเซียงที่กำลังเก็บเก้าอี้พลันหันมามอง ก่อนจะพบกับพวกอันธพาลที่มักจะชอบมาก่อกวนชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง เป็นพวกขี้เมาวันๆ ไม่ทำการทำงาน มักรีดไถเงินชาวบ้านไปเล่นการพนันในโรงพนัน เขามีนามว่าหูถงเป็นหัวหน้าอันธพาล ไป๋จินเซียงกลอกตาไปมา ก่อนจะเท้าเอวมองหูถงอย่างไม่เป็นมิตร
"มีอะไร วันนี้ข้าไม่ว่างมาสนทนากับพวกเจ้า"
หูถงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มลามก พลางหยอกเย้านาง
"น้องจินเซียง ลองพูดกับพี่ดีๆ สิจ๊ะ เผื่อว่าพวกพี่จะช่วยเก็บร้านได้ หากทำให้พวกพี่ไม่พอใจ พวกพี่พังร้านไม่รู้ด้วยนะ"
หูถงพูดพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้ไป๋จินเซียง ไป๋จินเซียงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แสยะยิ้ม
"หากเจ้าสั่งให้คนพังร้านข้า ข้าก็จะใช้เก้าอี้ฟาดหัวเจ้าแตกเหมือนคราวก่อน เจ้าจะแลกหรือไม่เล่า"
หูถงเม้มริมฝีปากแน่น เมื่อหลายเดือนก่อนเขาถูกไป๋จินเซียงเอาไหสุราฟาดศีรษะจนแตกไปรอบหนึ่งแล้ว เขารู้ว่านางทำจริงไม่ได้พูดเล่น แต่ว่าเขาชอบนางจริงๆ จึงมาตามเกาะแกะนางไม่เลิกรา
"น้องจินเซียง เรามาพูดจากันดีดีเถอะ เจ้ายอมเป็นภรรยาข้าดีไหม ข้าจะดูแลร้านให้เจ้า รับรองว่าต่อให้เจ้าขายสุราแพงเพียงใด ก็จะไม่มีผู้ใดกล้าว่าเจ้าได้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกข้าน่ะ ทำงานให้นายอำเภออู๋ด้วยนะ ที่ประชาชนอยู่อย่างสงบเพราะนายอำเภออู๋ให้พวกข้ามาคอยดูแล หากเจ้าเป็นภรรยาข้า ข้าย่อมปกป้องเจ้าได้"
ไป๋จินเซียงแค่นเสียงเย็นในลำคอ
"งานขูดรีดประชาชนน่ะหรือ ทุเรศสิ้นดี ข้าจะบอกเจ้าเอาไว้นะ หูถง ต่อให้ผู้ชายทั้งแผ่นดินเหลือเพียงเจ้า ข้าก็ยอมตาย"
"เหอะ พูดดีดีไม่ฟัง เช่นนั้นข้าจะจัดการเจ้าที่หน้าร้านนี่แหละ ดูสิว่าเจ้าจะทำเช่นไร"
เอ่ยจบหูถงก็เดินเข้ามาหมายจะจับตัวไป๋จินเซียง ส่วนลูกน้องคนอื่นๆ ก็เข้าไปจับตัวซินซินสาวใช้ของนางเอาไว้ ไป๋จินเซียงโมโหแล้ว นางจึงยกเท้าเตะขาหูถง เขาเจ็บจนร้องโอ๊ย ไป๋จินเซียงที่เห็นเช่นนั้นจึงยกเก้าอี้ฟาดลงไปที่ตัวหูถงอย่างเต็มแรง หูถงเจ็บจนสบถด่าทอไม่ยอมหยุด ลูกน้องคนอื่นๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาจับตัวไป๋จินเซียงเอาไว้ ไป๋จินเซียงพยายามดิ้นรน ตะโกนด่าทอ
"สารเลว หมาหมู่หรือ!"
หูถงลุกขึ้นยืน ยามนี้เขาเจ็บไปทั้งตัว ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาไป๋จินเซียง ก่อนจะง้างฝ่ามือตบหน้าหญิงสาวเต็มแรง แล้วจึงยื่นมือมาบีบปลายคางของนางเอาไว้แน่น แล้วตะคอกด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยโทสะ
"อย่าคิดว่าข้าชอบเจ้าแล้วเจ้าจะทำอะไรข้าก็ได้นะ วันนี้เจ้าจะต้องเป็นเมียข้า!"
ในขณะที่หูถงกำลังจะลวนลามไป๋จินเซียง ก็มีใครคนหนึ่งถีบเขาจนกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้น ส่วนลูกน้องคนอื่นๆ ของเขาก็ถูกรวบจับไว้ทั้งหมด สาวใช้ซินซินรีบวิ่งเข้ามาหาไป๋จินเซียงอย่างหวาดกลัว ไป๋จินเซียงเจ็บระบมไปทั้งหน้า นางหันมามองผู้ที่มาช่วยเหลือก็ตกใจเป็นอันมาก
เป็นเขา ลูกค้าร้านสุราของนางผู้นั้น!
เสิ่นอี้ปรายตามองหูถงและลูกน้องด้วยแววตาที่เย็นชา กล่าวช้าๆ
"พวกเจ้าคงเป็นอันธพาลที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านสินะ"
หูถงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็สบถออกมา แล้วตะคอกใส่เสิ่นอี้อย่างไม่ยินยอม
"ทำไม! เจ้าหน้าหล่อนี่มันโผล่หัวมาจากที่ใดกันวะ ห๊ะ! รู้หรือไม่ว่าพวกข้าเป็นคนของนายอำเภออู๋เชียวนะ หากกลัวตายก็รีบไสหัวไป"
เสิ่นอี้แค่นเสียงเย็น แล้วจึงเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ
"หมิงเจ๋อ ลากตัวพวกมันกลับไปที่จวนเจ้าเมือง รอการไต่สวน"
"ขอรับนายท่าน"
หูถงเมื่อได้ยินก็ร้องขึ้นมาทันที
"เจ้าเป็นใครจึงกล้ามาจับตัวข้า!"
เสิ่นอี้มองหูถงด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก ก่อนจะล้วงหยิบตราประจำตัวเจ้าเมืองออกมา
"ข้าคือเจ้าเมืองฉางเยว่คนใหม่ เสิ่นอี้"
"ทะ ท่านเจ้าเมืองหรือ!"
"ลากตัวไปรอการไต่สวน แล้วตามตัวนายอำเภออู๋มาด้วย"
หูถงและพวกโดนลากตัวไปอย่างรวดเร็ว เสิ่นอี้เมื่อเห็นเช่นนั้นก็หันกลับมามองไป๋จินเซียงที่ยืนอยู่ ใบหน้าของนางยามนี้แดงเป็นรอยมือ มุมปากก็มีเลือดซึมเล็กน้อย ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด
ไป๋จินเซียงเม้มริมฝีปากแน่น นี่เขาคือท่านเจ้าเมืองอย่างนั้นหรือ ให้ตายเถอะ!
ไป๋จินเซียงคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่นางด่าทอต่อว่าท่านเจ้าเมืองตอนที่เก็บร้าน และด่าทางการที่ริมแม่น้ำอีกด้วย นางจึงปั้นหน้าไม่ถูก
หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ เขาจะจัดการนางเช่นไรกันนะ
เสิ่นอี้เดินเข้ามาหาไป๋จนเซียง หญิงสาวที่เห็นเช่นนั้นจึงยกมือขึ้นประสานพลางทำความเคารพ
"คาราวะท่านเจ้าเมือง ก่อนหน้านี้ข้าปากไม่ดี ปากพล่อยไป ขอท่านอย่าได้ถือสาเลยนะเจ้าคะ โปรดละเว้นข้าด้วยเถิด"
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของไป๋จินเซียงนับว่ายอดเยี่ยมไม่น้อยเลย เสิ่นอี้ได้ยินก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนหน้านี้เขาจำได้ นางแอบนินทาเขา
"สุราของเจ้ารสชาติดีมาก ข้าจะมาบ่อยๆ อ้อ อีกเดี๋ยวจะส่งคนนำเงินค่าสุราที่นายอำเภออู๋ติดค้างไว้มาคืนให้เจ้า แม่นางไป๋ ตอนข้าดื่มสุราข้าไม่รู้ว่าเขาเอามาโดยที่ยังไม่จ่ายเงิน ข้าจึงไม่ได้สำลักและละอายใจอย่างที่เจ้าสาปแช่งเอาไว้ ขออภัยที่ทำให้เจ้าผิดหวัง"
ไป๋จินเซียงมองเสิ่นอี้ตาปริบๆ ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น นางหัวเราะแหะๆ แล้วรีบประจบสอพลอ
"หากว่าท่านเจ้าเมืองชอบ ข้ายินดีให้ท่านดื่มโดยไม่คิดเงิน"
"อย่าเลย ข้าไม่ชอบเอาเปรียบผู้ใด"
"ท่านช่างประเสริฐยิ่งนัก"
เสิ่นอี้ลอบส่ายหน้าในใจ สตรีนางนี้กลับคำเปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็ว เห็นอยู่ว่าก่อนหน้านางด่าคนของทางการเป็นว่าเล่น แต่ยามนี้กลับทำตัวว่าง่ายขึ้นมาเชียว
เขาเองก็ไม่ได้เอ่ยต่อว่านาง เขาเข้าใจดีว่า นางคงหวาดกลัว เพราะเมืองฉางเยว่เน่าเหม็นมานานมาก ควรจะได้รับการสะสางเสียที
"เจ้าเจ็บมากหรือไม่ ข้าจะพาไปโรงหมอ"
"เอ่อ ไม่ต้องเจ้าค่ะ ข้าทำแผลเองได้"
"ไม่เป็นไร อย่างไรเจ้าก็ต้องไปที่จวนเจ้าเมืองกับข้า เพื่อเป็นพยานว่าพวกเขาทำเจ้าบาดเจ็บ"
"ท่านเจ้าเมือง"
"ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่ ท่านเจ้าเมืองคนก่อนเป็นเช่นไรข้าไม่รู้ แต่เมื่อข้ามาที่ี่นี่แล้ว ย่อมจะต้องช่วยดูแลพวกเจ้าอย่างเต็มที่ รีบไปเถอะ"
พูดจบเขาก็เดินนำหน้าจากไป ไป๋จินเซียงมองแผ่นหลังของเขา แล้วหันมาเอ่ยกับซินซิน
"เจ้ารีบกลับไปที่จวนแจ้งท่านพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วง ปิดร้านเแล้วข้าจะรีบกลับ"
"คุณหนู"
"ไปเถอะ ห้ามบอกว่าเกิดเรื่องล่ะ เสร็จธุระแล้วข้าจะรีบกลับ"
"เจ้าค่ะ"
ซินซินพยักหน้ารับคำ รีบทำตามที่ไป๋จินเซียงบอก ไป๋จินเซียงเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบปิดร้าน ก่อนจะเดินตามเสิ่นอี้ไปทันที
นายอำเภอเมืองอู๋เร่งรุดมาที่จวนเจ้าเมืองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พวกเวรตะไลนั่นสร้างเรื่องให้เขาแท้ๆ
เมื่อมาถึงก็ถูกเสิ่นอี้ไต่สวน แต่นายอำเภออู๋กลับหาทางบ่ายเบี่ยงเอาตัวรอดไปได้ สุดท้ายพวกถูหงจึงกลายเป็นแพะรับบาปไปเสียเอง เรื่องก็จบลงเช่นนี้ เสิ่นอี้สั่งให้คนนำตัวพวกถูหงไปขังเอาไว้
เสิ่นอี้รู้ดีว่าอาจจะมีเรื่องบางเรื่องที่มีลับลมคมใน ที่นายอำเภออู๋ซ่อนเอาไว้ แต่ยามนี้เขาเพิ่งมาจะลงมือบุ่มบ่ามไม่ได้เป็นอันขาด ส่วนอันธพาลพวกนี้ก็ขังเอาไว้ก่อน ดัดนิสัยให้เป็นคนดีได้เมื่อไหร่ค่อยปล่อยตัวกลับไป
ไป๋จินเซียงเมื่อเห็นเช่นนี้ สายตาที่มองเสิ่นอี้ก็ดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าเขาจะลงโทษคนผิดโดยไม่สนใจนายอำเภออู๋เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ต้องดูกันไปก่อน พวกต้นดีอ่อนปลายก็มีให้เห็นไม่น้อย
นางกวาดตามองดูบริเวณรอบจวนเจ้าเมือง ที่นี่ค่อนข้างกว้างใหญ่ไม่น้อยเลย หญิงสาวเห็นว่าเวลานี้ก็ไม่มีสิ่งใดแล้ว จึงหันมาเอ่ยกับเสิ่นอี้
"ท่านเจ้าเมือง ข้าขอตัวกลับก่อน ไม่อย่างนั้นท่านพ่อคงจะเป็นห่วงข้าแน่ ข้าไม่อยากให้เขารู้เรื่องนี้"
เสิ่นอี้พยักหน้า แล้วให้หมิงเจ๋อไปส่งนางที่จวนตระกูลไป๋
ยามเช้าวันต่อมาในขณะเสิ่นอี้เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หมิงเจ๋อก็เข้ามารายงานเรื่องของอันธพาลพวกนั้นที่ถูกจับขังเอาไว้ในคุก
"นายท่าน พวกอันธพาลที่ถูกจับตัวมา เหมือนจะกลายเป็นคนเสียสติกันไปหมดแล้วขอรับ ถามสิ่งใดตอบไม่รู้เรื่องเลย!"